- 10 เม.ย. 2568
ปิดจากมหากาพย์ สรุปดราม่าร้อน "ครูไพบูลย์ VS เอ๋ มิรา" กับคดีพรากผู้เยาว์ จากศัตรูสู่การให้อภัย แต่คดียังไม่จบ
จากกรณีการฟ้องร้องกันระหว่าง "เอ๋ มิรา" กับ "ครูไพบูลย์" ที่ล่าสุดเคลียร์ใจกันในคดีพรากผู้เยาว์ โดยครูไพบูลย์ยอมจ่ายค่าเสียหาย 800,000 บาท ทั้งที่ศาลสั่งแค่ 350,000 บาท แม่ของเอ๋มิรา แถลงไม่ติดใจดำเนินคดีแพ่งและอาญาอีกต่อไป แต่ในทางกฎหมาย คดียังไม่สิ้นสุด เพราะเป็นความผิดทางอาญาแผ่นดิน รอลุ้นว่า ศาลฎีกาจะพิพากษาอย่างไรต่อไป
ล่าสุดเพจดังอย่าง "อรรถรส" ก็ได้ออกมาโพสต์ สรุปประเด็นดราม่า "ครูไพบูลย์ VS เอ๋ มิรา" กับคดีพรากผู้เยาว์ ที่ล่าสุดลงเอยด้วยการให้อภัย แต่ยังไม่จบในทางกฎหมาย
จุดเริ่มต้นความสัมพันธ์
- ครูไพบูลย์ แสงเดือน คืออดีตสามีของ เอ๋ มิรา ทั้งคู่เริ่มคบหากันตั้งแต่เอ๋อายุ 16 ปี และมีลูกด้วยกันหนึ่งคน
- หลังเลิกรากัน เอ๋และครอบครัวได้ฟ้องร้องครูไพบูลย์ในข้อหา “พรากผู้เยาว์” ซึ่งเป็นคดีอาญาแผ่นดิน
- คดีนี้ดำเนินมายาวนานจนเข้าสู่ชั้นศาลอุทธรณ์ ซึ่งได้ตัดสินจำคุกครูไพบูลย์ 8 ปี ไม่รอลงอาญา และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนฎีกา
เหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้น
- วันที่ 9 เม.ย. 2568 แม่ของเอ๋ มิรา เดินทางไปศาล พร้อมกับ ทนายพัฒน์ เพื่อแถลงว่า "ไม่ติดใจเอาความ"
- ครูไพบูลย์ยอมชำระ “ค่าเสียหาย” จำนวน 800,000 บาท (แม้ศาลจะสั่งเพียง 350,000 บาท) เพื่อยุติความขัดแย้ง
แม่ของเอ๋จึงไม่ดำเนินคดีแพ่งและอาญาต่อ แต่อย่างไรก็ตาม คดียังไม่จบ เพราะเป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ต้องรอคำพิพากษาศาลฎีกา
ครูไพบูลย์โพสต์
- ขอบคุณแม่เอ๋, ทนายเต้ และทนายพัฒน์ และย้ำว่า “ไม่เคยโกรธหรือเกลียดใคร” พร้อมตั้งใจดูแลลูกทั้ง 2 ให้ดีที่สุด
อาจารย์ประจักษ์ชัย ไหทองคำออกมาโพสต์
อ.ประจักษ์ชัย เคยมีบทบาทช่วยเหลือเอ๋ มิราอย่างมาก ทั้งการดูแลด้านเพลงและสื่อ รวมถึงช่วยสู้คดี)
- โพสต์แรกของอาจารย์คือ บ่นผิดหวังว่า “ช่วยจนเกือบผมติดคุก..มาวันหนึ่งไปแอบเคลียร์กันได้ ผมเสียเงินขึ้นศาลฟรี.”
- โพสต์ที่สอง เผยว่า "เอ๋ มิรา กับแม่ควรปรึกษา บอกอะไรผมด้วยจะทำอะไร อย่างน้อยผมก็เคยช่วยเหลือ ปกป้องคุณ จนต้องขึ้นศาลคดีหมิ่น 7 ครั้ง โดนปรับเกือบ 2 ล้าน"
- โพสต์ที่สาม "ชนะมา2ศาล จำคุก8ปีไม่รอลงอาญา เหลือศาลฎีกา ..สู้มาเกือบตาย ผิดกับทนายเก่า มาตั้งทนายใหม่ ..จู่ๆบอกว่าแถลงไม่ติดใจ"
- โพสต์ที่สี่ "#ขึ้นศาล7ครั้งเกือบติดคุกคดีหมิ่นประมาท4ปี16เดือน และฟ้องค่าเสียหายผมอีก20ล้าน.เสียเงินวางศาลไป1ล้าน.ตอนนี้ผมรอลงอาญา2ปี ล้างห้องน้ำวัด ทุก4เดือน วิบากกรรมของผม"
ทนายพัฒน์ ชี้แจงข้อกฎหมาย ไว้ว่า
- คดีพรากผู้เยาว์ ยอมความไม่ได้ เพราะเป็นอาญาแผ่นดิน
- แต่การที่ผู้เสียหายแถลงไม่ติดใจ เป็นเหตุบรรเทาโทษ “ไม่ได้หมายความว่าคดีไม่เดินหน้าต่อครับ”
เอ๋ มิรา เคลียร์ประเด็นว่า...
- ขอบคุณ อ.ประจักษ์ชัย, พี่เบิร์ด, ป๋าเทพ ยืนยันว่าคดียังดำเนินต่อไป ส่วนแม่แค่รับเงินตามคำสั่งศาล ย้ำว่า “ไม่มีวันลืมสิ่งดี ๆ ที่ทุกคนเคยทำให้หนูค่ะ” นอกจากนี้ เอ๋ยังคอมเมนต์เพิ่มเติมอีกว่า
- ขอโทษทุกฝ่ายที่ทำให้ไม่สบายใจ และโทรเคลียร์กับอ.ประจักษ์ชัยแล้ว “บางอย่างอาจารย์อาจเข้าใจผิด หนูน้อมรับทุกอย่างค่ะ”
- และยังอธิบายว่าทนายพัฒน์เข้ามาช่วงท้าย เพราะไม่มีใครดูแลต่อแล้ว “ขอบคุณทนายพัฒน์และทนายเก่งด้วยค่ะ”
อ.ประจักษ์ชัยเข้าไปคอมเมนต์ใต้โพสต์ทนายพัฒน์
- “ผมไม่ได้น้อยใจครับ... วันที่โดนรังแก โดนฟ้อง พวกผมต่างหากที่ปกป้อง ให้คิดถึงใจเขาใจเรา”
บทสรุป
ดราม่าระหว่างครูไพบูลย์ - เอ๋ มิรา และผู้เกี่ยวข้อง ดูเหมือนกำลังคลี่คลายด้วยความเข้าใจ ในส่วนของอ.ประจักษ์ชัยเอง ครั้งนั้นแกก็ช่วยเหลือเอ๋เต็มที่มาตลอด และตัวเอ๋ก็พยายามขอโทษ และอธิบายเรียบร้อย บางเรื่องอาจมีเข้าใจผิด แต่ถ้าได้พูดกันตรง ๆ แล้วเข้าใจกัน มันก็น่าจะดีกับทุกคน ก็ขอให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี ต่างคนต่างไปต่อในทางของตัวเอง ด้วยความเคารพ และความเข้าใจ
ขอบคุณ อรรถรส