เปิดจำนวนเงิน หนุ่ม กรรชัย อาสาส่งเสีย น้องหนูดี เด็กสาวตามหาพ่อ

จากกรณีข่าวสาวตามหาญาติเพื่อเซ็นอนุมัติการรักษาแม่ที่ป่วยหนักในห้อง ICU หลังถูกวินิจฉัยว่าเป็นเนื้องอกในสมอง ขณะที่เธอเคยพยายามตามหาพ่อเพื่อขอทุนการศึกษา ก่อนจะพบว่าพ่อเป็นนายตำรวจใหญ่ แต่บล็อกเบอร์-ไลน์หนี แต่กลับถูกผลักไส ไม่มีที่พึ่งพิงในช่วงชีวิตที่แม่กำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ในรายการ โหนกระแส โดยพิธีกร “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ได้พูดคุยกับ “น้องหนูดี” ลูกสาวที่ถูกพ่อ ซึ่งเป็นนายตำรวจยศ พ.ต.อ. ปฏิเสธความสัมพันธ์ ทั้งที่เธอมีความฝันอยากเรียนต่อ แต่ขาดโอกาสและการสนับสนุน และได้รับรู้เรื่องราวจาก เพียว เจ้าของร้านนวด ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณของหนูดี มาเล่าเรื่องราวในรายการ

 

เพียว ผู้มีพระคุณของหนูดี เล่าว่า “รุ่ง” แม่ของน้องหนูดี เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ต้องทำงานและเลี้ยงดูลูกตามลำพัง เธอจึงตัดสินใจรับน้องเข้ามาอยู่ด้วย และย้ายชื่อเข้าทะเบียนบ้าน เพื่อให้น้องมีสิทธิเรียนใกล้บ้าน และเลี้ยงดูน้องเหมือนลูกของตัวเอง

 

ขณะที่ น้องหนูดีเล่าว่า แม่ไม่เคยบอกว่าพ่อเป็นใคร และตนก็ไม่เคยคิดถาม เพราะไม่รู้สึกขาดความอบอุ่น ขณะที่ เพียวเผยว่าเคยเห็นชื่อพ่อในใบสูติบัตร แต่ไม่เคยให้ความสำคัญหรือคิดจะตามหา จนกระทั่งแม่เริ่มล้มป่วย รายได้ลดลงจากเดือนละเกือบ 20,000 บาท ทำให้ภาระทางการเงินเพิ่มขึ้น
 

 

ปัจจุบันน้องหนูดีจบ ม.3 แต่ไม่สามารถสมัครเรียนต่อได้ เพราะยังค้างชำระค่าเทอม เธอจึงอยากติดต่อพ่อเพื่อขอความช่วยเหลือด้านการศึกษา โดย รุ่งได้ขอให้ เพียว ช่วยพาไปหาพ่อ ตามชื่อในสูติบัตร และพบว่าพ่อเป็นนายตำรวจยศ พ.ต.อ. ดำรงตำแหน่งในองค์กรและมีภาพลักษณ์ดีเมื่อไปถึงหน่วยงานที่พ่อทำงาน ลูกน้องแจ้งว่าไม่สามารถให้พบได้ และบอกว่าจะติดต่อกลับเอง 

 

น้องหนูดีเล่าว่า เธอมีความฝันอยากเป็นทนายความ และตั้งใจเรียนต่อสายสามัญ แต่ด้วยปัญหาต่างๆ จึงเริ่มพิจารณาเรียนสายอาชีวะเพื่อทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย 
 

ทั้งนี้ ทางคุณพ่อได้ติดต่อมายังรายการ โดยระบุว่าไม่สะดวกเข้าสายโฟนอิน แต่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตอนเด็กเคยดูแลลูก และให้ “น้องสาวที่เป็นแพทย์” เลี้ยงที่ชลบุรี พร้อมกับ รุ่ง แม่ของน้องหนูดี แต่ทั้งสองคนอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน ก่อน รุ่ง จะพาลูกหนี อ้างว่าจะไปทำงานที่ญี่ปุ่น โดย รุ่งทำสิ่งที่ตนรับไม่ได้ จึงบล็อกการติดต่อทุกช่องทาง

 

นอกจากนี้ พ.ต.อ. อธิบายเหตุผลที่ปฏิเสธการพบหน้าลูกว่า การมาหาในสถานที่ราชการไม่เหมาะสม ส่วนเรื่องช่วยเหลือค่าเล่าเรียน กำลังจะช่วยอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันเงินเก็บหมดไปกว่า 2 ล้านบาท เพราะใช้รักษาตัวจากการติดเชื้อในกระแสเลือด

 

ในช่วงหนึ่งของรายการ ทาง M-150 และ ดัชมิลล์ ได้มอบเงินช่วยเหลือรายละ 20,000 บาท ขณะที่ “หนุ่ม กรรชัย” ได้เสนอให้น้องหนูดีตัดสินใจเรื่องแนวทางการเรียน หากอยากเป็นทนายความจะสนับสนุนให้กลับไปเรียนสายสามัญ แต่ถ้าอยากเรียนสายอาชีพ ก็จะรับผิดชอบค่าเล่าเรียนจนจบ

หนุ่ม กรรชัย อธิบายว่า "เรื่องราวของหนูน่าจะประมาณแบบนี้ แล้วก็พี่เป็นกำลังใจให้หนูนะลูก วันนี้พี่เองเท่าที่ฟังหนูพูดมาทั้งหมด พี่ชอบใจหนูอย่างหนึ่งที่ว่า หนูเองเป็นเด็กที่พยายาม และ ไม่หวังจะพึ่งใคร ฟังจากที่เขาไม่เคยจะไปร้องขอจากใคร ยกเว้นว่าเขาจะทำงานเอง อย่างเมื่อกี้ที่แกล้งถามว่าถ้ามีคนส่งเรียนสายสามัญจะเรียนมั้ย เขาก็ยังยืนยันว่าจะเรียนสายอาชีพ เพราะต้องการจะส่งตัวเองเรียน ก็คือไม่ได้จะหวังพึ่งคนอื่น 

 

ข้อเท็จจริงจะเป็นยังไงไม่รู้นะ แต่ที่พี่จับความรู้สึกได้คือมันเป็นแบบนั้น วันนี้มันมีทางเลือกให้หนูลูก ไหนๆ ก็มาแล้ว อันดับแรก หนูกลับไปตัดสินใจดูว่า หนูจะเรียนอะไร ถ้าหนูตัดสินใจได้แล้วติดต่อพี่มา ค่าเทอมเดี๋ยวพี่จะจ่ายให้ทั้งหมด พี่จะจ่ายให้หนูยันเรียนจบนั่นแหละ ประ ปวช. หรือ ปวส. หรือ จบม.6 ก็เดี๋ยวมาว่ากัน อันนี้ทางเลือกแรก 

 

ทางเลือกที่สอง ทางเราได้มีการติดต่อสภาสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ก็อาจจะมีการยื่นเรื่องขอทุนการศึกษา และเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ นานา เรื่องที่หนูจะไปทำงาน สายอาชีพ ถ้าหนูเลือกทางนี้ หนูก็จะไปสุดแล้ว หนูก็สามารถจะเรียนกฎหมายได้เหมือนกัน ค่าเทอมของหนูไม่ต้องรับผิดชอบ เดี๋ยวจะมีคนรับผิดชอบให้หนู หนูทำงานเก็บเงินและเอาไปดูแลแม่ เงินที่ได้จากการทำงานหนูเอาไปดูแลแม่ 

 

ส่วนพ่อก็ไม่ต้องไปโกรธเค้า ก็ถือซะว่าเค้าเลือกทางเดินแบบนั้น ทุกคนมีทางเลือกหมดลูก ทุกคนมีทางเดิน บางเรื่องเขาเดินทางแบบนี้ เขาคิดว่ามันสุดทางเขาแล้วก็ไม่เป็นไร ก็ปล่อยเค้าไป แต่พ่อเอง พ่อก็ต้องเข้าใจว่านี่คือลูก ยังไงก็ตัดมันไม่ได้ แล้วคุณจะรู้สึกยังไงที่จะให้ ... ขอโทษนะ คนๆ นึง มารับผิดชอบลูกคุณ ทั้งๆ ที่ผมไม่เคยรู้จักลูกคุณเลย แต่ผมจะทำให้ คุณกลับไปตัดสินใจดู 

ถ้าการเป็นตำรวจของคุณ มันลำบากถึงขนาดที่ว่าจะผ่าหนองที่ขาตัวเองยังไม่ได้เลย ไม่มีตัง แบบนี้ผมบอกเลย ขายก๋วยเตี๋ยวเถอะครับ คุณจะให้คนอื่นมารับผิดชอบลูกคุณ ดูแลลูกคุณจนกระทั่งโตเป็นสาวน่ะ มันได้หรอ ส่วนเมีย วันนึงเมียก็ต้องเข้าใจผัว ถ้าผัวคุณไปมีลูกอีกคนหนึ่งอยู่ คุณก็ต้องพูดให้เมียคุณเข้าใจว่า อันนี้มันคือเลือดเนื้อเชื้อไขของคุณ ถ้าตัวคุณไม่สามารถรับผิดชอบเลือดเนื้อเชื้อไขของคุณได้ คุณจะรับผิดชอบผู้หญิงคนนั้นได้หรอ โอ้โห มันมีบริบทเยอะแยะมากมาย แล้วคุณจะเกษียณปีหน้าอยู่แล้ว 

 

อันนี้ขอโทษนะ อายุมากกว่าผม ผมไม่ได้มาสอนนะ แต่ผมพูดในฐานะของคนเป็นพ่อเหมือนกัน มันมีไม่กี่ทางให้คุณเลือกหรอก คุณก็ไปเลือกเอาเองแล้วกัน แต่ไม่เป็นไร แต่ตรงนี้เดี๋ยวผมจัดการให้ และค่าเทอมที่ค้างอยู่เดี๋ยวพี่จ่ายให้ และค่าเรียนที่ใหม่เดี๋ยวพี่จ่ายให้ แต่บอกก่อนนะครับ มันเป็นเฉพาะเคสนะ ไม่ใช่ว่าผมจะแบกให้ทั้งโลก ไม่ใช่นะ เป็นแค่บางเคส อันนี้ผมฟังแล้วผมรู้สึกว่าผมคลิก ผมอยากช่วย"