"ไก่ วรายุฑ" ง้อ "ตั้น พิเชษฐ์ไชย" ประกาศกลางรายการดัง เราแต่งงานกันเถอะ

ผู้จัดละครระดับตำนาน ไก่ วรายุฑ ได้มาเปิดใจผ่านทางรายการคุยแซ่บshow ช่อง One31 หลังปิดฉากความรัก 2 ปีกับ "คิมยูมิน" นายแบบรุ่นน้องชาวเกาหลี อายุห่าง 49 ปี พร้อมเคลียร์สัมพันธ์ ตั้น พิเชษฐ์ไชย ตอนนี้เป็นอะไรกันแน่ อัปเดตชีวิตหลงประกาศขายคฤหาสน์พร้อมสตูดิโอสุดหรู ราคา 150 ล้านบาท

 

จบสัมพันธ์หนุ่มเกาหลี?
ไก่ วรายุฑ : จบแล้วค่ะ จบเลย แต่จบแบบมีผ่อนๆ นะ ตอนนี้สุดท้ายที่เจอกัน พี่ไก่ไปส่งเขาเข้ากรม เขาเป็นทหารเกณฑ์ อยู่ 2 ปีกว่า เราจะไม่ได้เจอกัน ไม่ได้คุยกัน ก็รู้สึกว่าพูดกับน้องตรงๆ เลยดีกว่า ปล่อยให้เขาอิสระ เขายังเด็กอยู่ เผื่อเขาไปเจอคนโน้นคนนี้ ดีกว่าเรา แต่ถ้าเขายังไม่เจอใคร เราก็ยังอยู่ประเทศไทยอยู่ แค่นั้นเอง พูดแค่นี้ ไม่ได้ทะเลาะ จะทะเลาะได้ไง พูดกันไม่รู้เรื่อง (หัวเราะ) เราก็ดีกัน ทุกอย่างไม่มีอะไรเลย แต่ 2 ปีนี้เราจะมานั่งรักคนที่เราไม่ได้เห็น ไม่ได้เจอ ไม่ได้พูด ไม่ได้คุยด้วยเหรอ เพื่อ! ก็ปล่อยให้เขาเป็นอิสระ เราจะได้เปิดโอกาสว่าสถานีหน้าคือสถานีบางรัก เราก็เปิดให้ตัวเองด้วย

พอเราบอกเขาว่าขอยุติทุกอย่าง เขาว่ายังไง?
ไก่ วรายุฑ : เขาก็ตกใจนะ เพราะเขาก็ไม่นึกว่าเราจะเป็นคนบอกว่าให้เราหยุดความรัก แต่จริงๆ เราเหมือนขาดการติดต่อกันแล้ว เราพูดกันเลยดีกว่า ดีกว่านิ่งแล้วไม่ได้พูดอะไรกัน เขาถามว่าคุณแน่ใจเหรอ เราก็บอกว่าโอเค เราอยู่ได้ คุณก็อยู่ได้ คุณก็ฝึกทหารไป เราก็ทำงานของเราไป เปิดโอกาสให้กันและกัน เพราะสังคมเกาหลีเขาก็ไม่ยอมรับอยู่แล้วไง พ่อแม่เขาก็ไม่ยอมรับ

มองว่าคงเป็นไปได้ยากอยู่แล้ว?
ไก่ วรายุฑ : ใช่ เรื่องภาษาก็เป็นปัญหา แต่เดี๋ยวนี้ไม่เป็นปัญหาแล้ว เรามีเอไอ (หัวเราะ) เราก็กดเลยค่ะ พูดเลย ก็ง่ายขึ้น

ย้อนตอนแรกหน่อย ไปเจอกันยังไง?
ไก่ วรายุฑ : วันนึงไปเที่ยวกับน้องที่เป็นไกด์ ไปนั่งกินกาแฟฮงแด พอเราเดินขึ้นไปปุ๊บก็เจอ เฮ้ย! มันสะดุดตา เด็กผู้ชายนั่งอยู่คนเดียว ก็ปิ๊ง เขานั่งเล่นเกมอะไรของเขาไป เราก็เฮ้ย น่ารักว่ะ จัดการให้หน่อยสิ ตามประสาไกด์ที่ดี ต้องยอมทำตามลูกทัวร์ เขาก็เดินไปเลย เขาก็เล่นละครด้วย บอกคิมยูมินว่าไม่เคยมาเกาหลี เพิ่งมาครั้งแรก ช่วยพาไปเที่ยวหน่อยสิ คิมยูมินก็มองหน้า บอกว่าไม่เชื่อ เธอพูดภาษาเกาหลีได้ขนาดนี้แล้ว

เขาบอกไม่ใช่ฉัน คนโน้น ชี้มาที่เรา เราก็ยิ้ม พอเขายิ้มปุ๊บเราก็ลุกเลยค่ะ เดินไปหาเลย เราบอกว่าเราไม่เคยมาโน่นนี่ พาไปเที่ยวหน่อยได้มั้ย เขาบอกมีไกด์แล้วไง เราก็บอกว่าไกด์ไม่ได้เรื่องหรอก ก็แปลกันไป เขาก็พาไปตอนบ่ายๆ กินน้ำชา กาแฟ พาไปเที่ยวกินข้าวเย็นกัน ดื่มกันเล็กน้อย แล้วก็จากลากันวันนั้น เราก็คิดว่าเฮ้ย มันไม่พอ ต้องเจออีก

เขาก็พาเราไปเที่ยวออกต่างจังหวัด ตอนนั้นต้องพาไกด์ไปด้วย อยู่กัน 4-5 วัน เขาก็มาเกือบทุกวัน ก็ได้เจอกัน จนเกิดความรู้สึกว่าเฮ้ย ก็ไม่น่ารังเกียจเราหรือเปล่า คิดไปเองนะ ถ้ารังเกียจเขาคงไม่มาแล้ว เราก็ไม่ได้รุ่มร่ามนะ เราคนไทยก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน เราก็ไว้ตัว มือไม้เราไม่สะเปะสะปะ โดนบ้างเป็นเรื่องปกติ กอดรัดฟัดเหวี่ยงไม่ถึงขนาดนั้น เราคิดว่ามีโอกาส มันเป็นไปได้

 

5 วันจับพิรุธมั้ย เขาแอบชอบเรามั้ย?
ไก่ วรายุฑ : ตามประสากะเทย ก็ต้องเข้าข้างตัวเอง (หัวเราะ) ถึงเขาไม่บอก อย่างน้อยมากับกูก็ต้องรักกูบ้างแหละ  ก็ต้องชอบบ้างแหละ ก่อนกลับก็บอกเขาว่าเราคงมีโอกาสได้พบกันอีกนะ เขาบอกว่าถ้าคุณมาฉันจะรอรับคุณอยู่ที่นี่ โอ๊ย ฟ้าเปิดทันที กลับกรุงเทพฯ ตอนนั้นโทรศัพท์ยี่ห้อนึงออกมาแล้ว มีเอไอ ก็ซื้อเลย แปลเลย ก็กดเลย ไลน์ที่เขาให้มา เราก็กดไปทักเขาเป็นภาษาเกาหลี เขาก็ตอบมาเลย ฉันก็บอกว่าฉันจะหาเวลาว่างไปหาเธอ เขาก็บอกว่าฉันจะรอเธอ ไม่ได้เข้าข้างตัวเอง นี่คือเรื่องจริง

เกิดการจีบก่อนหรือเปล่า?
ไก่ วรายุฑ : เราก็ไม่รู้นะ แต่เราไม่ได้รุ่มร่าม และหวานนิดหน่อย เกาหลีเขาไม่ชอบให้คนไปถูกเนื้อต้องตัวเขาตั้งแต่แรก เราก็รู้ว่าเนเจอร์เขาเป็นยังไง เราก็ปกติ เขาจะรู้หรือไม่รู้ ถ้ามันโง่ก็คงไม่รู้ นี่มันคงฉลาด เลยรู้ว่าเรามายังไง (หัวเราะ)

น้องเกาหลีมองออก เพราะพี่ไก่สาวหวาน?
ไก่ วรายุฑ : ไม่ใช่สาวหวานค่ะ เป็นหนุ่มหวานค่ะ

มีโมเมนต์ตกลงเป็นแฟนกันมั้ย?
ไก่ วรายุฑ : ไม่พูดเลย มันเป็นนัยๆ ไง ว่าฉันจะรอเธออยู่ที่นี่ ประโยคนี้ก็บอกแล้ว ไม่ต้องแปลมั้ย เราคุยกันคิดถึงนะ อยากไปเที่ยวเกาหลี มีหลายที่ที่ยังไม่เคยไปเที่ยว เธอพาฉันไปได้มั้ย

กี่วันกลับไปเกาหลี?
ไก่ วรายุฑ : สองเดือน ไปเลย เราก็ไม่ใช่คนรุ่มร้อนขนาดนั้น หาคิวไปเลย

มีโมเมนต์ขอเป็นแฟนมั้ย?
ไก่ วรายุฑ : ไปขอเขาครั้งที่สอง ไปเจอตัว จะมาขอทางโทรศัพท์ ไม่เห็นหน้า ไม่เห็นความรู้สึกไม่ได้ พอไปเขาก็มารับที่สนามบิน แค่มารับ เป็นพี่เป็นเพื่อนเป็นน้องจะมารับทำไม ก็อยู่ตรงนั้นอีก 5 วัน คุยกันโน่นนี่นั่น ก็เริ่มบอกแล้วว่าชอบ มันบอกว่าไงรู้มั้ย ผมรู้แล้วครับ เห็นมั้ยเขาฉลาด

พี่ขอเป็นแฟนเขาด้วย?
ไก่ วรายุฑ : ขอเลย เรามาเป็นแฟนกันมั้ย เราคบกันมั้ย เอาตรงๆ เลย เขาบอกว่าได้ ถ้าคุณมีเวลามาที่นี่ ผมก็มีเวลาไปที่นั่น ถ้าเขาบอกว่าไม่ได้ก็จบ โอเค ไม่เห็นเป็นไรเลย ไม่ได้ก็ไม่ได้ ยังขายได้อีกค่ะ (หัวเราะ) ไปตรงไหนยังขายได้ 

ตกลงเป็นแฟนกัน คบกันถึง 2 ปี?
ไก่ วรายุฑ : ปีกว่าเขาก็มาเมืองไทยแล้ว เขามาในจังหวะที่ไม่ได้เสียอะไรมาก ตอนนั้นมีรายการนึงต้องไปออก ก็ถามว่าเธอไปออกรายการกับฉันมั้ย ตอนแรกเขาไม่รู้ว่าพี่เป็นพี่ไก่ อาชีพหน้าตาเป็นยังไง ตอนหลังเขาเปิดไอจีก็รู้ ว่าเป็นใคร ก็เริ่มคุยกันรู้เรื่องมากขึ้น ก็ไปออกรายการและไปงานด้วยกัน คนก็คิดว่าชุดหมั้น หมั้นได้ก็ดีสิคะ น้องเป็นเด็กน่ารัก แล้วออกรายการเราไม่เคยเตี๊ยมกันเลยนะ เราเตี๊ยมไม่เป็น เขาพูดเองหมดเลย

 

พอเป็นแฟนแล้ว มีรุ่มร่ามหรือยัง?
ไก่ วรายุฑ : ไม่รุ่มร่ามก็โง่สิคะ เราตกลงเป็นแฟนแล้ว บอกรักหวานกัน มีคำหวาน เราก็พยายามเนอะ ก็เรียกว่าคุณกับผม ก็รักกันอยู่ ดูน่ารัก เพราะดูใกล้เคียงกันนิดนึง ชุ่มฉ่ำนะคุณ ปูนนี้แล้วได้เด็กอายุ 21

เป็นยาชูกำลัง?
ไก่ วรายุฑ : จริงค่ะ ยิ่งกว่ายา 108 อีกนะคะ

ระหว่างคบน้อง อะไรทำให้เราลดกิจกรรมลงมา ไปเป็นเด็ก?
ไก่ วรายุฑ : กินเด็กมันเป็นอมตะ (หัวเราะ) มันสดชื่น อยู่ใกล้กันก็สดชื่นแล้ว อิงๆ ก็แฮปปี้แล้ว

ด้วยช่วงอายุมีช่องว่างระหว่างกันมั้ย?
ไก่ วรายุฑ : เขาไม่เคยถามอายุเราเลย เราก็ไม่เคยถามอายุเขาเลย มันเลยไม่เกิดช่องว่างระหว่างอายุ เขาอาจรู้ก็ได้ แต่เขาก็ไม่ถาม เขาให้เกียรติเราเหมือนกัน ถ้าเจอเด็กอายุ 18 19 เราจะไม่คุยเรื่องอายุ เราจะไม่เปิดทางให้เขาถามอายุ เราอย่าไปปูให้เขาก่อน เราวัยรุ่น

เป็นสายเปย์มั้ย?
ไก่ วรายุฑ : ไม่ค่ะ บาปบุญนะคะ เสียอย่างเดียวคือเสียค่าเครื่องให้เขามาไปกลับ เพราะเขามาออกรายการให้เรา แค่นั้นก็จบ กินอยู่เราดูแลอยู่แล้วเรื่องปกติ

คนเม้าท์ว่าเด็กต้องหลอกพี่ไก่ มาเอาเงินแน่?
ไก่ วรายุฑ : ทำไมเขาถึงพูดรู้มั้ย เพราะมันโดนหลอกมาก่อน ถ้ามันไม่โดนหลอกมาก่อนจะพูดได้ยังไง จะรู้ได้ยังไง ถูกมั้ย

ซื้อมาเป็นแฟนแน่?
ไก่ วรายุฑ : โอ้ย ไม่ๆ อันนี้เรื่องจริง ไม่เคยซื้อ ไม่เคยเสียเงินให้กับน้องผู้ชายคนนี้เลย เขาเป็นเด็กน่ารัก 2 ปีก็รักใจๆ เราไปมาหากันอยู่เป็นประจำ ไปเกาหลีก็ไปหาแฟน ก่อนเขาไปเกณฑ์ทหาร เขาลงมากรุงเทพฯ ก่อนเม.ย. ก็เจอกัน พาไปเที่ยวกันปกติ แล้วส่งเขากลับ ก่อนเขาเข้ากรม ประมาณ 29 เม.ย. เราก็ไปส่งเขาเข้ากรม

คิดยังไงกับคำว่าเราอดผู้ชายอิ่ม?
ไก่ วรายุฑ : ไม่ได้ รักยังไงก็ต้องแบ่งกันกิน ต้องกินด้วยกันค่ะ กว่าจะหาเงินมาได้แต่ละทีมันเหนื่อยนะคะ เราก็ให้เขา แต่ก็ต้องให้ตัวเองด้วย ไม่ใช่ไปทุ่มให้เขาหมด วันนึงเขาไปล่ะ อย่างน้อยช่วยกันใจสำคัญที่สุด ใจแลกใจ ความดีชนะทุกสิ่งทุกอย่าง ใจชนะทุกอย่างจริงๆ

พอบอกเลิกเขา ช้ำใจแทน?
ไก่ วรายุฑ : เราก็เสียใจ แต่เพื่อไม่ให้เราเสียใจมากกว่านี้ ถ้าเขาบอกเลิกเรา เราจะรู้สึกเสียใจกว่านี้ แต่เราบอกเขาก่อน เราก็เสียใจนิดเดียว

หลังบอกเลิกน้อง ได้ข่าวว่าตามไปง้อแฟนเก่า?
ไก่ วรายุฑ : ขอโทษค่ะ ระหว่างคบคนนี้ก็ง้ออยู่ค่ะ ง้อคุณตั้น พิเชษฐไชย ผลดี น้องคุณติ๊ก เจษฎาภรณ์ค่ะ ไม่อายที่จะพูดของจริงต้องกล้าพูด ก็ยังง้ออยู่ทุกวัน ยังส่งไลน์คุยกัน โทรศัพท์คุยกัน ยังวิดีโอคอลคุยกันตลอดเวลา อุ้ย ไม่อยากจะคุย (หัวเราะ) วันนี้ก่อนมาออกรายการ ก็บอกว่าจะมาออกรายการสดคุยแซ่บโชว์ ยังไงเขาต้องถามเรื่องพี่ตั้นแน่นอน พี่ตั้นจะให้พี่ไก่ตอบยังไงดี เอาแบบนี้มั้ย เรายังรักกันเหมือนพี่เหมือนน้องมั้ย เขาบอกเอาเลยครับ รักไม่มีเปลี่ยนแปลงค่ะ

 

ตั้นมีแฟนมั้ย?
ไก่ วรายุฑ : ไม่มี เขาโสดมานานเป็นสิบปีแล้ว ถามแม่เขา และถามตัวเขาเองด้วย เขาบอกว่าเขาเคยมีแฟนและอกหักจากผู้หญิง หลังจากนั้นเขาก็ไม่มีเลย เขาดูแลพี่ติ๊ก ทำงานกับพี่ติ๊กตลอด และดูแลลูกพี่ติ๊ก ดูแลลูกชายน้องเตย ไม่ได้มีของตัวเอง ดูแลแม่ แล้วแม่เคยบอกว่า แม่อยากให้พี่ตั้นดูแลอย่างนี้ตลอดไป เหมือนปูทางว่าไม่ต้องแต่งงาน คนนี้น่ารักมาก

ตอนง้อเข้าทางคุณแม่?
ไก่ วรายุฑ : มีบ้าง เราบอกแม่อยากกินห่อหมก แม่ชอบซื้อห่อหมกมาให้พี่กินกับพี่ตั้น อย่างน้อยแม่มา พี่ตั้นก็ต้องมากับแม่ เราก็ได้เจอพี่ตั้น

รักครั้งนี้ยังรอคอยอยู่?
ไก่ วรายุฑ : รอคอยอยู่ ถามเบนซ์ได้ (เบนซ์บอกเขาเจอกันตลอด เขารักกันด้วยความจริงใจ พี่ไก่ไม่ใช่สายเปย์ ทุ่มแล้วหยุดไป ความรักมีตลอดจริงๆ) ใช่ค่ะ

จะมีโอกาสกลับมาเป็นแฟนกันอีกมั้ย ถ้าตั้นดูอยู่อยากบอกอะไร?
ไก่ วรายุฑ : บอกเขาตลอดว่าพี่ตั้น พี่ไก่รออยู่ตลอดเวลานะคะ รอตลอดค่ะ แต่งงานกันเถอะ เขาดูอยู่นะเนี่ย ขอออกอากาศเลย เรารักเขาตลอดเวลา เพราะเขาเป็นคนดีจริงๆ สิ่งที่คุยกันตลอดเวลา เราก็ยังเอื้ออาทรกันตลอด ถามสารทุกข์สุกดิบกันตลอดเวลา ไม่ได้หายจางไป

ตอนพี่ไก่ไปมีแฟน เขางอนมั้ย?
ไก่ วรายุฑ : เราก็บอกเขานิดหน่อย บอกว่าขอเวลาพี่นิดนึงนะ เขาก็ เหรอ ประโยคเดียว แค่นั้นเอง แล้วก็กลับมาเหมือนเดิม เขาก็รู้อยู่

อีกสักพักจะได้ยินข่าวดีหรือเปล่า?
ไก่ วรายุฑ : โอ้โห ขอให้เป็นแบบนั้น (หัวเราะ) แต่ระหว่างพี่ตั้นไม่มา ใครก็ได้นะคะที่เข้ามา ดูเหมือนแรด แต่ไม่แรดนะคะ คนเราต้องโหยหาความรักเพื่อความสุขเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตชีวา คนเราขาดความรักไม่ได้ ไม่ว่ารักเพื่อนรักพ่อรักแม่รักพี่รักน้อง และรักคนที่เราอยากรัก ถ้ามีมาให้เราเลือก เราก็รักได้

 

เรื่องขายคฤหาสน์ ตั้งราคาไว้ยังไง?
ไก่ วรายุฑ : ตั้งราคาไว้ 150 ล้าน แต่ถ้าใครสนใจจริงๆ ลดได้ค่ะ อยากจำหน่าย ตอนแรกเอาไว้ให้พี่เป็ด แต่เขาซาโยนาระไปแล้ว ก็ไม่มีใครอยู่ ไม่มีคนดูแล เราคนเดียวก็ดูแลไม่ไหว หลานก็ไม่เอา ก็เลยต้องบอกขายเพื่อเอาเงินมาทำโน่นทำนี่

ที่ขายไม่ได้ มีตัวเลขวนเวียนกับ 4 6 7 มั้ย ถ้าตกเลขนี้ เป็นบ้านที่ดีมาก แต่เจ้าที่ไม่ยอมให้ขาย?
ไก่ วรายุฑ : ขนลุกเลย คุณยายจวนค่ะ ชื่อเจ้าของที่คือยายจวน พี่ไก่สร้างเป็นศาลา เป็นบ้านเรือนไม้ขาวๆ แล้วเชิญให้เขามาอยู่ที่ตรงนี้ เฝ้าที่ให้ไก่ด้วย แล้วไก่ก็ไหว้บอกว่าคุณยาย ไก่ไม่ไหวแล้ว ไก่เหนื่อย คุณยายก็ไม่ใจอ่อน มีคนมาติดต่อ แล้วถามว่าจะขายตรงไหนเหรอ จะขายเหรอ แล้วก็ไม่สนใจ เหมือนไม่เห็นความสวยของบ้านหรือยังไง พี่ไก่เคยเห็นเจ้าที่ คุณยายมายืนตรงระเบียง ไม่ได้เห็นคนเดียวนะ น้องก็เห็น ใส่เสื้อสีขาว  ผ้าซิ่นสีเขียว เป็นผู้หญิงผมหงอกๆ ผมเสยๆ เราไม่ได้ตาฝาด หรืออาจตาฝาดก็ได้ แต่มันหกโมงเย็น ทุ่มนึง ก็เอ๊ะ ใช่คุณยายหรือเปล่าวะ หันไปอีกทีก็หายไปแล้ว

เป็นไปได้ว่าครั้งนึงเคยให้คำมั่นสัญญาว่าชอบที่นี่มาก จะดูแลอย่างดี คุณยายจำเอาไว้ ไปขอขมา อ้อนวอนท่าน แล้วโอกาสจะเป็นไปได้?
ไก่ วรายุฑ : สาธุ

รู้ชื่อคุณยายได้ไง?
ไก่ วรายุฑ : คนแก่สมัยนั้นที่อยู่บ้านตรงโน้น บอกว่าที่ตรงนี้เป็นของคุณยายชื่อจวน พี่ก็เลยรู้ว่าเป็นของคุณยายจวน เรื่องนี้ขนลุก

เจ้าที่รักเรา อยากให้เราเป็นเจ้าของ?
ไก่ วรายุฑ : แล้วบาปบุญนะคะ ประตูบ้านเปิด ตรงน่านน้ำเปิดตลอดเวลา ของไม่เคยหายเลย ไม่เคยอะไรเลย แม้แต่ชิ้นเดียว คุณยายคงดูแลและคงเฝ้าให้ด้วย

เดินสายมูเตลูหนักมาก เห็นผีต่อหน้าต่อตาระหว่างถ่ายละคร?
ไก่ วรายุฑ : เรื่องเรือนมยุราค่ะ ตอนนั้นไปมูเรื่องขายบ้าน ขายที่ ไปอุดรฯ ไปลาว ไปอีสานแล้วนะ เหนือไปแล้ว ใต้ไปแล้ว สามภาคแล้วค่ะ เหลือภาคกลางที่เดียวค่ะ มูทุกที่ไปขอ เพราะอยากขายบ้าน ดูแลไม่ไหว ค่าใช้จ่ายมันเยอะ เราอายุเยอะนิดนึง ไม่มีใครรับช่วงต่อก็เลยต้องจำหน่าย ก็ไปบอกคุณยาย มูเจ้าแม่กวนอิมด้วย ขอหมดทุกที่ อะไรที่ใครบอกเจ๋ง ใช่ ไปหมด ร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำไปหมด ข้ามไปลาวยังไปเลย ไปกับคุณธันน์-ยุ้ย เพราะเขาขอเรื่องลูกแล้วได้

 

เห็นผีต่อหน้าต่อตา ตอนถ่ายละคร?
ไก่ วรายุฑ : จะเรียกว่าผีก็ไม่ได้นะ ตอนนั้นถ่ายละครเรื่องเรือนมยุรา วันแรกไปถ่ายสามวัน ที่วัดไชยวัฒนาราม อยุธยา ส้มฉุนตัวเล็กๆ เขาถ่ายอยู่ กลางคืนเขาก็เดินถ่าย เดินโน่นเดินนี่ เขากลับที่พัก เช้าพ่อเขามาเล่าให้ฟังส้มฉุนบอกว่าพ่อๆ ตรงนั้นมีทอง ตรงนี้มีทอง พ่อไม่เก็บไปล่ะ มันชี้ให้พ่อดู ก็ฉิบหายแล้ว เด็กเห็น เขาแต่งตัวเป็นเด็กโบราณ เขาอาจมาสื่อให้เห็นจริงๆ เด็กไม่โกหกอยู่แล้ว เราก็โอเค ฟังก็ปกติ ถ่ายกลางคืนค่ะคุณขา ประมาณ 3-4 ทุ่มได้ วรายุฑนั่งกลาง ซ้ายคุณแหม่ม คัทลียา ขวาคุณนก ฉัตรชัยนั่งเม้าธ์รอเขาจัดไฟ คุยโน่นคุยนี่ ขนลุกเลย ขวามือเป็นผนังปูนวัดเก่าๆ แดงๆ วูบเป็นดวงไฟสีทอง เป็นผู้หญิงใส่ชุดทองเราก็จับมือฉัตรชัย คัทลียา สามคนหันไปมองพร้อมกันหมด พี่นกฉัตรชัยกลัวผี รู้ใช่มั้ย อึ้งหมดเลย แต่แป๊บเดียวทุกอย่างก็หายไป เราหันหน้ามามองกัน เดินลุกจากตรงนั้น ไปยืนหน้ากองถ่ายเลย เห็นกับตาพร้อมกันสามคน แสดงว่าเขามาเมตตาเรา ให้พรเรา หรือมาขอบุญ วันรุ่งขึ้น ดิฉันไปสังฆทานที่วัดเลยค่ะ ไปทำบุญเลยค่ะ แล้วละครเรื่องนั้นดังจะตาย เรือนมยุรา แต่เราไม่เห็นหน้าเขานะว่าหน้าตาเป็นไง แต่เราเห็นเครื่องทรงเป็นสีทองอร่าม

จะเลิกทำละครแล้วจริงมั้ย?
ไก่ วรายุฑ : ยังทำค่ะ กำลังใจเยอะแยะ สำหรับแฟนๆ ละครพี่ไก่ เหลือกับช่อง ว่าช่องไหนจะเมตตาเรา ให้เราไปทำ เรายังอยากทำ อาชีพเกิดจากละคร ยังไงก็ถือบทตายก็ยังดี ยังรักละครอยู่ ยังอยากทำละครวายด้วย