- 11 มิ.ย. 2568
"ทูน หิรัญทรัพย์" ดารารุ่นใหญ่ เล่าบ้าง ต้นเหตุโดน 2 โจ๋คลองถมทำร้ายร่างกาย จนตาแตก - เลือดไหล หลังไปตลาดเพื่อซื้อของ
เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2568 ดารารุ่นใหญ่ ทูน หิรัญทรัพย์ วัย 69 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.พลับพลาไชย 1 หลังถูกทำร้ายร่างกายขณะไปซื้อของที่ตลาดคลองถม โดยมีอาการบาดเจ็บที่ใบหน้าและดวงตา เบื้องต้นฝ่ายคู่กรณีซึ่งเป็นเยาวชนชายอ้างว่า ระหว่างที่ทูนเดินมาซื้อของ เขาได้ถามร้านข้างๆ ว่า "รู้จักเขาหรือไม่?" ซึ่งตนเองที่อยู่ใกล้ๆ จึงตอบว่า "ไม่รู้จัก" ทำให้ทูนไม่พอใจ และเดินเข้ามาต่อว่า ก่อนจะเกิดเหตุชุลมุนขึ้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทูน เล่านาทีเกิดเหตุว่า จริง ๆ แล้ว ร่างกายเราก็เหมือนคนธรรมดาทั่วไป ตนแค่เข้าไปซื้อของที่คลองถมเท่านั้นเอง ระหว่างเลือกของ ก็มีคนสังเกตตนแล้วพูดกันว่า “เฮ้ย หน้าเหมือนดารานะ” แล้วอาจจะมีการพูดถึงตนกับน้องผู้ชายที่เป็นคู่กรณี ว่า “ดารา ๆ” อะไรทำนองนั้น ซึ่งตนก็ไม่แน่ใจว่าเขาถามกันว่ารู้จักผมหรือเปล่า
แต่เหมือนเด็กคนนั้นตอบว่า “ดารงดารา ไม่รู้จัก” ซึ่งตนก็เลยพูดไปว่า ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าหรือไม่เป็นลูกค้า ยังไงก็ควรจะพูดจาดีๆ เพราะในการค้าขาย การสื่อสารสำคัญมาก แม้จะเป็นลูกจ้างก็ต้องพูดให้ดี มีสัมมาคารวะ ตนเองก็เลยเตือนน้องว่า เวลาเราจะพูดกับใครหรือทำงานค้าขาย ยังไงก็ควรระวังคำพูด พูดให้สุภาพ ไม่ได้สั่งสอนเพราะเราเป็นผู้ใหญ่กว่า แต่เพราะเราอยู่ร่วมสังคมเดียวกัน ก็ช่วยกันแนะนำ ตักเตือนกันได้
นักแสดงรุ่นใหญ่เล่าต่อไปว่า จากนั้นตนก็เดินออกมา แล้วน้องคนนั้นก็ยกของออกไป ผมจึงบอกเขาว่า ต่อไปต้องระวังคำพูดนะ ซึ่งก็มีการโต้ตอบกันอยู่บ้าง แล้วเขาก็ผลักผมจนผมเซล้ม ตอนนั้นผมอายุเกือบ 70 แล้ว ส่วนน้องเขาอายุประมาณ 17-18 พอลุกขึ้นมาได้ ก็เห็นว่าเขาไปมีปากเสียงกับแฟนผม ผมเลยเข้าไปห้าม ไม่อยากให้เขาทำร้ายผู้หญิง
พอเขาเห็นตนลุกขึ้นมา เขาก็เข้ามาทำร้ายตนทันที ต่อยเข้าที่ตา แล้วก็มีการรุมกัน 2 คน ตัวใหญ่หน่อยอีกคนอายุประมาณ 19 ตนยืนยันว่าเขารุมแน่นอน และมีคนถ่ายคลิปไว้ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าเราคนละรุ่นกัน ตนก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร แค่บอกว่าให้ไป สน. แจ้งความให้เรียบร้อย ต่างคนต่างแยกย้าย
ในจังหวะที่เกิดเรื่องก็มีตำรวจเข้ามาห้าม แต่ว่าอีกฝ่ายยังดูโวยวาย และยังแรงอยู่ ซึ่งตอนนั้นเราอาจจะมีการผลักกันเล็กน้อยตามสัญชาตญาณ ไม่ได้เป็นการจงใจทำร้าย เพียงแค่พยายามจะกันตัวเองให้ออกห่าง เพราะเราอยู่ใกล้กันมาก
หลังเกิดเหตุ ตอนนี้ตนก็ต้องปรึกษาคนที่ไว้ใจได้ และต้องขอบคุณ “จ่าคิงส์” เพราะเรารู้จักกัน และรู้ว่าเขาเป็นคนช่วยเหลือสังคม ตนก็เลยถามเขาว่า ควรทำยังไงดี ซึ่งเขาก็ให้คำแนะนำว่า ถ้าเป็นคดีทะเลาะวิวาท ก็ว่ากันตามกฎหมาย แต่สิ่งสำคัญคือ อยากให้เด็กรุ่นใหม่รู้จักสัมมาคารวะ ให้เกียรติผู้ใหญ่ แม้จะไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่พ่อแม่ ก็ไม่ควรพูดจาเสียหาย เพราะเราต้องอยู่ร่วมกันในสังคมเดียวกัน