- 13 มิ.ย. 2568
สุดทน "ลำเพลิน วงศกร" เตรียมฟ้องคู่กรณีเมาแล้วขับ เอาให้ถึงที่สุด หลังเกิดอุบัติเหตุพยายามส่งข้อความให้มาไกล่เกลี่ย แต่เลือกที่จะนิ่งเฉย
จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ มีรายงานนักร้องลูกทุ่งหมอลำ "ลำเพลิน วงศกร" ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ถูกคนเมาชนได้รับบาดเจ็บที่เส้นเอ็นไหปลาร้าและต้องผ่าตัดด่วน เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 68 ที่ผ่านมา ล่าสุด หนุ่มลำเพลิน เตรียมฟ้องคู่กรณีให้ถึงที่สุด หลังนิ่งเฉยทำเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น
ล่าสุด วันที่ 10 มิ.ย. 68 หนุ่มลำเพลิน ออกมาเคลื่อนไหวระบุว่า นับจากวันที่เกิดอุบัติเหตุ
จนถึงวันนี้ ผมยังไม่เห็นคู่กรณีและโรงงานน้ำแข็งที่คู่กรณีผมทำงานอยู่ออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและไม่พูดถึงความผิดของตัวเองเลย เยียวยาแค่ให้รถมาขับอยู่ในระยะ1 แต่เราก็ได้ส่งคืนไปแล้ว
บอกให้มาเจรจากันดีๆ ทางคุณก็เลือกที่จะนิ่งเฉย ทำเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น ตอนแรกผมกะว่าจะไม่อะไรมากมาย แต่คุณไม่มีน้ำใจเอาสะเลย ไม่เคยแม้แต่จะมาถามไถ่อาการบาดเจ็บของผม ทั้งๆที่ทางคุณเมาแล้วขับมาชนเราก็ผิดเต็มๆอยู่แล้ว ดีนะที่ผมไม่ตาย แค่บาดเจ็บแต่ต่อจากนี้ไป...
อย่าคิดว่ามันจะเงียบไปเฉยๆนะ..
ชีวิตผมมีค่าต่อครอบครัวมาก ถึงมันจะไม่มีค่าสำหรับใครแต่ผมปล่อยให้พวกคุณนิ่งเฉยมานานแล้ว ทางเราพยายามส่งข้อความให้มาไกล่เกลี่ยเจรจากันไป แต่คุณเลือกที่จะนิ่งเฉย
งั้นผมเปิดเลยนะ ถือว่า ผมใจดีสักระยะแล้ว ชีวิตคนทุกคนมีค่าต่อคนที่รัก..และครอบครัว
ผมใช้ความเมตตารอการแสดงน้ำใจมาพอแล้ว แต่มันใช้ไม่ได้กับคนอย่างพวกคุณ งั้นไม่ต้องรอกฏแห่งกรรมหรอก
เอากฏหมายก่อนเลยตอนนี้.. ถือเป็นเคสตัวอย่างให้สังคมก็แล้วกัน ผมเป็นศิลปินคนหนึ่งไม่ได้ใช้สิทธิ์ความเด่นดังอะไรนะ แต่ผมจะขอใช้พื้นที่ความเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่จะออกมาปกป้องตัวเอง เพื่อที่จะไม่ให้มีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นอีกไม่ว่ากับใครก็ตาม
ผมจะดำเนินคดี ฟ้องเอาความผิดกับพวกคุณให้ถึงที่สุด..
โดยจะไม่คุยอะไรอีกแล้ว
ต่อมา หนุ่มลำเพลิน ได้โพสต์ภาพบาดเจ็บตรงบริเวณหัวไหล่ พร้อมระบุว่า...
ผมโชคดีที่ผม ยังไม่ตาย
ผมโชคดีที่ผม ไม่พิการเสียอวัยวะ
ผมโชคดีที่ผม ไม่เป็นผู้ป่วยติดเตียง
ผมโชคดีที่ผม ยังได้กลับมาอยู่กับครอบครัวที่รอผม
แต่รอยแผลที่ไหล่และหน้าอก จะคอยบอกย้ำเตือนเสมอว่า..
ครั้งหนึ่ง ผมเคยเฉียดตายมา และเกือบไม่มีชีวิตมาเจอกับครอบครัวที่รอผมอยู่และทุกคนที่รักผม เพียงเพราะความมักง่ายของคนบางคนที่ไม่มีจิตใต้สำนึกรับผิดชอบอะไรต่อสังคมเลย..ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เสียเวลา เสียทรัพย์สิน..
เวลาอาจจะผ่านไป อย่างน้อยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันก็ทำให้ผมมีสติมากขึ้น ชีวิตไม่แน่นอน เห็นใจตัวเอง เห็นใจผู้อื่น.. มีเมตตาแก่เรื่องบางเรื่องที่ปล่อยผ่านได้..
แต่เรื่องบางเรื่อง ก็ควรเป็นบทเรียนบ้าง..
หลายคนอาจจะเจอแบบผม หรือหนักกว่าผม
แต่ทุกอย่างก็เงียบหายไป เอาสิลองดูว่าเรื่องของผมมันจะเงียบไหม ผมก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าชีวิตคนทั้งคนมันจะมีค่ามากแค่ไหน...