- 03 มิ.ย. 2568
โหรฟองสนาน จามรจันทร์ เปิดคำทำนายดวงเมือง ดาวดี ดาวร้ายชนกัน รัฐบาลส่อมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ น่าจะมากกว่าการปรับ ครม.
โหรฟองสนาน จามรจันทร์ ทำนายดวงเมือง ในช่วงวันที่ 19 พฤษภาคม ถึง 23 สิงหาคม 2568 ดวงเมืองรัตนโกสินทร์กำลังเผชิญปรากฏการณ์ดาวดี “พฤหัสบดี” และดาวร้าย “พระเสาร์” ตรึงกำลังชนกันอย่างรุนแรง ซึ่งตามหลักโหราศาสตร์ถือเป็นสัญญาณของความตึงเครียดและการเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นในรัฐบาล รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองและสังคมที่จะส่งผลกระทบลึกซึ้งต่อคนทั้งประเทศ
ภาพดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์และลีลาการตรึงของพฤหัสบดีและเสาร์ระหว่าง19พฤษภาคม-23สิงหาคม2568
พฤหัสบดีจร(5)เดินในราศีเมถุนเล็งพระเสาร์ดวงเดิม(๗)และพฤหัสบดีดวงเดิม(๕)ที่สถิตในราศีธนู
เสาร์จร(7)เดินในราศีมีน(มีช่วงเดินผิดปกติ) ทำมุมฤทธิโยคถึงพฤหัสบดีดวงเดิม(๕)และพระเสาร์ดวงเดิมที่สถิตในราศีธนู
แม่หมอสมัครเล่น ตอนที่ 586 โดย ฟองสนาน จามรจันทร์
เมื่อหัวหน้าดาวดีและหัวหน้าดาวร้ายตรึงกำลังในดวงเมือง
การทำนายทางโหรนั้นมีหลายปรากฏการณ์มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงเมือง สุดแท้แต่จะหยิบยกประเด็น-หลักใดมาทำนาย
สำหรับช่วงระยะเวลาระหว่าง 19 พฤษภาคม - 23 สิงหาคม 2568 มีปรากฏการณ์ใหญ่ทางโหรที่เกิดขึ้นในเมืองรัตนโกสินทร์ ที่กำลังสร้างทั้งความอึดอัดและตื่นเต้นเร้าใจให้คนในเมืองติดตามในระดับห้ามกระพริบตา นั่นคือปรากฏการณ์ “ตรึง” หรือ “สมาสัปต์” กันระหว่าง พฤหัสบดี หัวหน้าประธานฝ่ายดาวดี และ พระเสาร์ หัวหน้าหรือประธานฝ่ายดาวร้าย
อธิบายการเดินของดาวคือ ปรากฏการณ์ที่ พฤหัสบดีจร (๕) หัวหน้าดาวดีกำลังเดินในราศีเมถุน เล็งใส่ พระเสาร์ดวงเดิมของเมือง (๗) ที่ตั้งอยู่ในราศีธนูตั้งแต่วินาทีแรกที่เมืองถือกำเนิดมา เป็นหนึ่งคู่
อีกหนึ่งคู่คือ พระเสาร์จร (๗) ที่กำลังเดินอยู่ในราศีมีน ทำมุมพิเศษ ซึ่งทางโหรเรียกว่ามุม ฤทธิโยค ถึง พฤหัสบดีดวงเดิมของเมือง (๕) ที่ตั้งอยู่ในราศีธนู
ปรากฏการณ์นี้ทางโหรเรียกว่า “ตรึง” หรือ “สมาสัปต์” เพราะคู่อื่น ๆ ก็สามารถตรึงกันได้ในแต่ละดวงชะตา
ผลของปรากฏการณ์นี้ ครูโหรอุตรภัทร หรือ มหาบรรเทา จันทรศร ผู้ล่วงลับ ได้ให้หลักไว้ว่า ไม่ว่าดาวคู่ใดจะตรึงกันในดวงชะตาใด จะนำผลออกแนวร้าย ชวนอึดอัด ถูกบีบหน้าเขียวหน้าเหลืองด้วยกันทั้งนั้น (ยกเว้นดาวคู่มิตร)
หลังจากการตรึงกันแล้ว พัฒนาการใหม่ในชีวิตเรื่องที่ดาวตรึงกันเป็นตัวแทนอยู่ จะตามมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การตรึงกันแบบ ใหญ่เจอใหญ่ ระหว่าง พฤหัสบดี หัวหน้าดาวดี กับ พระเสาร์ หัวหน้าดาวร้าย หากปรากฏในดวงชะตาใดยิ่งดูไม่จืดในระยะนั้น เพื่อบีบให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่หลังจากปรากฏการณ์ตรึงจบลง
ครอบครัวของผู้เขียนเองเคยเจอปรากฏการณ์สมาชิกได้รับช่วงการตรึงกันของดาวคู่นี้ เล่นเอาหน้าเขียวหน้าเหลืองจนหน้ามืด เพราะถูกบีบให้เดินในทางแคบทางเดียวที่ไม่ตั้งใจเลือก เพราะทางที่เลือกไว้ 29 ทาง!!! พลาดไปหมด
ระยะนั้นบ้านเหมือนถูกคลุมด้วยม่านเทาเลยทีเดียว ได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้พบเจออีกเลย
ส่วนเมืองรัตนโกสินทร์ที่เริ่มเจอปรากฏการณ์นี้ตั้งแต่ 19 พฤษภาคม 2568 ก็จะเห็นว่า ฝ่าย พฤหัสบดี หัวหน้าดาวดี หรือกลุ่ม เทวดาประจำเมือง (ในความหมายหลายหลากนั้นรวมถึงผู้พิพากษา กระบวนการยุติธรรม ศาล หมอ หรือบุคลากรทางสาธารณสุข ฯลฯ) กำลังตรึงกำลังอย่างเข้มข้นกับ พระเสาร์ หัวหน้าดาวร้าย ซึ่งสำหรับดวงเมืองที่ลัคนาสถิตราศีเมษแล้ว เป็นตัวแทนการบริหารราชการแผ่นดิน หรือรัฐบาล หรือคณะรัฐมนตรี
อีกหนึ่งความหมายที่ ครูโหรยอดธง ทับทิวไม้ ให้ไว้คือ บุคคลผู้เป็นที่รู้จักกว้างขวางและมีชื่อเสียงของประเทศ ในกรณีนี้เป็นที่รู้ชัดกันในนามแฝง “สทร.”
ด้วยเพราะดาวสองดวงนี้ต่างอยู่ในฐานะประธานทั้งคู่ คือ ประธานดาวดี และ ประธานดาวร้าย เรื่องที่ตรึง-ประลองกำลังจึงใหญ่ระดับลั่นสนั่นเมือง แถมในเมืองก็เกิดบรรยากาศชวนอึดอัด อึกอักสิ้นดี
เริ่มตั้งแต่เรื่องที่มีผลออกมาแล้ว คือคำสั่งศาลให้อดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จ่ายค่าละเมิดโครงการรับจำนำข้าว 10,028 ล้านบาท ที่ย่อมสร้างความอัดอั้นตันใจให้ฝ่ายถูกสั่ง ชนิดไม่มีทางเลือกอื่นให้เดินเลย ยกเว้น “เบี้ยวไม่จ่าย”
ฝ่ายกระทรวงการคลังที่ต้องตามทวงเงิน น่าจะอยู่ในสถานะผะอืดผะอม จะทวงก็ลำบากใจ ครั้นจะไม่ทวงก็อาจเจอ ม.157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ตามด้วยเรื่อง คุณสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ใช้พลัง พระเสาร์ (รัฐมนตรี) วีโต้มติแพทยสภาเรื่องลงโทษจริยธรรมแพทย์คดี “ชั้นสิบสี่” โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเรียกแขกฝ่ายพฤหัสบดี-หมอ ได้พรึบ
ซึ่งก็ต้องรอดูว่าวันที่ 12 มิถุนายนนี้ แพทยสภาจะได้เสียงสองในสามของสมาชิกทั้งหมด 70 คน ยืนยันมติกลับได้หรือไม่
เหตุการณ์นี้ไม่ตรึงกำลังกัน ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว
นอกจากนี้ยังมีประเด็นวันที่ 13 มิถุนายน 2568 ที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รับไต่สวนคดี “ชั้นสิบสี่” เองอีก
ยังมีเรื่อง ครม. มีมติไปแล้วให้ตัด-โยกงบประมาณ 2568 เพื่อแจกเงินหมื่น จะขัดรัฐธรรมนูญ ม.144 หรือไม่ ก็รอ ป.ป.ช. พิจารณาอยู่ ซึ่งประเด็นนี้เป็นที่น่าหวาดเสียว เพราะคณะ ครม. ที่ร่วมมติ มีสิทธิ์โดนยกชุด ข่าวแว่ว ๆ ว่าดูเหมือนจะมีคนเดียวที่ไม่อยู่ประชุมพิจารณา คือ คุณอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ฯลฯ
ทีนี้มาดูกำลังของแต่ละฝ่ายว่าเข้มขนาดไหน
ดู ๆ แล้วทั้งฝ่าย พฤหัสบดี และ พระเสาร์ ต่างมีกำลังหนุนเพียบ เพราะ พฤหัสบดีจร (๕) ก็เล็งใส่ พฤหัสบดีดวงเดิม (๕) คือกลุ่มในข่ายเทวดาประจำเมืองเดิมหนุน ส่วน พระเสาร์จร (๗) ก็ทำมุมถึง พระเสาร์ดวงเดิม (๗) ซึ่งรวมทั้ง ครม. คนอื่น ๆ หนุนด้วย
ครั้นเมื่อชั่งน้ำหนักอื่นประกอบแล้ว พฤหัสบดีจร (๕) ดูเหมือนจะได้เปรียบ แม้สถิตในราศีเมถุนมาตรฐานจะด้อย ปุ ๆ ปะ ๆ แบบพลังอ่อน (ประเกษตร) แต่บุญเก่าก็เสริม (อุจจาวิลาส)
อีกทั้งราศีเมถุนที่ พฤหัสบดีจร อยู่ระยะนี้ กำลังเป็นดินแดนแห่งสิริมงคลของเมือง (พระพุธกำลังเป็น ศรีจร ของเมือง – ราศีเมถุนเป็นบ้านหรือเรือนของพระพุธ)
ขณะที่ พระเสาร์จร (๗) กำลังเดินอยู่ในราศีมีน ที่เป็นบ้านเดิมของ พฤหัสบดี (พฤหัสบดีเป็นเจ้าบ้านหรือเกษตรราศีมีน) จึงน่าจะเสียเปรียบ – เพลี่ยงพล้ำให้อีกฝ่าย เพราะต้องสู้ในดินแดนของฝ่ายตรงข้าม
ส่วนการคาดหมายผลกระทบจากการตรึงครั้งนี้ ฝ่าย พระเสาร์ น่าจะเสียเปรียบ ทำให้มีการเปลี่ยนแปลง
ฉะนั้นยืนยันอีกครั้งว่า ไม่ว่าจะหัวหน้าดาวดี-ร้ายจะตรึงกำลังกันแค่ไหน น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในฝั่งรัฐบาลที่ คุณแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ ซึ่งน่าจะมากกว่าการปรับ ครม. เพราะผลของการตรึงของดาวสองดวงนี้ “ใหญ่เจอใหญ่” ทั้งที ไม่น่าจะธรรมดา
มากกว่าการปรับ ครม. นั้นเป็นไปได้ตั้งแต่
นายกรัฐมนตรีต้องคำพิพากษาศาล เช่น คุณเศรษฐา ทวีสิน เคยเจอ
ลาออก
ยุบสภา
ปฏิวัติ
กบฏ
ส่วนใกล้ ๆ นี้ ลางบีบให้ฝั่งรัฐบาลต้องเดินในทางที่ไม่อยากเดิน จะเริ่มออกอาการตั้งแต่ 2 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป (พระศุกร์ [๖] กาลกิณีจรเริ่มทับลัคนาและพระอาทิตย์ดวงเดิม [๑] ดาวตัวแทนการเมืองและผู้นำ)
แล้วจะกดดันเข้มข้นต่อเป็นระยะ ๆ เพราะจะมีดาวคู่อื่นขนาดย่อมกว่า ทยอยตรึงกันในดวงเมือง ผสมโรงซ้ำเข้ามาอีก 3 คู่ จนกว่าจะ 24 สิงหาคม 2568 ไปแล้ว ปรากฏการณ์ “ใหญ่เจอใหญ่” คือ พฤหัสบดีตรึงพระเสาร์ จึงจะจบลง
หลังจากนั้น...หน้าตารัฐบาล – รัฐมนตรี จะเป็นอย่างไรหนอ?
ฟองสนาน จามรจันทร์
30 พฤษภาคม 2568