รวมข้อควรรู้ ปัญหาตาไม่เท่ากัน รักษาอย่างไรให้ตรงจุด

รวมข้อควรรู้ ปัญหาตาไม่เท่ากัน รักษาอย่างไรให้ตรงจุด เจาะลึกหาหาสาเหตุของอาการตาไม่เท่ากัน และแนวทางการรักษาให้ตรงจุดกัน

ปัญหาตาไม่เท่ากัน หรือลักษณะที่รูปตาข้างใด ข้างหนึ่งมีขนาดเล็กมากกว่าอีกข้างหนึ่ง นับเป็นปัญหาด้านดวงตาที่สร้างความกังวล และลดทอนความมั่นใจของใครหลายๆ คน เพราะดวงตาเป็นจุดสำคัญที่สังเกตเห็นได้ชัดมากที่สุด ใช้ทั้งสื่อสารอารมณ์ความรู้สึก บ่งบอกสีหน้า แถมยังส่งผลต่อภาพรวมลุคของเรา หากตาไม่เท่ากันก็พลอยทำให้ใบหน้าไม่สมมาตร แลดูเหนื่อยล้า ตาดูปรือ ไม่สดใส เหมือนคนง่วงซึมตลอดเวลา และทำให้ดูมีอายุมากขึ้นด้วย แล้วปัญหาตาไม่เท่ากันนี้จะรักษาให้หายเป็นปกติได้ไหม รักษายังไงดี? นี่คงเป็นคำถามที่คนที่กำลังเผชิญปัญหาตาไม่เท่ากัน ต้องกำลังพยายามหาคำตอบกันอยู่แน่ๆ บทความนี้เราได้รวบรวมคำตอบมาให้แล้ว มาเจาะลึกหาหาสาเหตุของอาการตาไม่เท่ากัน และแนวทางการรักษาให้ตรงจุดกัน

รวมข้อควรรู้ ปัญหาตาไม่เท่ากัน รักษาอย่างไรให้ตรงจุด

  • เช็กสาเหตุ ปัญหาตาไม่เท่ากันเกิดจากอะไร

ก่อนจะรู้ว่าปัญหาตาไม่เท่ากันรักษายังไง? มาทำความเข้าใจในด้านสาเหตุของลักษณะที่ดวงตาข้างใด ข้างหนึ่งมีขนาดเล็กกว่าอีกข้างหนึ่งกันก่อน โดยสาเหตุหลักที่พบได้บ่อย มีดังนี้ 

 

  • อายุเพิ่มมากขึ้น คอลลาเจนลดลง 

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น เซลล์ในร่างกายก็อาจเสื่อมสภาพ หรือทำงานได้ช้าลง อย่างการสร้างคอลลาเจนที่จะสร้างได้น้อยลง ทำให้คอลลาเจนเก่าและอิลาสตินตัวช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวเกิดการยืดออก ไม่เป็นรูปทรงดังเดิม ผิวรอบดวงตาค่อยๆ หย่อนคล้อย แถมไขมันเปลือกตาอาจหายไป หรือมีปริมาณน้อยมาก หลายคนจึงอาจมีอาการตาโหล หนังตาตก หนังตาหย่อนที่อาจหย่อนคล้อยทั้งสองข้าง หรือข้างเดียว จนเกิดเป็นปัญหาตาไม่เท่ากันขึ้นมาได้นั่นเอง 

 

  • ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง 

ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง คือ อาการที่กล้ามเนื้อลีเวเตอร์ที่ใช้ยกเปลือกตาทำงานไม่ปกติ จึงไม่สามารถเบิกตา หรือลืมตาได้ไม่เต็มที่ หรือหนังตาตกลงมาปิดตาดำมากกว่าปกติ อาจเป็นทั้งสองข้าง หรือเป็นเพียงแค่ข้างเดียว ซึ่งอาจทำให้ชั้นหนังตาไม่เท่ากัน รูปตาโดยรวมจึงดูไม่เท่ากันตามไปด้วย โดยภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงนี้อาจเป็นภาวะที่เกิดได้จากทั้งพันธุกรรม หรือเกิดขึ้นได้ภายหลังจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต 

  • ไขมันสะสมรอบดวงตาเยอะ 

หากมีไขมันสะสมบริเวณรอบเปลือกตาข้างใด ข้างหนึ่งมากเกินไป มีไขมันหนา หย่อนคล้อยจนลงมาปิดบังชั้นตา ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ตาไม่เท่ากันได้เช่นกัน เพราะจะทำให้มองเห็นชั้นตาข้างได้ข้างหนึ่งได้ไม่ชัดเจนนั่นเอง  

 

  • การศัลยกรรมตาสองชั้น 

การทำศัลยกรรมดวงตาในบางเคส โดยเฉพาะการทำตาสองชั้นที่เป็นการใช้เทคนิคปรับแต่งชั้นตา อาจเกิดผลข้างเคียงที่ทำให้ตาไม่เท่ากันได้ โดยอาจมีสาเหตุมาจากแพทย์เลือกใช้เทคนิคไม่เหมาะสมกับรูปตา ไม่ได้มีการรักษาหรือแก้ปัญหารูปตาอื่นๆ ก่อน ไปจนถึงการเย็บแผลที่ไม่ความละเอียดมากพอ เมื่อเวลาผ่านไป ก็อาจส่งผลให้ผิวหนังใต้ตาหย่อนคล้อยมากขึ้น จนเกิดเป็นตาสามชั้น กลายเป็นปัญหาตาไม่เท่ากันได้ในที่สุด

 

  • พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ส่งผลกระทบต่อรูปตา

พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ส่งผลต่อสุขภาพผิวรอบดวงตา เช่น การพักผ่อนน้อย ชอบขยี้ตา จ้องคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ตโฟนติดต่อกันเป็นเวลานาน รวมถึงใส่คอนแท็กต์เลนส์บ่อย ล้วนเป็นพฤติกรรมที่กระทบต่อการทำงานของเปลือกตา อาจทำให้กล้ามเนื้อตาหย่อนคล้อยลงมามากกว่าปกติ เกิดการเกร็ง ดึงรั้ง ซึ่งอาจหย่อนคล้อยไม่เท่ากันทั้งสองข้าง จนรูปตาไม่เท่ากันในที่สุด

 

  • ตาไม่เท่ากัน มีวิธีการรักษาอย่างไร 

ปัจจุบันปัญหาตาไม่เท่ากัน สามารถรักษาให้ดวงตากลับมาเท่ากัน บาลานซ์กันมากขึ้นได้ ด้วยการใช้ เทคนิคทางการแพทย์เข้ามาปรับแต่งรูปตา ทั้งบริเวณเปลือกตา ใต้ตา และการแก้ไขปัญหาเฉพาะจุดที่เป็นสาเหตุทำให้ตาไม่เท่ากัน โดยแพทย์จะต้องมีการประเมินรูปตาของแต่ละบุคคลอย่างละเอียด
    

  • การฉีดฟิลเลอร์ ตกแต่งชั้นตาให้ชัดเจนและเท่ากันมากขึ้น 

ฟิลเลอร์เป็นสารไฮยาลูรอน สารเติมเต็มที่ช่วยในเรื่องความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่นของชั้นผิว จึงสามารถแก้ไขปัญหาหนังตาตก ชั้นตาไม่เท่ากัน หรือไขมันรอบดวงตาสะสมมากจนเกินไป ในเคสที่ชั้นตาไม่เท่ากัน โดยแพทย์มากประสบการณ์จะฉีดฟิลเลอร์เข้าไปบริเวณเปลือกตาบน หรือฉีดตกแต่งชั้นตาให้ชัดเจนและเท่ากันมากขึ้น ข้อดีของฟิลเลอร์ คือให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ รวดเร็ว และไม่ทำให้เกิดแผลเป็น อย่างไรก็ตามก่อนฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะประเมินปัญหาตาไม่เท่ากันแต่ละเคส เลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสม และเลือกจุดบริเวณที่ฉีดตามความเหมาะสม

 

  • การฉีดโบท็อกซ์ ให้ผิวรอบดวงตายืดหยุ่นได้ดีขึ้น

โบท็อกซ์ ไม่เพียงแค่ช่วยให้ใบหน้าดูกระชับและดูเต่งตึงเท่านั้น แต่ยังช่วยแก้ไขปัญหาตาไม่เท่ากันได้ด้วย อย่างเคสที่ตาไม่เท่ากัน เพราะชั้นตาที่หัวตามีขนาดกว้างกว่าหางตา หนังตาตก มีความหย่อนคล้อย โบท็อกซ์จะทำให้กล้ามเนื้อส่วนนี้ยืดหยุ่นได้ดีขึ้น ผิวรอบดวงตาไม่เกิดเป็นรอยพับ ปรับรูปตาให้เท่ากันมากขึ้น ทั้งนี้การฉีดโบท็อกซ์ ไม่เหมาะกับเคสที่มีปัญหาถุงใต้ตาร่วมด้วย เพราะอาจจะทำให้ถุงใต้ตาเด่นชัดมากกว่าเดิมนั่นเอง 

 

  • การศัลยกรรมตาสองชั้น แก้ไขตาไม่เท่ากันอย่างตรงจุด 

การศัลยกรรมตาสองชั้น เป็นวิธีแก้ไขปัญหาตาไม่เท่ากันที่ได้รับความนิยมมาก สามารถให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ตรงจุด และมีความคงทนมากที่สุดวิธีหนึ่ง โดยแพทย์มากประสบการณ์จะวิเคราะห์โครงสร้างรอบดวงตาของแต่ละบุคคลอย่างละเอียด ไม่ว่าจะความยาวของหัวตา หางตา ความสูงของคิ้ว ขนาดเบ้าตา รวมถึงความลึกของไขมันเบ้าตาด้วย เพื่อประเมินว่า ควรใช้เทคนิครูปแบบใด และผ่าตัดในลักษณะไหนเพื่อให้ดวงตาทั้งสองข้างมีขนาดใกล้เคียงกันมากที่สุด เช่น การเลือกเทคนิคกรีดสั้น เทคนิคกรีดยาว เทคนิคเปิดหัวตา เปิดหางตา เหมาะกับคนที่มีขนาดและชั้นตาแตกต่างกันมาก หรือเกิดจากปัญหาทางพันธุกรรมอย่างปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ที่จะต้องมีการปรับแต่งกล้ามเนื้อตาให้ทำงานได้เป็นปกติ 

 

จะเห็นได้ว่าปัญหาตาไม่เท่ากันเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ทั้งสาเหตุจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ไขมันสะสมรอบดวงตาเยอะ การศัลยกรรมตาสองชั้นที่ผิดพลาด ไปจนถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ทำให้หนังตาตก หย่อนคล้อย จนรูปตาดูไม่เท่ากัน ฉะนั้นในการแก้ไข หรือรักษาตาไม่เท่ากัน จึงต้องอาศัยเทคนิคทางการแพทย์เข้ามาช่วยปรับแต่งชั้นตา กล้ามเนื้อตา ลดไขมันสะสมรอบดวงตา อย่างการทำฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ และการศัลยกรรมตาสองชั้น ซึ่งจะต้องเลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน และควรให้แพทย์มากประสบการณ์ช่วยประเมินและวิเคราะห์สาเหตุอย่างละเอียด เพื่อเลือกวิธีรักษาปัญหาตาไม่เท่ากันอย่างตรงจุด ให้ผลลัพธ์ชัดเจนและมาพร้อมกับความปลอดภัยด้วยนั่นเอง