- 24 ม.ค. 2568
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกฎกระทรวงการจดทะเบียนครอบครัวในต่างประเทศ พ.ศ. 2568 จดได้ที่ทำการสถานกงสุลใหญ่และสถานเอกอัครราชทูต
เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่กฎกระทรวงการจดทะเบียนครอบครัวในต่างประเทศ พ.ศ. 2568 ลงนามโดย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้ไว้ ณ วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2568 มีเนื้อหาระบุว่า
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 มาตรา 6 วรรคหนึ่ง มาตรา 9 และมาตรา 25 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัว พุทธศักราช 2478 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกกฎกระทรวงการต่างประเทศ ออกตามความในพระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัว พุทธศักราช 2478
ข้อ 2 เพื่อประโยชน์แก่การจดทะเบียนในต่างประเทศ ให้ที่ทำการสถานกงสุลใหญ่และสถานเอกอัครราชทูต เป็นสำนักทะเบียน
ข้อ 3 ให้ข้าราชการประจำสถานกงสุลใหญ่และสถานเอกอัครราชทูต เป็นนายทะเบียนประจำสำนักทะเบียน ณ ที่ทำการสถานกงสุลใหญ่หรือสถานเอกอัครราชทูตนั้น
ข้อ 4 คำร้องขอจดทะเบียนครอบครัวให้เป็นไปตามแบบท้ายกฎกระทรวงนี้
ข้อ 5 คำร้องขอจดทะเบียนนั้น ถ้านายทะเบียนเห็นว่าทำไม่ถูกต้องตามแบบ เขียนข้อความบกพร่อง หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าการจดทะเบียนมิได้เป็นไปตามเงื่อนไขของการจดทะเบียนครอบครัวที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ นายทะเบียนอาจเรียกผู้ร้องขอจดทะเบียนมาสอบสวนเสียก่อนที่จะรับจดทะเบียนก็ได้
ข้อ 6 การร้องขอจดทะเบียนในกรณีที่ผู้ร้องขอจดทะเบียนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายตาย ตามมาตรา 14 วรรคสอง เมื่อนายทะเบียนสอบสวนแล้วเห็นสมควรรับจดทะเบียน ให้นายทะเบียนบันทึกถ้อยคำและพฤติการณ์แห่งการร้องขอนั้นไว้ในทะเบียนด้วย
ข้อ 7 การจดทะเบียนการหย่า ให้นายทะเบียนบันทึกลงไว้ในทะเบียนสมรสของสำนักทะเบียนกลางด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลการทะเบียน
กรณีที่นายทะเบียนไม่สามารถบันทึกข้อมูลด้วยวิธีการตามวรรคหนึ่งได้ ให้นายทะเบียนผู้รับจดทะเบียนการหย่าคัดสำเนาซึ่งได้รับรองถูกต้องแล้วส่งไปยังสำนักทะเบียนที่รับจดทะเบียนสมรส เพื่อจะได้บันทึกไว้ในทะเบียนสมรสเป็นสำคัญ
ข้อ 8 ให้นำความในข้อ 7 มาใช้บังคับแก่การจดทะเบียนเลิกการรับบุตรบุญธรรมด้วยโดยอนุโลม
ข้อ 9 การบันทึกทุกกรณี ให้นายทะเบียนบันทึกเหตุผลแล้วลงวันเดือนปีและลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญทุกครั้ง
ข้อ 10 ให้นายทะเบียนส่งข้อมูลการจดทะเบียนและการบันทึกทุกกรณีแก่สำนักทะเบียนกลางด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกำหนดเพื่อจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลการทะเบียน
ในกรณีที่ไม่สามารถส่งข้อมูลการจดทะเบียนและการบันทึกทุกกรณีด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ตามวรรคหนึ่งได้ ให้นายทะเบียนคัดสำเนาซึ่งได้รับรองถูกต้องแล้วและส่งไปยังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อส่งต่อไปยังกระทรวงมหาดไทย
ข้อ 11 ผู้มีส่วนได้เสียอาจขอดูทะเบียน ณ ที่ทำการสถานกงสุลใหญ่หรือสถานเอกอัครราชทูตที่รับจดทะเบียนไว้ได้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม เว้นแต่ประสงค์จะขอสำเนาให้นายทะเบียนคัดสำเนาลงลายมือชื่อรับรองให้โดยให้ผู้นั้นเสียค่าธรรมเนียมฉบับละ 300 บาทตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ สถานที่และในเวลาที่ใช้เงิน
ข้อ 12 บรรดาคำร้องขอจดทะเบียนสมรส คำร้องขอจดทะเบียนการหย่า คำร้องขอจดทะเบียนการรับรองบุตร คำร้องขอจดทะเบียนการรับบุตรบุญธรรม และคำร้องขอจดทะเบียนเลิกการรับบุตรบุญธรรมตามกฎกระทรวงการต่างประเทศ ออกตามความในพระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัว พุทธศักราช 2478 ที่ได้ยื่นไว้ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ และยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ให้ถือเป็นคำร้องขอจดทะเบียนสมรส คำร้องขอจดทะเบียนการหย่า คำร้องขอจดทะเบียนรับรองบุตร คำร้องขอจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม หรือคำร้องขอจดทะเบียนเลิกรับบุตรบุญธรรม แล้วแต่กรณีตามกฎกระทรวงนี้ และให้ดำเนินการต่อไปตามกฎกระทรวงนี้
ข้อ 13 บรรดาคำขอสำเนารายการในทะเบียนตามกฎกระทรวงการต่างประเทศออกตามความในพระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัว พุทธศักราช 2478 ที่ได้ยื่นไว้ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับและยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ให้ถือเป็นคำขอสำเนารายการในทะเบียนตามกฎกระทรวงนี้ และให้ดำเนินการต่อไปตามกฎกระทรวงนี้
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายของกฎกระทรวง ได้ระบุเหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 ได้แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติบางประการเพื่อรองรับให้บุคคลเพศหลากหลายสามารถหมั้นและสมรสกันได้เพื่อก่อตั้งครอบครัว มีสิทธิหน้าที่และสถานะทางครอบครัวเท่าเทียมกับคู่สมรสที่เป็นชายและหญิง ประกอบกับกฎกระทรวงการต่างประเทศออกตามความในพระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัว พุทธศักราช 2478 ใช้บังคับมาเป็นเวลานานและมีบทบัญญัติบางประการที่ไม่เหมาะสมกับสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป สมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการและการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนครอบครัวในต่างประเทศให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับกฎหมายที่มีผลใช้บังคับอยู่ จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้