"เงินหมื่นเฟส 2" เตรียมกดปุ่มโอนเงิน 27 ม.ค. ไม่ทิ้งกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน

พรุ่งนี้ได้ชัวร์ "เงินหมื่นเฟส 2" นายกรัฐมนตรี เตรียมกดปุ่มโอนเงินให้กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป ส่วนกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน รัฐบาลไม่ทิ้งแน่นอน

อัปเดตแจกเงินหมื่นเฟส 2 ล่าสุดวันนี้ (26 ม.ค.68) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 2 โดยระบุว่า ในเช้าวันพรุ่งนี้ (27 ม.ค. 68) เวลา 10.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในงานเปิดตัว (Kick Off) โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับกลุ่มผู้มีอายุ ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป โดยจะกดปุ่มส่งมอบเงินให้กับผู้ที่ได้รับสิทธิฯ จำนวนกว่า 3,000,000 คน

 

เงินหมื่นเฟส 2 เตรียมกดปุ่มโอนเงิน 27 ม.ค. ไม่ทิ้งกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน

โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

 

โดย นายกรัฐมนตรี จะพูดคุยกับผู้ที่ได้รับเงิน จำนวน 10,000 บาท ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล (Video Conference) เพื่อสื่อสารและรับฟังความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ พร้อมทั้งรับฟังเสียงสะท้อนของตัวแทนประชาชนที่ได้รับการสนับสนุนเงิน 10,000 บาท ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนต่อการดำเนินนโยบายของรัฐบาลต่อการขับเคลื่อนการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เป็นรูปธรรมตามแนวนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่ได้แถลงต่อรัฐสภา

นายจิรายุ ยังกล่าวอีกว่า ในวันพรุ่งนี้ รัฐบาลจะดำเนินการโอนตามที่ได้ลงทะเบียนไว้กับแอปฯทางรัฐ หากติดขัดยังไม่ได้รับ กระทรวงการคลังจะทำการโอนซ้ำให้ผู้มีสิทธิตามโครงการฯ  อีก 3 ครั้ง เมื่อพ้นกำหนดการ Retry ครั้งที่ 3 แล้ว กระทรวงการคลังจะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงินภายใต้โครงการฯ แล้วจะรวบรวมข้อมูลส่วนที่เหลือเพื่อประมวลเหตุผลในการที่ยังไม่ได้รับ เช่น บางกลุ่มอาจไม่มีสมาร์ทโฟนและไม่ได้ลงทะเบียน ซึ่งรัฐบาลจะรอผลจำนวนตัวเลขที่เหลือเพื่อกำหนดทิศทางและวิธีการต่อไป