บุกห้างดังประตูน้ำ ดงพม่า-แขก เปิดร้านขายของโจ๋งครึ่ม แย่งอาชีพคนไทย

28 ม.ค.68 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สั่งการชุดเฉพาะกิจไตรเทพพิทักษ์ ลงพื้นที่ตรวจแรงงานต่างด้าวทำงานผิดกฏหมายในพื้นที่ย่านประตูน้ำ ซอยราชปรารภ1-3 ห้างดังประตูน้ำ รอบห้างชั้น 1-2 โดยร่วมกับภาคประชาชน นายอานนท์ กิ่งแก้ว หรือสิงห์ดำ ศปปส. และนายอัครวุธ ไกรศรีสมบัติ หรือ เต้ อาชีวะ ประธานกลุ่มอาชีวะราชภักดี หลังจากมีประชาชนแจ้งมาว่ามีแรงงานต่างด้าวเป็นเจ้าของกิจการร้านค้าจำนวนมากทำงานผิดประเภทและแย่งอาชีพสงวนของคนไทย 

โดยปฏิบัติการครั้งนี้เจ้าหน้าที่แต่งกายนอกเครื่องแบบได้และกระจายกำลังตรวจสอบบริเวณร้านเป้าหมาย ซึ่งส่วนใหญ่พบว่ามีคนขายของเป็นชาวต่างด้าวหลายเชื้อชาติ เช่น คนลาว,พม่า,อินเดีย,อิหร่าน ขายสินค้าบริเวณห้างแห่งนี้  เช่น ร้านอาหาร ,ร้านขายเสื้อผ้า ,ร้านขายของเล่นเป็นต้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบพบว่าพ่อค้าแม่ค้าชาวต่างด้าวพยายามโทรหานายจ้างและดันทุรังที่จะขายสินค้าต่อ โดยไม่มีเอกสารแสดงตัวตน เช่น พาสปอร์ตและใบอนุญาตในการทำงานในประเทศไทย  

อ้างว่า “ที่นายจ้างไม่อยู่ที่ร้านด้วย เพราะเป็นวันไหว้ตรุษจีน เดี๋ยวนายจ้างจะมาที่ร้านช่วงบ่าย“  แต่เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวเหล่านั้นไว้ เนื่องจากไม่มีเอกสารแสดงตัวตนแล้วพาไปบันทึกประจำวันที่ สน.พญาไท ซึ่งพบว่ามีต่างด้าว 33 คน  พร้อมกับของกลาง คือ สินค้าที่ขาย และ คิวอาร์โค้ดสแกนจ่ายเงิน โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำและบันทึกประวัติ ก่อนดำเนินคดี นอกจากนี้พบว่านายจ้างบางส่วนก็ติดต่อได้และรีบเดินทางมา สน. ทันที บางส่วนก็ติดต่อไม่ได้

นายพิเชษฐ์ เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญกับการทำงานของแรงงานต่างด้าวในประเทศ โดยได้ตั้งชุดเฉพาะกิจ "ไตรเทพพิทักษ์" เพื่อดูแลปกป้องคุ้มครองคนไทยที่ถูกแรงงานต่างด้าวแย่งอาชีพ แรงงานต่างด้าวทำงานที่ไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงดูแลเรื่องการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน โดยปราบปราม จับกุมและดำเนินคดี กับแรงงานต่างด้าว และนายจ้าง สถานประกอบการ ที่ทำผิดกฎหมายอย่างเด็ดขาด จริงจัง

ในวันนี้ชุดเฉพาะกิจ ไตรเทพพิทักษ์ ได้ออกตรวจการทำงานของแรงงานต่างด้าวบริเวณศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านประตูน้ำ เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร

พบแรงงานต่างด้าวกระทำผิดกฎหมาย แย่งอาชีพคนไทย จำนวน 32 ราย คือ ชาย 14 ราย หญิง 18 ราย โดยส่วนใหญ่ทำงานขายเสื้อผ้า ขายโทรศัพท์มือถือ และเป็นสัญชาติเมียนมามากที่สุด จำนวน 25 ราย รองลงมาเป็น สัญชาติอินเดีย 6 ราย และอิหร่าน 1 ราย

 ซึ่งการตรวจจับในครั้งนี้ มาจากการแจ้งเบาะแสของพี่น้องประชาชน โดยหลังจากนี้ แรงงานต่างด้าวจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป  

 
โดยกระทรวงแรงงานเอาจริง และเข้มงวดในการทำงานของแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ซึ่งหากตรวจพบการฝ่าฝืนกฎหมาย คนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือสิทธิจะมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 – 50,000 บาท

และถูกผลักดันส่งกลับ และในส่วนนายจ้างที่จ้างคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือสิทธิจะมีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 -100,000 บาทต่อคนต่างด้าวที่จ้างหนึ่งคน หากกระทำผิดซ้ำต้องมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานเป็นเวลา 3 ปี

 
หากท่านใดพบเบาะแสการกระทำผิดของแรงงานต่างด้าวในประเทศ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 หรือแจ้งที่คณะทำงานชุดเฉพาะกิจ ไตรเทพพิทักษ์ กระทรวงแรงงาน