- 14 ก.พ. 2568
"หมอเจด" นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา โพสต์เตือนถึงเรื่อง วิตามินเพิ่มภูมิ ลดความเสี่ยงมะเร็ง
"หมอเจด" นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้ออกมาโพสต์ข้อความเตือนด้านสุขภาพ ระบุว่า
วิตามินเพิ่มภูมิ ลดความเสี่ยงมะเร็ง
แค่คนไทยขาดเยอะ !
ถ้าพูดถึงวิตามินดี หลายคนก็จะนึกถึงเรื่องกระดูกแข็งแรงเป็นอย่างแรก
อีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะเล่าวันนี้คือ
วิตามินดีมีบทบาทสำคัญกับระบบภูมิคุ้มกันของเราด้วย และช่วยลดความเสี่ยงมะเร็ง
แต่คนไทยขาดกันเยอะมากนะครับ และการจะเลือกกิน หรือเลือกรับ ผมก็ยังแนะนำเป็นแบบ D3 นะครับ
ต้องเล่าแบบนี้นะว่า วิตามินดีมีอยู่ 2 รูปแบบหลัก ๆ คือ D2 (Ergocalciferol) กับ D3 (Cholecalciferol) ซึ่ง D3 เป็นรูปแบบที่ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้ได้ดีกว่า
มันพบในแสงแดดและอาหารจำพวกปลาไขมันสูง ไข่แดง และตับ ไม่เหมือน D2 ที่ได้จากพืช
D3 ช่วยเพิ่มระดับวิตามินดีในร่างกายได้ดีกว่า D2 และอยู่ในร่างกายได้นานกว่า ซึ่งหมายความว่าเราจะได้รับประโยชน์จากมันมากกว่านั่นเอง
ทีนี้มาดูกันว่าวิตามิน D3 ช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงมะเร็งยังไงนะครับ
1. วิตามินดีช่วยควบคุมไซโตไคน์ ลดการอักเสบ
รู้ไหมว่าเวลาร่างกายเรามีการติดเชื้อหรือมีเซลล์แปลกปลอมเข้ามา ในร่างกายเราจะมีเซลล์ตัวหนึ่งที่ชื่อ Natural Killer (NK) Cells หรือที่เรียกกันว่า "เซลล์นักฆ่า"
จะช่วยกำจัดเซลล์ติดเชื้อและเซลล์มะเร็งได้
จะปล่อย Cytokines ซึ่งเป็นตัวที่คอยควบคุมการอักเสบ
แต่ถ้ามันมากเกินไป ก็อาจทำให้เกิด การอักเสบเรื้อรัง ได้ วิตามินดีช่วยให้ร่างกายปรับสมดุลโดยลด
TNF-α, IL-6, IFN-γ และ IL-1β ที่เป็นตัวกระตุ้นการอักเสบ
และเพิ่ม IL-10 ที่ช่วยลดการอักเสบแทน ทำให้ร่างกายลดการอักเสบ และลดความเสี่ยงมะเร็งนะครับ
2. ช่วยยับยั้งสัญญาณที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ
วิตามินดีสามารถเข้าไปช่วยลดการทำงานของเส้นทาง NF-κB และ MAPK ซึ่งเป็นเหมือนสวิตช์ที่เปิดให้เกิดการอักเสบ ถ้ามันทำงานมากเกินไป
อาจเกิดผลกระทบคือโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง เช่น SLE หรือรูมาตอยด์ และปัญหาสุขภาพอื่น ๆ วิตามินดีจึงเข้ามาช่วย “ปรับระดับ” ให้ทุกอย่างสมดุล ไม่มากไป ไม่น้อยไป
3. กระตุ้น NK Cells ให้ทำงานเต็มที่
อย่างที่บอกไปนะครับ NK Cells ทำหน้าที่เป็นแนวป้องกันด่านแรกของร่างกาย คอยตรวจจับและทำลายเซลล์ที่ติดเชื้อหรือผิดปกติ วิตามินดีช่วยให้ ตัวรับ VDR (Vitamin D Receptor) บน NK Cells ทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งหมายความว่า NK Cells จะมีพลังมากขึ้นในการต่อสู้กับเชื้อโรคและเซลล์มะเร็ง อีกทั้งวิตามินดียังช่วยกระตุ้น Tregs (Regulatory T Cells) ซึ่งเป็นตัวช่วยควบคุมไม่ให้ NK Cells ทำงานมากเกินไปจนเกิดภาวะภูมิไวเกิน ช่น ภูมิแพ้หรือโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง
4. ป้องกันโรคเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ
วิตามินดีไม่ได้มีดีแค่ช่วยเรื่องภูมิคุ้มกัน แต่มันยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังหลายอย่าง เช่น
โรคหัวใจและหลอดเลือด ลดการอักเสบของหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจ
โรคเบาหวาน ช่วยเพิ่มความไวของอินซูลิน ลดความเสี่ยงของภาวะดื้ออินซูลิน
โรคมะเร็ง ส่งเสริมให้ NK Cells กำจัดเซลล์มะเร็งได้ดีขึ้น
โรคทางเดินหายใจ ลดการอักเสบในปอด ช่วยป้องกันโรคอย่าง COPD และหอบหืด
คนที่มีระดับวิตามินดีต่ำ มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคที่ผมพูดไปนะ เพราะฉะนั้นอย่าลืมรักษาระดับวิตามินดีให้เพียงพออาจช่วยลดความเสี่ยงโรคพวกนี้ได้ครับ
5. ลดความเครียดออกซิเดชัน ป้องกันการเสื่อมของเซลล์
ความเครียดออกซิเดชัน (Oxidative Stress) อธิบายง่ายๆคือ ร่างกายมีอนุมูลอิสระมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เซลล์เสื่อม วิตามินดีช่วยเพิ่มการผลิต กลูตาไธโอน และเอนไซม์ SOD (Superoxide Dismutase) ซึ่งช่วยกำจัดอนุมูลอิสระและลดความเสียหายของเซลล์ NK Cells เองก็ได้รับประโยชน์จากตรงนี้ เพราะมันช่วยให้เซลล์เหล่านี้ทำงานได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ถูกทำลายไปก่อนเวลาอันควร
วิตามิน D3 ไม่ได้มีดีแค่ช่วยเรื่องกระดูกนะครับ แต่ยังเป็น ตัวช่วยสำคัญของระบบภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะ NK Cells ที่ทำหน้าที่กำจัดเชื้อโรคและเซลล์มะเร็ง
รวมถึงช่วยควบคุมการอักเสบ ปรับสมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน และป้องกันโรคเรื้อรังต่าง ๆ แต่ก็ยังเป็นวิตามินที่คนไทยขาดเยอะอยู่ดี
เพราะฉะนั้นอย่าลืมรับวิตามินดีให้เพียงพอ วิธีที่ง่ายที่สุดคือ ออกไปโดนแดดวันละ 10-20 นาที
หรือกินอาหารที่มีวิตามินดีสูง เช่น ปลาไขมันสูง ไข่แดง และตับ แต่ถ้ารู้ตัวว่าได้รับไม่พอ อาหารเสริมวิตามินดีก็เป็นอีกตัวช่วยที่ดี
ใครมีคำถามหรือสงสัยตรงไหน คอมเมนต์ได้เลยนะครับ