- 26 ก.พ. 2568
12 บ้านพักคนชรา ผู้สูงอายุอยู่ฟรี หากคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ เพื่อเป็นสถานที่พักพิงและดูแลผู้สูงอายุที่ขาดแคลน หรือมีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ที่กำหนดมีที่ไหนบ้าง ไปดูกัน
มาดู 12 บ้านพักคนชรา ผู้สูงอายุอยู่ฟรี หากคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ เมื่อก้าวเข้าสู่วัยสูงอายุ หลายคนอาจเผชิญกับความกังวลเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยและการดูแล แต่รัฐบาลไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหานี้ และได้จัดตั้ง "บ้านพักคนชราของรัฐ" จำนวน 12 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเป็นสถานที่พักพิงและดูแลผู้สูงอายุที่ขาดแคลน หรือมีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ที่กำหนด
บ้านพักคนชราของรัฐ เหล่านี้ มุ่งเน้นการให้บริการที่ครอบคลุม ทั้งด้านที่พักอาศัย อาหาร การดูแลสุขภาพ และกิจกรรมส่งเสริมคุณภาพชีวิต โดยไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับผู้สูงอายุที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด เพื่อให้ผู้สูงอายุได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและมีศักดิ์ศรีในบั้นปลายชีวิต
คุณสมบัติบ้านพักคนชรา 12 แห่ง โดยมีการจัดบริการผู้สูงอายุรูปแบบในสถาบัน ซึ่งเป็นการบริการด้านที่พักอาศัยแก่ผู้สูงอายุแบบเต็มเวลา จํานวน 11 แห่ง และรูปแบบDay Center 1 แห่ง ประกอบด้วย
1.ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค(กรุงเทพฯ ราชบุรี เพชรบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ ประจวบคีรีขันธ์)
2.ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุภูเก็ต(ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ชุมพร)
3.ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางละมุง(ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว)
4.ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์(rพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท นครสวรรค์ อุทัยธานี)
5.ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดนครพนม(นครพนม สกลนคร มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ อุดรธานี ขอนแก่น เลย หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ หนองคาย บึงกาฬ)
6.ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดสงขลา(สงขลา พัทลุง ตรัง นครศรีธรรม สุราษฎร์ธานี)
7.ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านธรรมปกรณ์(เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน)
8.ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านทักษิณ(ยะลา สตูล ปัตตานี นราธิวาส)
9.ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดขอนแก่น(รูปแบบDay Center)
10.ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบุรีรัมย์(บุรีรัมย์ นครราชสีมา สุรินทร์ ศรีสะเกษ ชัยภูมิ มหาสารคาม อุบลราชธานี)
11.ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดลำปาง(ลำปาง พิษณุโลก อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์)
12.ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดปทุมธานี(ปทุมธานี นนทบุรี สุพรรณบุรี นครนายก นครปฐม กาญจนบุรี)
อย่างไรก็ตาม
หลักเกณฑ์เข้าอยู่บ้านพักคนชราของรัฐ
ผู้สูงอายุที่มีความประสงค์เข้าใช้บริการในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ
ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
- มีอายุเกิน 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และมีสัญชาติไทย
- ไม่เป็นผู้ต้องหาว่ากระทําผิดอาญาและอยู่ระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล
- ไม่เป็นโรคติดต่อตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2523 และพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558
- มีความสมัครใจ
- สามารถช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจําวัน
- ไม่มีอาการทางจิตที่รุนแรง หรือมีพฤติกรรมด้านลบที่จะส่งผลกระทบต่อผู้อื่น
- ไม่ติดสารเสพติด หรือติดสุรา
- กรณีคนเร่ร่อน ถูกทอดทิ้งหรือคนไร้ที่พึ่ง ต้องผ่านกระบวนการตามพระราชบัญญัติคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งพ.ศ. 2557 ก่อน
- ต้องเป็นผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้ มีฐานะยากจน ไม่มีที่อยู่อาศัย
- ขาดผู้อุปการะ หรือผู้ให้ความช่วยเหลือดูแล
- ประเภทของผู้รับบริการ บ้านพักคนชราบางแค
- ทั้งนี้ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค ระบุ ประเภทของผู้รับบริการ
1. ประเภทสามัญ ให้การอุปการะเลี้ยงดูผู้สูงอายุโดยไม่ต้องเสียค่าบริการใด ๆ ทั้งสิ้น
2. ประเภทเสียค่าบริการแบบหอพัก แบ่งออกเป็นห้องเดี่ยว เสียค่าบริการคนละ 1,500 บาทต่อเดือน และห้องคู่เดือนละ 2,000 บาท มีบริการทั้งหมด 40 ห้อง
3. ประเภทพิเศษ (บังกะโล) เป็นบ้านเดี่ยวที่ปลูกสร้างตามแบบแปลนที่กำหนดในที่ดินของศูนย์พัฒนาฯ โดยผู้ปลูกสร้างสามารถพักอาศัยอยู่ได้จนถึงแก่กรรม
ค่าบำรุงแรกเข้า เป็นเงิน 300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน) เพื่อนำเงินดังกล่าวมาใช้ในการปรับปรุงซ่อมแซมบังกะโลที่จะเข้าพัก
ค่าบริการรายเดือนกรณีพักคนเดียว เดือนละ 1,500 บาท และในกรณีเข้าพัก 2 คน เช่น คู่สามีภรรยา หรือพี่น้องเพศเดียวกัน เดือนละ 2,000 บาท
ค่าน้ำประปา เดือนละ 100 บาทต่อคน และค่าไฟฟ้าคิดค่าใฃ้จ่ายตามจริง
อ้างอิง : กรุงเทพธุรกิจ และ กรมกิจการผู้สูงอายุ