- 28 ก.พ. 2568
ทิ้งขยะจากเรือลงแม่น้ำ เราจะป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำได้อย่างไร? มาตรการลงโทษที่มีอยู่เพียงพอหรือไม่? และเราจะจัดการกับปัญหาขยะที่สะสมมานานได้อย่างไร?
เหตุการณ์ เรือทิ้งขยะลงแม่น้ำ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ได้จุดประกายความโกรธแค้นและความกังวลในหมู่ประชาชนอย่างกว้างขวาง ภาพขยะจำนวนมหาศาลที่ถูกทิ้งลงสู่สายน้ำ ได้ตอกย้ำถึงปัญหาที่หยั่งรากลึกในสังคมไทย นั่นคือการขาดจิตสำนึกและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
แต่สิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือคำถามที่ว่า เราจะป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำได้อย่างไร? มาตรการลงโทษที่มีอยู่เพียงพอหรือไม่? และเราจะจัดการกับปัญหาขยะที่สะสมมานานได้อย่างไร? ในขณะที่สังคมกำลังเรียกร้องหาความเปลี่ยนแปลง
บทความนี้จะสำรวจถึงมาตรการลงโทษที่มีอยู่ในปัจจุบัน วิเคราะห์ถึงจุดอ่อนและข้อจำกัด และนำเสนอแนวทางที่เป็นไปได้ในการจัดการขยะอย่างยั่งยืน เพื่อปกป้องแม่น้ำลำคลองของเราให้คงอยู่ต่อไป
จากการตรวจสอบของสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ เรือลำที่เป็นข่าว ยังไม่มีการขอใบอนุญาต เขตฯ จึงได้ออกหนังสือแจ้งเตือนแล้ว โดยให้เวลา 7 วัน ในการปรับปรุงแก้ไข และเข้าสู่ขั้นตอนการขอใบอนุญาต หากภายใน 7 วัน ยังไม่ดำเนินการ เขตฯ จะออกคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น และจะให้เวลาอีก 7 วัน ในการปรับปรุงแก้ไขและขอใบอนุญาต หากยังไม่ดำเนินการอีกก็จะถือว่าฝ่าฝืนมาตรา 45 ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ กทม. ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก โดย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีนโยบายตรวจเข้มสถานที่จำหน่ายอาหารว่ามีการขอใบอนุญาตหรือไม่ รวมถึงเรื่องสุขลักษณะ การแยกขยะ ถังดักไขมัน ปล่อยน้ำทิ้ง
สำหรับเรือที่มีการจำหน่ายอาหาร ต้องขอใบอนุญาตเช่นกัน กทม.มีการลงพื้นที่ตรวจอย่างใกล้ชิดโดยฝ่ายสิ่งแวดล้อมของสำนักงานเขต 50 เขต ส่วนการทิ้งขยะลงคลองหรือแม่น้ำจะมีโทษตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง
ทางด้าน รองผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ ดร.วรชล ถาวรพงษ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กใจความว่า..
…….ปรากฏการณ์
garbage effect
สะเทือนทั้งเจ้าพระยา
…ยอมรับเลยว่าเหตุการณ์ทิ้งขยะจากเรือลงแม่น้ำ เมื่อวันก่อนนี้สร้างความสั่นสะเทือนไปในหลายมิติ อาทิ
…. จิตสำนึกของผู้กระทำผิด
…. ความเห็นแก่ตัว
….regulator ผู้ควบคุม กำกับดูแล ใบอนุญาตทุกประเภท
…. ธุรกิจท่องเที่ยวไทย ที่ยังไปได้ดีกว่าอีกหลาย sector
… มาตรการลงโทษ ปรับ ส่งศาล พักใช้ใบขับขี่ ตรวจสอบการอนุญาต เดินเรือ จอดเรือ โป๊ะ ใบอนุญาตขายอาหาร ใบอนุญาตอาคารที่ใช้เก็บของ ฯลฯ
…การจัดการขยะ
… ปรากฏการณ์ทางสังคมอื่น
คำถาม ที่อยากรู้ คือ
1. บรรดาผู้ที่ถล่มคอมเมนต์เสมือนจะกระทืบเจ้าของเรือให้จมดิน ไม่มีที่ยืนนั้น เคยขาดจิตสำนึกในเรื่องทิ้งขยะ ลดขยะ กันบ้างมั้ยนะ? (เจ้าของคลิปเอง ยังแค่หงุดหงิด 55)
2. มาตรการลงโทษจากภาครัฐ และทางสังคม เหมาะสมและหนักพอแล้วไหม?
- ควรให้เคสนี้ในการที่จะกระตุ้นเตือนจิตสำนึกสิ่งแวดล้อมให้สังคมจะดีกว่าไหม?
3. การลงโทษจากผู้ประกอบธุรกิจกลุ่มเดียวกัน เช่น การยกเลิกสัญญากระทันหัน ผลกระทบเกิดกับนักท่องเที่ยวหลายพันคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ น่าจะเป็น bad impression กับคนไทย ประเทศไทย เสียหายในภาพรวมมากกว่า เจ้าของธุรกิจไหม?
เข้าใจครับ ว่าโกรธ เหมือนเจ้าหน้าที่ พวกเราก็โกรธ
แต่อยากฝากให้ช่วยกันคิดกันไปช้าๆ ด้วยสติ ไม่ใช่อารมณ์
ขอขอบคุณ : รองผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ