สพฐ. ชี้แจง เผยผลสอบปมไส้กรอกแดง ยันไม่พบปัญหาทุจริต

สพฐ. ชี้แจงปม ผอ.ไส้กรอกแดง ยันไม่พบปัญหาทุจริต บกพร่องปฏิบัติหน้าที่ พร้อมตั้งคณะกรรมการติดตามตรวจสอบ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) และ รองโฆษกสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ชี้แจงปมไส้กรอกแดง กรณีสื่อออนไลน์ได้ออกมาโพสต์ว่าโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรี เมื่อปลายเดือนกันยายน 2567 ว่าปรุงอาหารไม่ได้มาตรฐาน โดยเป็นภาพไส้กรอกติดพลาสติก และมีปริมาณน้อย แตกต่างกับภาพที่โรงเรียนส่งรายงานในกลุ่มสภานักเรียนและมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ นั้น
 

สพฐ. ชี้แจง เผยผลสอบปมไส้กรอกแดง ยันไม่พบปัญหาทุจริต

โดย วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568  นายธีร์ ภวังคนันท์ เปิดเผยว่า สพฐ. ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ กพฐ. ไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งให้ตรวจสอบทันที โดยแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังจากนั้นจึงได้มีการเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียด โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) เพชรบุรี เขต 2 ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียง เข้าไปร่วมสนับสนุนตรวจสอบโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า

 

ซึ่งจากการสอบสวน ไม่พบว่ามีการทุจริตแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องของความหละหลวมในการกำกับดูแล จนส่งผลให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น โดยมีผู้เกี่ยวข้องด้วยกันทั้งหมด 4 ราย คือ แม่ครัว ครูที่ทำหน้าที่กำกับดูแลการทำอาหารกลางวัน 2 ราย และผู้อำนวยการโรงเรียน

 

ทั้งนี้ทาง สพฐ. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการอีก 1 ชุด เพื่อกำกับการดูแลการบริหารจัดการของโรงเรียนให้มีความรอบคอบและป้องกันการเกิดเหตุซ้ำอีก รวมถึงปรับการใช้อำนาจที่ขาดความสมดุล พร้อมทั้งได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนครูที่ทำหน้าที่กำกับดูแลการทำอาหารกลางวันทั้ง 2 ราย

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากเตือนให้ทุกโรงเรียนได้ปฏิบัติงานและบริหารให้มีความละเอียด ทั้งเรื่องกระบวนการจัดการเรียนการสอน เรื่องการดูแลนักเรียนและ เรื่องของกระบวนการบริหารบุคคล งบประมาณ และการควบคุมภาพรวมต้องมีความละเอียดมากกว่าเดิม เพื่อลดข้อผิดพลาดและความเข้าใจผิดต่อสังคมให้มากที่สุด อยากให้บุคลากรทางการศึกษาทุกคนปฏิบัติงานให้มีความรอบคอบ

สพฐ. ชี้แจง เผยผลสอบปมไส้กรอกแดง ยันไม่พบปัญหาทุจริต

หากมีข้อสงสัยหรือความไม่แน่ใจให้สอบถามผู้บังคับบัญชาตามระบบราชการ ในส่วนของผู้บริหารอยากให้มีการจัดสัดส่วนการใช้อำนาจให้เหมาะสม ควรเพิ่มการให้ทุกคนมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องในการบริหารมากขึ้น เพราะหลายเรื่องที่เกิดปัญหาเกิดจากการขาดความสมดุลของการมีส่วนร่วม ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนต่อสังคมได้