- 17 เม.ย. 2568
แชร์ |
รู้หรือไม่ว่าบางเมนูที่เราคุ้นเคยและชื่นชอบ กลับซ่อนภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพไตของเราอย่างไม่รู้ตัว? การป้องกันจึงสำคัญกว่าการรักษา
ไตเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกาย มีหน้าที่กรองของเสีย รักษาความสมดุลของน้ำและเกลือแร่ หากไตทำงานผิดปกติ ของเสียจะสะสมในร่างกาย ส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวม โรคไตมักไม่มีอาการในระยะแรก ทำให้หลายคนละเลยและตรวจพบเมื่ออาการรุนแรงแล้ว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคจึงเป็นหัวใจสำคัญในการดูแลสุขภาพไตให้แข็งแรง โดยเฉพาะการหลีกเลี่ยงหรือลดปริมาณอาหาร 4 กลุ่มเสี่ยงดังต่อไปนี้
1. อาหารรสเค็มจัด / มีโซเดียมสูง
- ภัยเงียบ: โซเดียมเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่การบริโภคมากเกินไปจะทำให้ไตทำงานหนักขึ้นเพื่อขับโซเดียมส่วนเกินออก นอกจากนี้ โซเดียมยังดึงน้ำไว้ในร่างกาย ทำให้ปริมาณเลือดเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคไต
- ตัวอย่างอาหารที่ควรระวัง:
- เครื่องปรุงรส: น้ำปลา ซีอิ๊ว ซอสปรุงรส ผงชูรส
- อาหารแปรรูป: บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ไส้กรอก ลูกชิ้น หมูยอ เบคอน
- ของหมักดอง: ผักกาดดอง ปลาเค็ม ไข่เค็ม
- ขนมขบเคี้ยว: มันฝรั่งทอดกรอบ ข้าวเกรียบ
- อาหารสำเร็จรูป: อาหารแช่แข็ง อาหารกระป๋อง
- คำแนะนำ: ลดการเติมเครื่องปรุงรสเค็ม หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปและหมักดอง อ่านฉลากโภชนาการเพื่อตรวจสอบปริมาณโซเดียม เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีโซเดียมต่ำ และปรุงอาหารเองที่บ้านเพื่อควบคุมปริมาณโซเดียม
2. อาหารที่มีโปรตีนสูงเกินความจำเป็น
- ภาระหนักของไต: โปรตีนเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างและซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของร่างกาย แต่เมื่อร่างกายย่อยสลายโปรตีน จะเกิดของเสียที่เรียกว่า "ยูเรีย" ซึ่งไตมีหน้าที่ขับออก การบริโภคโปรตีนมากเกินความจำเป็นจะทำให้ไตทำงานหนักขึ้นในการกำจัดยูเรีย โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะไตเสื่อมอยู่แล้ว
- ตัวอย่างอาหารที่ควรระวัง (หากบริโภคมากเกินไป):
- เนื้อสัตว์: เนื้อวัว หมู เป็ด ไก่
- ผลิตภัณฑ์จากนม: นม ชีส โยเกิร์ต
- ไข่: โดยเฉพาะไข่แดง
- ถั่วและเมล็ดพืช: ถั่วลิสง อัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน
- อาหารเสริมโปรตีน: เวย์โปรตีน
- คำแนะนำ: บริโภคโปรตีนในปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย (โดยทั่วไปคือ 0.8-1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน) เลือกแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพดี และปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อกำหนดปริมาณโปรตีนที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล
3. อาหารที่มีฟอสฟอรัสสูง
- ผลกระทบต่อสมดุลแร่ธาตุ: ฟอสฟอรัสเป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อกระดูกและฟัน แต่เมื่อไตทำงานผิดปกติ จะไม่สามารถขับฟอสฟอรัสส่วนเกินออกได้ ทำให้ระดับฟอสฟอรัสในเลือดสูงขึ้น ซึ่งจะไปดึงแคลเซียมออกจากกระดูก ทำให้กระดูกอ่อนแอและเสี่ยงต่อการแตกหัก นอกจากนี้ ยังอาจทำให้เกิดภาวะแคลเซียมเกาะตามหลอดเลือดและอวัยวะต่างๆ
- ตัวอย่างอาหารที่ควรระวัง:
- ผลิตภัณฑ์จากนม: นม ชีส โยเกิร์ต
- ถั่วและเมล็ดพืช: ถั่วลิสง อัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน
- เครื่องในสัตว์: ตับ ไต สมอง
- ปลาซาร์ดีนกระป๋อง:
- น้ำอัดลมสีดำ: มีฟอสเฟตสูง
- เบียร์:
- คำแนะนำ: จำกัดปริมาณอาหารที่มีฟอสฟอรัสสูง อ่านฉลากโภชนาการ และปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อควบคุมปริมาณฟอสฟอรัสในอาหาร
4. อาหารแปรรูปและอาหารสำเร็จรูป
- ส่วนผสมที่ซ่อนเร้น: อาหารแปรรูปและอาหารสำเร็จรูปมักมีปริมาณโซเดียม ฟอสฟอรัส และสารปรุงแต่งต่างๆ ในปริมาณสูง เพื่อเพิ่มรสชาติและยืดอายุการเก็บรักษา ซึ่งเป็นอันตรายต่อไตโดยที่เราอาจไม่รู้ตัว
- ตัวอย่างอาหารที่ควรระวัง:
- บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
- ปลากระป๋อง
- ไส้กรอก ลูกชิ้น หมูยอ เบคอน
- อาหารแช่แข็งพร้อมปรุง
- ขนมขบเคี้ยวต่างๆ
- คำแนะนำ: ลดการบริโภคอาหารแปรรูปและอาหารสำเร็จรูป เลือกรับประทานอาหารสดใหม่ที่ปรุงเองที่บ้านให้มากขึ้น