เฉลยแล้ว "เส้นขาวในกุ้ง" ที่แท้มันคืออะไร อ.เจษฎ์ ตอบเองชัด ๆ

ชาวเน็ตงงกันทั้งโซเชียล! “เส้นขาว ๆ ในกุ้ง” ที่โผล่มาในร้านอาหาร ล่าสุด อ.เจษฎ์ ผู้เชี่ยวชาญชี้ชัด ว่ามันคืออะไร

"อ.เจษฎ์ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์ข้อความเปิดข้อ โดยได้ระบุว่า

"เส้นขาวๆ ในกุ้ง น่าจะเป็นท่ออสุจิ ครับ"

เพื่อนไปทานที่ร้านอาหารญี่ปุ่นร้านหนึ่งในห้าง แล้วเจอเส้นขาวๆ อย่างในภาพนี้ออกมาจากกุ้ง สงสัยว่ามันคืออะไร ไม่เคยเห็น !? ที่ร้านบอกว่าเป็น "เส้นประสาทกุ้ง" ซึ่งฟังดูไม่น่าใช่ .. ขณะที่ไปถาม ChatGPT มันก็บอกว่าเป็น "พยาธิ" ในอาหารทะเลดิบ ไม่ควรรับประทาน !?

เฉลยแล้ว เส้นขาวในกุ้ง ที่แท้มันคืออะไร อ.เจษฎ์ ตอบเองชัด ๆ

ซึ่งผมดูจากภาพแล้ว (ยังไม่ได้เอามาส่องกล้องนะครับ) ไม่น่าใช่ทั้งเส้นประสาทและพยาธิอะไรครับ แต่น่าจะเป็น "ท่ออสุจิ" ครับ

เรื่องทำนองนี้ ผมเคยโพสต์ไว้ตั้งนานแล้ว ตอนที่มีคนไปเจอใน "กุ้งเครย์ฟิช" ในจานอาหาร ซึ่งผมให้ความเห็นไว้ว่า

“เส้นสีขาวที่เห็นหัวของกุ้งเครฟิช (ตัวผู้) นั้นก็คือท่ออสุจิ vas deferens ที่อยู่ตอนท้ายของอัณฑะ และมีลักษณะเป็นท่อยาว ขดตัวเป็นก้อนอยู่ ถ้าไม่เขี่ยดึงออกมาให้ดูเป็นสายยาว ส่วนที่สงสัยกว่าเป็นพยาธิ โดยเฉพาะพยาธิหอยโข่ง หรือพยาธิปอดหนู ที่มีรายงานเตือนถึงอันตรายจากการกินกุ้งดิบปนพยาธินั้น จะเห็นว่าเส้นสีขาวที่พบนั้น มีความยาวมากกว่าพยาธิที่อยู่ในกุ้งมาก จึงไม่ใช่พยาธิดังกล่าวครับ”

และก็แนะนำไว้ว่า “การกินกุ้งนั้น ก็ควรทำให้สุกสะอาดเสียก่อนจะมารับประทาน ไม่ควรทานดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อเชื้อโรคและพยาธิได้ครับ .. ถ้าทำให้สุกแล้ว ถึงกินพยาธิเข้าไป มันก็ตาย ไม่เข้าไปเติบโตในร่างกายเราครับ ฮะๆ

ดูรายละเอียดของโพสต์เก่า ได้ด้านล่างนี้ครับ

(รีโพสต์) "ท่อที่เห็นนี้ เรียกว่า ท่อ vas deferens หรือท่อนำน้ำเชื้อของกุ้งตัวผู้ครับ ไม่มีอะไรอันตราย (ถ้ากินสุก)"

มีรายงานข่าว ถึงโพสต์ของสมาชิกเพจเฟซบุ๊กกลุ่ม "นี่ตัวอะไร" ที่ลงภาพกุ้งเครย์ฟิช (crayfish) ขนาดใหญ่ตัวหนึ่ง ที่ตนเองนำไปลวกเพื่อจะนำมารับประทาน พร้อมข้อความว่า “เส้นใยสีขาวคือตัวอะไรคะ ออกมาจากหัวกุ้งเครฟิชค่ะ ตัวอื่นไม่มี…เพิ่งเจอตัวนี้ตัวแรก”

นอกจากนี้ ผู้โพสต์ยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า “ขออนุญาตให้ภาพประกอบมื้อกลาง วันนี้ลวกกุ้งเครฟิช กับ กั้ง กินเล่นค่ะ เป็นของสดนะคะ น้องยังดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ตอนลวกค่ะ ตัวปัญหาคือตัวที่ใหญ่ที่สุด เลยเก็บไว้กินหลังสุด ..พอเห็นมีเส้นออกที่หัว ก็ไม่กล้ากิน ถ้าเป็นพยาธิจริง ก็รู้สึกผิดค่ะ เพราะว่าเอาตัวนั้นให้แฟนกิน แต่ก็เอาตัวเส้นทิ้งแล้วนะคะ”

จากการสอบถาม เจ้าของโพสต์เปิดเผยว่า ได้ซื้อกุ้งมาจากตลาดปลาเบซิคตัส ในอิสตันบูล ประเทศตุรกี มากินด้วยกันกับแฟน ตอนเจอคือกำลังหักส่วนหัวแล้วเจอเส้นสีขาว ไม่รู้ว่าเป็นอะไร จึงค่อยๆ เขี่ยออกมา ตอนนั้นตกใจมาก เพราะว่ามันยาวเหมือนพยาธิ !? 

ลักษณะเส้นสีขาวที่เจอในหัวกุ้งเครย์ฟิช จากตุรกีนี้ ก็คล้ายกับกรณีที่เคยมีคนพบเส้นสีขาวปริศนาในหัวกุ้ง ซึ่งซื้อมาจากตลาดในจังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อปี พ.ศ . 2563

โดยสำนักงานประมงจังหวัดสุพรรณบุรี ได้โพสต์อธิบายไว้ว่า กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Manchusa Santanapipat โพสต์เล่าเหตุการณ์ หลังจากที่เธอไปซื้อ “กุ้ง” มาจากตลาดนัดแห่งหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี โดยระหว่างที่เธอแกะส่วนหัวกุ้งออกมา กลับพบว่า ด้านในมีเส้นสีขาวปริศนาซ่อนอยู่ในส่วนหัว มีครบทุกตัว

ซึ่งผู้โพสต์ไม่สามารถระบุได้ว่ามันคืออะไร จึงได้ถ่ายภาพพร้อมนำเรื่องราวดังกล่าว มาโพสต์สอบถามชาวเน็ตในโลกออนไลน์ ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ข้อความสั้นๆ ระบุว่า “สอบถามค่ะ มันคืออะไรในหัวกุ้ง ซื้อมาตลาดนัดเมือวานค่ะ”

หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์เพียงไม่นาน ได้มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความเห็น ซึ่งหลายคนได้ออกมาวิเคราะห์กันต่างๆ นาๆ ไม่ว่าจะเป็น พยาธิ กุ้งเป็นโรค หรือแม้กระทั่ง กุ้งโดนพ่อค้าฉีดสารอะไรบางอย่างเข้าไป

สำนักงานประมงจังหวัดสุพรรณบุรี และศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดสุพรรณบุรี ได้สอบถามนักวิจัย ภาควิชาสัตววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รศ.ดร.วัชริยา ภูริวิโรจน์กุล และ ผศ.ดร.วิกรม รังสินธุ์ ได้ชี้แจงว่าสิ่งที่เห็นในภาพ คือ "ท่อนำอสุจิ (Vas dèferens)" ของกุ้งก้ามกรามเพศผู้ (ดูรูปประกอบ)

ลักษณะโครงสร้างของอวัยวะสืบพันธ์ุเพศผู้ ของสัตว์จำพวกกุ้งนั้น จะประกอบไปด้วยอวัยวะ 2 ส่วน คือ 1. อัณฑะ (testis) 1 คู่ และ 2. ท่อนําอสุจิ (vas deferens) 1 คู่ โดยมีลักษณะสมมาตรกัน ทั้งซ้ายขวา (bilateral symmetry)

โดยอัณฑะ (testis) จะอยู่ทางด้านบนของลําตัวกุ้งในระดับอก ใต้หัวใจ แผ่คลุมเหนือส่วนตับ/ตับอ่อน (hepatopancreas) ประกอบด้วย testicular lobes จํานวน 8 คู่ มีลักษณะคล้ายนิ้วมือ ภายในประกอบด้วยหลอดสร้างอสุจิ (seminiferous tubule) สีขาวขุ่น ขดไปมา อัดกันแน่น ทําหน้าที่ในการสร้างอสุจิ

ส่วนท่อ vas deferens มีลักษณะเป็นท่อกลม สีขาวขุ่น ต่อจากอัณฑะไปทางด้านท้ายของส่วนหัว โดยอสุจิที่สร้างจากอัณฑะ จะถูกส่งเข้ามาใน vas deferens แล้วส่งออกไปตาม vas deferens ไปเก็บไว้ในส่วนของ terminal ampoule / การบีบตัวของกล้ามเนื้อผนังท่อ vas deferens และการโบกพัดของขนบนเซลล์จะช่วยในการเคลื่อนตัวของอสุจิ ต่อมในบริเวณเยื่อบุผิวจะหลังสารที่ช่วยรวบรวมอสุจิ และช่วยสร้างถุงเก็บอสุจิ (spermatophore) ห่อหุ้มกลุ่มของอสุจิไว้ / เมื่ออสุจิมีการพัฒนาที่สมบูรณ์ terminal ampoule จะสลัดถุงเก็บอสุจิ และนําไปสอดใส่ในอวัยวะสืบพันธุ์เพศเมีย (thelycum) ในขณะผสมพันธุ์ 

ดังนั้น เส้นสีขาวที่เห็นหัวของกุ้งเครฟิช (ตัวผู้) นั้นก็คือท่ออสุจิ vas deferens ที่อยู่ตอนท้ายของอัณฑะ และมีลักษณะเป็นท่อยาว ขดตัวเป็นก้อนอยู่ ถ้าไม่เขี่ยดึงออกมาให้ดูเป็นสายยาว

ส่วนที่สงสัยกว่าเป็นพยาธิ โดยเฉพาะพยาธิหอยโข่ง หรือพยาธิปอดหนู ที่มีรายงานเตือนถึงอันตรายจากการกินกุ้งดิบปนพยาธินั้น จะเห็นว่าเส้นสีขาวที่พบนั้น มีความยาวมากกว่าพยาธิที่อยู่ในกุ้งมาก (ปรกติจะประมาณ 0.5 เซนติเมตร) จึงไม่ใช่พยาธิดังกล่าวครับ

อย่างไรก็ตาม การกินกุ้ง (หรือเครย์ฟิช) นั้น ก็ควรทำให้สุกสะอาดเสียก่อนจะมารับประทาน ไม่ควรทานดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อเชื้อโรคและพยาธิได้ครับ (ถ้าทำให้สุกแล้ว ถึงกินพยาธิเข้าไป มันก็ตาย ไม่เข้าไปเติบโตในร่างกายเรา)

อ่านความรู้เรื่อง พยาธิปอดหนู พยาธิหอยโข่ง ได้ด้านล่างนี้

(บทความจากโรงพยาบาลสินแพทย์) "พยาธิหอยโข่ง…อันตรายอย่างไร ทำไมทำให้ตาบอด"

“พยาธิหอยโข่ง” หรือ ”พยาธิปอดหนู” เป็นพยาธิตัวกลมชนิดหนึ่งมีชื่อว่า Angiostrongylus cantonensis ซึ่งโดยปกติจะอาศัยอยู่ในหลอดเลือดแดงของปอดหนู ลักษณะพยาธิตัวเต็มวัยมีรูปร่างเรียวยาวประมาณ 2-3 ซม พยาธิตัวเมียมีขนาดใหญ่ลำตัวมีลักษณะลายแดงสลับขาว ตัวผู้จะมีขนาดเล็กกว่า

พยาธินี้พบมากในแถบเอเชียโดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศไทยพบได้บ่อยทางภาคอีสานและภาคกลาง

ลักษณะและวงจรชีวิตของพยาธิหอยโข่ง : พยาธิตัวเต็มวัยจะอาศัยอยู่ในหลอดเลือดแดงของปอดหนู พยาธิตัวเมียจะออกไข่ในหลอดเลือดแดงและฟักตัวเป็นตัวอ่อน จากนั้นตัวอ่อนจะไชผ่านปอดออกมาจนถึงลำไส้และปนออกมากับอุจจาระหนู

ตัวอ่อนระยะนี้จะถูกกินหรือไชเข้าสู่หอยน้ำจืด เช่น หอยโข่ง หอยเชอรี่ หอยขม กุ้ง ปู กบ ตะกวด แล้วเจริญเป็นตัวอ่อนระยะติดต่อ

เมื่อคนกินสัตว์ที่มีตัวอ่อนระยะติดต่อนี้ เช่น นำหอยโข่ง กุ้ง กบ มาทำอาหารโดยไม่ปรุงให้สุกเสียก่อน ตัวอ่อนจะเดินทางไปที่สมอง ทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้

อาการของการติดเชื้อพยาธิหอยโข่ง : หลังจากคนรับประทานตัวอ่อนพยาธิเข้าไป จะมีระยะฟักตัวประมาณ 7-30 วัน ก่อนแสดงอาการของโรค

โดยตัวอ่อนนี้จะไชเข้าสู่ระบบประสาท เช่น สมอง ไขสันหลัง ทำให้มีอาการปวดศีรษะ ไข้ คลื่นไส้ อาเจียน คอแข็ง ชักเกร็ง อ่อนแรง จนอาจถึงขั้นเสียชีวิต ถ้าพยาธิไชเข้าตา จะทำให้ตาอักเสบ ตามัว ไปจนถึงตาบอดได้

การป้องกันการติดเชื้อพยาธิหอยโข่ง : รับประทานอาหารสะอาดที่ปรุงสุก ล้างผักผลไม้ให้สะอาดก่อนรับประทาน รักษาความสะอาดของสิ่งแวดล้อม ควบคุมหนูซึ่งเป็นโฮสท์ธรรมชาติ

อ่านโพสต์เต็มคลิก