- 21 เม.ย. 2568
การบริโภคอาหารกระป๋องก็ต้องใส่ใจและระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันอันตรายจากสารปนเปื้อนหรือความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับกระป๋องและอาหารภายใน ทานครั้งต่อไป
อาหารกระป๋องเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สะดวกและเก็บรักษาได้นาน ทำให้หลายคนนิยมซื้อติดบ้านไว้ แต่ถึงอย่างนั้น การบริโภคอาหารกระป๋องก็ต้องใส่ใจและระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันอันตรายจากสารปนเปื้อนหรือความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับกระป๋องและอาหารภายใน ก่อนเปิดทานครั้งต่อไป ลองสังเกต 5 จุดสำคัญเหล่านี้ เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของคุณ
1.ตรวจสอบลักษณะภายนอกของกระป๋อง: ก่อนอื่นให้พิจารณาลักษณะโดยรวมของกระป๋องอย่างละเอียด มองหาร่องรอยความเสียหาย เช่น รอยบุบ รอยบวม รอยสนิม หรือรอยรั่วซึม หากพบความผิดปกติเหล่านี้ ไม่ควรนำมารับประทานโดยเด็ดขาด เพราะอาจเป็นสัญญาณว่าอาหารภายในเสื่อมสภาพหรือมีการปนเปื้อนของเชื้อโรค
2.ดูวันหมดอายุและเลขที่ผลิต: สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือการตรวจสอบวันหมดอายุ (Best Before/Expiry Date) ที่ระบุอยู่บนกระป๋อง ควรเลือกซื้อและบริโภคก่อนถึงวันที่ระบุ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร นอกจากนี้ การตรวจสอบเลขที่ผลิต (Lot Number) ก็สำคัญในกรณีที่เกิดปัญหาในการผลิต จะสามารถตรวจสอบและเรียกคืนสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.สังเกตเสียงเมื่อเขย่า: ลองเขย่ากระป๋องเบาๆ หากได้ยินเสียงของเหลวภายในผิดปกติ เช่น เสียงดังคล้ายน้ำซึม หรือไม่มีเสียงของเหลวเลย (ในกรณีที่เป็นอาหารที่มีน้ำ) อาจเป็นสัญญาณว่ากระป๋องมีการรั่วซึม หรืออาหารภายในจับตัวเป็นก้อนผิดปกติ ไม่ควรนำมารับประทาน
ดูลักษณะอาหารเมื่อเปิดกระป๋อง: หลังจากเปิดกระป๋องแล้ว ให้สังเกตลักษณะของอาหาร หากมีสี กลิ่น หรือรสชาติที่ผิดแปลกไปจากเดิม เช่น มีกลิ่นบูด เปรี้ยว หรือมีฟองอากาศ ไม่ควรชิมหรือรับประทานโดยเด็ดขาด แม้ว่าวันหมดอายุจะยังไม่ถึงก็ตาม เพราะอาหารอาจเน่าเสียเนื่องจากการเก็บรักษาที่ไม่เหมาะสม หรือกระป๋องมีความเสียหาย
ตรวจสอบความสมบูรณ์ของฝากระป๋อง: สำหรับกระป๋องที่มีฝาเปิดแบบห่วงดึง (Easy-Open Lid) ให้สังเกตว่าฝาปิดสนิทดีหรือไม่ มีร่องรอยการเปิดมาก่อนหรือไม่ หากพบความผิดปกติ หรือฝาดูเหมือนถูกเปิดแล้ว ไม่ควรนำมารับประทาน เพราะอาจมีการปนเปื้อนจากภายนอก