- 22 เม.ย. 2568
พ่อเด็กเอ็นเหยื่อสาวท้องหึงผัว เล่าปมลึกชีวิตลูกสาว เหตุจำเป็นที่ต้องทำงานนี้ เผยอาชีพก่อนหน้าเคยทำงานในห้างสรรพสินค้า
เกิดเหตุสะเทือนใจในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.มีนบุรี เมื่อ น.ส.วรวรรณ อายุ 27 ปี ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 7 เดือน บุกเข้าไปยังห้องพักรายวันแห่งหนึ่ง หลังจากตระเวนตามหาสามี จนกระทั่งพบว่าสามีของเธอคือ นายสงวน หรือ "บาส" อายุ 27 ปี กำลังอยู่กับหญิงสาวอีกคน คือ น.ส.พจนารถ อายุ 23 ปี ซึ่งทำงานเป็นเด็กเอ็นเตอร์เทน
เมื่อเห็นภาพตรงหน้า น.ส.วรวรรณเกิดความไม่พอใจและบันดาลโทสะ ทำร้ายร่างกาย น.ส.พจนารถอย่างรุนแรง จนเป็นเหตุให้เธอเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งภายหลังเกิดเหตุ น.ส.วรวรรณเดินทางเข้ามอบตัวที่สน.มีนบุรี ยอมรับสารภาพจำนนด้วยหลักฐานเหตุการณ์ทำร้ายจากภาพกล้องวงจรปิด ก่อนนำผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณจุดเกิดเหตุ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ่อของ น.ส.พจนารถ หญิงสาววัย 23 ปีที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นานหลังจากวันคล้ายวันเกิดของลูกสาว เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา โดยลูกสาวเพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่ถึงเดือนที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ย่านอ่อนนุช ซึ่งหลังเกิดเหตุ ภรรยาของเขาต้องขับรถจากบ้านไปตามเขาที่จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นที่ทำงานของเขาในขณะนั้น เพื่อให้รีบมาที่โรงพยาบาลทันที
ในช่วงเวลานั้น เขาได้พบกับนายสงวน หรือ "บาส" สามีของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเข้ามากราบเท้าขอขมา และยอมรับว่าแม้จะเลิกรากับผู้ต้องหาแล้ว แต่ฝ่ายหญิงยังคงหึงหวง เนื่องจากเด็กในครรภ์เป็นลูกของนายบาส โดยนายบาสยังได้มอบเงินจำนวน 20,000 บาท เพื่อเป็นค่าทำศพ ซึ่งพ่อของผู้เสียชีวิตระบายความรู้สึกว่า ยอมรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะลูกสาวเป็นเสาหลักของครอบครัว
พ่อผู้เสียชีวิตเล่าต่อไปว่า ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีลางสังหรณ์ เพราะล่าสุดเมื่อวันที่ 17 เม.ย. 68 ยังได้คุยกับลูกสาวเรื่องการเงินการใช้จ่ายภายในครอบครัว เพราะทราบดีว่าลูกสาวและลูกเขยต้องมีหน้าที่ดูแลลูกของเขา และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เนื่องจากบางครั้งลูกสาวไม่พอใช้ ก็มีการหยิบยืมเงินจากตนอยู่เรื่อยมา ก่อนหน้านี้ลูกสาวเคยทำงานอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แต่รายได้ไม่เพียงพอ จึงหันมาทำอาชีพพนักงานต้อนรับ (PR) ในร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านอ่อนนุช ซึ่งเพิ่งทำได้ไม่นาน
พ่อผู้เสียชีวิตเล่าต่อไปว่า น.ส.พจนารถ มีสามีอยู่แล้ว โดยทั้งสองคบหากันมาประมาณ 3 ปี และมีลูกด้วยกัน 1 คน อายุประมาณ 1 ขวบ สามีทำงานเป็นไรเดอร์ ส่วนเธอทำงานในสถานบันเทิง ซึ่งทำให้ทั้งสองแทบไม่ค่อยได้พบกัน เนื่องจากทำงานคนละช่วงเวลา ส่วนความสัมพันธ์ของลูกสาวกับชายอื่น ตนไม่ทราบในรายละเอียด เนื่องจากว่าลูกสาวมีครอบครัวอยู่แล้ว และยังคงรักกันดีอยู่
แต่หากเป็นเรื่องจริง ตนในฐานะพ่อและเป็นผู้ชายคนหนึ่งก็รับไม่ได้ หากลูกสาวไปแย่งสามีของคนอื่น หรือทำให้ครอบครัวอื่นแตกแยก ตรงนี้ถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง แต่ต้องแยกระหว่างคดีที่ผู้ก่อเหตุกระทำกับลูกสาวตน มันโหดเหี้ยม เนื่องจากผู้ก่อเหตุตั้งครรภ์ถึง 7 เดือน แต่มีความโหดร้าย มีแรงทำร้ายร่างกายคนอื่นโดยไม่คำนึงถึงลูกภายในครรภ์ของตัวเอง ซึ่งย้ำว่าเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอย่างถึงที่สุด ไม่มีการยอมความ