รู้จัก "ดาราเทวี" มนต์เสน่ห์แห่งล้านนาในโรงแรมหรูที่เชียงใหม่

"ดาราเทวี" เป็นดั่งประตูสู่มนต์เสน่ห์แห่งอาณาจักรล้านนาอันรุ่งเรือง บทนำนี้จะนำท่านไปสัมผัสกับความงดงามของสถาปัตยกรรม แรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์

"ดาราเทวี" โรงแรมที่ไม่ใช่เพียงแค่ที่พัก แต่เป็นดั่งประตูสู่มนต์เสน่ห์แห่งอาณาจักรล้านนาอันรุ่งเรือง บทนำนี้จะนำท่านไปสัมผัสกับความงดงามของสถาปัตยกรรม แรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์ และบรรยากาศอันน่าหลงใหลที่ทำให้ ดาราเทวี กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ตราตรึงใจผู้มาเยือน

 

รู้จัก ดาราเทวี มนต์เสน่ห์แห่งล้านนาในโรงแรมหรูที่เชียงใหม่

เมื่อย้อนกลับไปเมื่อราวสิบปีก่อน ชื่อของ "ดาราเทวี เชียงใหม่" โดดเด่นเป็นสง่าในวงการโรงแรมและที่พัก ด้วยความเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวสุดหรูในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากลถึงขั้นติดอันดับ 1 ใน 4 โรงแรมชั้นนำของประเทศไทย จากการจัดอันดับ "โกลด์ลิสต์" โดย Condé Nast Traveller นิตยสารท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก

 

ความสำเร็จและความเป็นเลิศของ ดาราเทวี เชียงใหม่ เป็นที่ประจักษ์อย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. 2558 โรงแรมแห่งนี้ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน 100 สุดยอดโรงแรมระดับโลก จากสื่อชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ยิ่งไปกว่านั้น ในปี พ.ศ. 2557 หรือหนึ่งปีก่อนหน้า "ดาราเทวี เชียงใหม่" ยังได้รับรางวัล โกลด์ เซอร์เคิล อวอร์ด ประจำปี 2557 จาก อโกด้าดอทคอม (Agoda.com) ผู้นำด้านการให้บริการเว็บไซต์สำรองห้องพักออนไลน์ระดับโลก ซึ่งมอบให้กับโรงแรมพันธมิตรที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นเลิศด้านการบริการตามมาตรฐานสากล

 

รู้จัก ดาราเทวี มนต์เสน่ห์แห่งล้านนาในโรงแรมหรูที่เชียงใหม่

โรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ โรงแรมระดับ 5 ดาว มูลค่าหลายพันล้านบาท ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2545 ด้วยความหลงใหลในเสน่ห์ของศิลปวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมล้านนาของ สุเชฏฐ์ สุวรรณมงคล นักธุรกิจเจ้าของดีลเลอร์รถยนต์รายใหญ่แห่งภาคใต้

 

ด้วยทุนสร้างกว่า 3 พันล้านบาท บนเนื้อที่ประมาณ 153 ไร่ ในตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ โรงแรมแห่งนี้ถูกเนรมิตขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมล้านนาโบราณอันงดงามและอลังการ ตั้งอยู่บนถนนสายเชียงใหม่-สันกำแพงที่เงียบสงบและสวยงามใจกลางเมืองเชียงใหม่ พร้อมห้องพักจำนวน 123 ห้อง

 

จากข้อมูลของ "นิตยสารแพรว Wedding" ที่มาของชื่อ "ดาราเทวี" มีความหมายอันลึกซึ้งและเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมล้านนาอย่างน่าสนใจ

 

คำว่า "ดารา" สื่อถึงสามนัยสำคัญ:

  • พระนามของเจ้าดารารัศมี: เพื่อเป็นเกียรติแก่พระราชชายาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมล้านนา
  • การจัดวางอาคารตามจักรราศีล้านนา: สะท้อนความเชื่อผ่านการวางผังโรงแรม โดยมีองค์ประกอบสำคัญคือ 1 ประตู (ประตูไชยะดาราฯ ซึ่งเป็นทางเข้าหลัก), 3 จอง (อาคารหลัก 3 หลัง), 7 หนอง (หนองน้ำเดิมรวมกับสระว่ายน้ำที่สร้างใหม่), และ 12 หอ (อาคารต่างๆ ที่เรียงรายเป็นรูปนกตามแผนผัง) การเลือกรูปนกนั้นมาจากความเชื่อของชาวล้านนาที่นับถือเจ้าผู้ครองนครเป็นเจ้าแห่งท้องฟ้า ภายในโรงแรมจึงประดับประดาด้วยรูปนกมากมาย โดยเฉพาะนกยูงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระอาทิตย์ ศูนย์กลางแห่งดาราศาสตร์
  • ดวงดาวสัญลักษณ์ของโรงแรม: วิธีการออกแบบที่นำดวงดาวมาเป็นโลโก้ของโรงแรม

 

ส่วนคำว่า "เทวี" สื่อถึงความนิยมและความเคารพในสตรีสูงศักดิ์ของสังคมล้านนา ซึ่งถือเป็นตัวแทนแห่งความดีงามและการเกื้อกูล


อย่างไรก็ตาม ก็มีดราม่าตั้งแต่ช่วงก่อสร้าง เนื่องจากถูกนักวิชาการล้านนาออกมาต่อต้าน กรณีจำลองโบราณสถานและสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์เข้าไปไว้ในโรงแรม แต่ภายหลังเปิดกิจการ โรงแรมก็ได้รับการตอบรับอย่างดี จนกลายเป็นโรงแรมดังระดับโลก รวมทั้งก่อนเปิดให้บริการในปี 2547 ยังมีการเซ็น MOU กับ “แมนดาริน กรุ๊ป” บริษัทด้านโรงแรมระดับโลก มาบริหารดาราเทวีเป็นระยะเวลา 15 ปี

 

ต่อมาในปี 2558 สุเชฏฐ์ สุวรรณมงคล ตัดสินใจขายกิจการทั้งหมดให้แก่ “นายแพทย์ วิชัย ถาวรวัฒนยงค์” ประธานกรรมการ บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) โดย IFEC ได้เข้าซื้อหุ้นจากกลุ่มโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ 100% พร้อมหนี้ รวมมูลค่าการซื้อทั้งหมด 2,520 ล้านบาท

 

หลังจากนั้นไม่นาน ธุรกิจก็เริ่มประสบปัญหา ทั้งต้นทุนพนักงานที่สูงมาก ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรมที่ไม่ผ่านผลกระทบสิ่งแวดล้อมในบางส่วน ก่อจะประสบกับวิกฤตร้ายแรงสุด คือ ช่วงโควิด

 

ในช่วงต้นปี 2563 หลังได้รับผลกระทบจากโควิดโรงแรมได้แจ้งปิดกิจการให้บริการชั่วคราว โดยในเดือน มิ.ย. 2563 โรงแรมได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ก่อนที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2563 ทำให้โรงแรมต้องประกาศปลดพนักงาน และปิดกิจการและเข้าสู่กระบวนการล้มละลายในท้ายที่สุด ถือเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าในเชียงใหม่รายแรกที่ประกาศปิดกิจการ

 

โดยในปี 2568 โรงแรมกลับมาเปิดกิจกรรมแรกในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 ชื่อ “กาดดาราเทวี เชียงใหม่” จัดทุกปลายเดือน แต่โรงแรมยังมีสถานะปิดทำการ และอยู่ระหว่างการจัดการทรัพย์สินจากกระบวนการล้มละลาย 

 

จนกระทั่งล่าสุด โรงแรมเป็นข่าวดังอีกครั้ง เมื่อเวลา 02.00 น.ของวันที่ 23 เมษายน 2568 เกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ บริเวณเรือนไม้ด้านหน้าที่คาดว่าจะเป็นส่วนของการให้บริการสปา