- 24 เม.ย. 2568
เปิดสภาพ เฟอร์รารี่ คันละ 34 ล้าน หลังประสบอุบัติเหตุชนเบนซ์ พ่อคนขับซุปเปอร์คาร์ยินดีรับผิดชอบทั้งหมด หากลูกผิดจริง
จากกรณีที่เกิดเหตุรถชนกันแล้วเกิดเพลิงไหม้ บนถนนพุทธมณฑล ช่องทางด่วน (ขาเข้า) แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย เป็นคนขับ Mercedes Benz เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่ง รพ.ราชพิพัฒน์ ส่วนคนขับ Ferrari ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ไม่ประสงค์จะไปโรงพยาบาล
นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุห่างไปประมาณ 10 เมตร ยังพบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา (ไม่ทราบทะเบียนรถ) พลิกตะแคงขวา กีดขวางทุกช่องทาง ส่วนคนขับได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่จึงปิดการจราจรช่องทางด่วนชั่วคราว ทางตำรวจจะตรวจสอบกล้องวงจนปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ และสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกคน ก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
จากการตรวจสอบความเสียหายของรถทั้ง 3 คันพบว่ารถซุปเปอร์คาร์ ยี่ห้อเฟอร์รารี่ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน รถใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิง อยู่ในสภาพถูกเผาไหม้เละ ไม่สามารถซ่อมแซมได้ และคันที่ 2 รถยนต์ ยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน รถใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิง เพลิงลุกไหม้เสียหายทั้งหมด บริเวณซุ้มล้อหลังฝั่งซ้าย พบชุดจานเบรกของรถเฟอร์รารี่ติดคาอยู่
ส่วนรถคันที่ 3 เป็นรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้แชมป์ สีเทา ฝากระโปรงหน้าได้รับความเสียหาย โดยรถทั้ง 3 คัน ถูกนำมาจอด เก็บไว้ที่สน. ธรรมศาลา
เกี่ยวกับเรื่องนี้ล่าสุดมีรายงานว่า นายกมล ศิลาทอง อายุ 55 ปี พาบุตรชาย คือน้องเฟียส อายุ 23 ปี ผู้ขับขี่รถเฟอร์รารี่ เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน. ธรรมศาลา หลังจากเดินทางไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล
โดยนายกมล กล่าวว่า ได้ทราบเรื่องดังกล่าวจากลูกชายว่าเมื่อเวลาตี 2 ขณะเกิดเหตุลูกชายกำลังขับรถกลับบ้านพักย่านพุทธมณฑลสาย 2 หลังจากไปส่งแฟนที่บ้าน ขณะขับอยู่ในเลนขวาสุด ได้มีรถกระบะขับมาปาดหน้า ทำให้เกิดการเฉี่ยวชนท้ายรถกระบะจนรถกระบะหมุนไปฟาดกับรถเบนซ์ที่ขับตามหลังมา
จากนั้นรถของลูกชายก็ไปชนกับรถเบนซ์อีกครั้งจนเป็นเหตุให้รถเกิดไฟลุกไหม้ ลูกชายและคนขับรถเบนซ์จึงหนีออกมาจากตัวรถ จากนั้นมีการพูดคุยกันเบื้องต้น และต่างขอตัวแยกย้ายไป รพ. เนื่องจากลูกชายมีอาการแน่นที่หน้าอกจากการกระแทก รถคันนี้ ซื้อมา ใน ราคา 34 ล้านบาท จดทะเบียนเมื่อปี 2022 จดทะเบียนในนามภรรยาของตน
นายกมล อธิบายต่อว่า ที่ผ่านมาตนจะคอยตักเตือนลูกชายตลอดว่าให้ขับรถด้วยความไม่ประมาทและระมัดระวัง โดยเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น ครั้งนี้ โชคดีไม่มีผู้ใดเจ็บหนักหรือเสียชีวิต เป็นคดีอุบัติเหตุ พนักงานสอบสวนจึงได้นัดให้มาพูดคุยกับคู่กรณีเพื่อสอบปากคำหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ หากตนเป็นฝ่ายผิดก็ยินดีที่จะรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องให้ทางพนักงานสอบเป็นผู้ดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม ทาง พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรอให้ทางคู่กรณีทั้งหมดเดินทางเข้ามาพูดคุยเพื่อสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งต่อไป