- 27 เม.ย. 2568
ทำความรู้จัก “Sunset Yellow FCF” อันตรายแฝงจากสาร สีส้มในชาไทย ทำไมถึงถูกแบนในบางประเทศ? ไปไขข้อสงสัยกันค่ะ
สืบเนื่องจาก นิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้ออกมาให้ข้อมูล ชาไทย แบรนด์ดัง ใส่สีสังเคราะห์เพียบ ชี้ 3 อันดับสีเกินลิมิต บทความนี้จะพาไปทำความรู้จัก “Sunset Yellow FCF” สีส้มในชาไทย ทำไมถึงถูกแบนในบางประเทศ? ไปไขข้อสงสัยกัน
อันตรายจริงหรือไม่?
สีส้มในชาไทย หรือสาร Sunset Yellow FCF เป็นสีผสมอาหารที่สังเคราะห์จากกระบวนการทางเคมี ถูกใช้เพื่อเพิ่มสีสันให้กับอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งมีการใช้แพร่หลายทั่วไปในระดับโลก แต่ขณะนี้ในบางประเทศได้ห้ามใช้หรือควบคุมการใช้สีผสมอาหารนี้แล้ว เช่น เดนมาร์ก ฟินแลนด์ และประเทศในโซนยุโรป เนื่องจากข้อกังวลในเรื่องผลกระทบด้านสุขภาพ หากมีใช้เกินกว่าปริมาณที่กำหนด
ในประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ยังอนุญาตให้ใช้ Sunset Yellow FCF ในอาหารและเครื่องดื่มได้ โดยระบุว่าชาที่ใส่สีจะถูกนับเป็นประเภทชาปรุงสำเร็จที่ปรุงแต่งสีกลิ่นรส ซึ่งกฎหมายอนุญาตให้ใส่สีผสมอาหารนี้ได้ไม่เกิน 100 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม สอดคล้องตามมาตรฐานสากล
เนื่องจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ถือว่าสีดังกล่าวยังปลอดภัยสำหรับการใช้ในอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งต้องควบคุมการใช้และการบริโภคอย่างเหมาะสม นั่นคือกำหนดให้ใช้ในปริมาณ 0-4 มิลลิกรัม/กิโลกรัม (น้ำหนักตัว) ต่อวัน
แม้ว่าสาร Sunset Yellow FCF จะผ่านการตรวจสอบจาก อย. แล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถดื่มได้โดยไม่จำกัด โดย ดร. นุติ หุตะสิงห หรือที่คนรู้จักในชื่อ เชฟทักษ์ เชฟและนักวิทยาศาสตร์ทางอาหาร ย้ำเตือนถึงความเสี่ยงและอันตรายจากการดื่มชาผสมสีมากจนเกินไปว่า หากดื่มชาไทยเกิน 2 แก้วต่อวัน จะได้รับเจ้าสารสีส้มตัวนี้มากกว่าปริมาณที่มาตรฐานสากลกำหนดไว้ เกิดผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น กระตุ้นให้เกิดอาการสมาธิสั้นในเด็ก รวมไปถึงความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งหรือผลเสียต่อไต
เพราะในชาทั่วไปมีสาร Oxalate ปนอยู่ โดยชาดำมีปริมาณมากที่สุด รองลงมาคือชาแดงและชาเขียว ชาไทยผลิตจากชาดำ คนขายมักใส่ผงชาเยอะเพื่อความเข้มข้น ทำให้การละลายของสาร Oxalate ในน้ำเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
เมื่อสารตัวนี้พบกับแคลเซียมในไต ทำให้แข็งตัวเป็นสารประกอบแคลเซียมที่มีโอกาสกลายเป็นนิ่วในไตได้ ไม่นับรวมกับน้ำตาล ไขมันจากครีมเทียม นมข้นหวานและสารปรุงแต่งที่ได้รับเพิ่มขึ้นตามปริมาณแก้วที่ดื่มในแต่ละวัน
จากบทความ Methods for the analysis of Sunset Yellow FCF (E110) in food and beverage products- a review ที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร TrAC หรือ Trends in Analytical Chemistry ได้มีการกล่าวถึงประเด็นของสีผสมอาหาร ซึ่งเน้นไปที่สาร Sunset Yellow FCF เป็นหลัก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์การใช้สีผสมอาหารขนาดนี้ในผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม พบว่าอาจส่งผลให้เกิดอาการสมาธิสั้น (Attention Deficit Hyperactivity Disorder : ADHD) ซึ่งเป็นกลุ่มอาการทางพฤติกรรมที่รวมไปถึงการขาดสมาธิ และหุนหันพลันแล่น หรือแม้แต่โรคมะเร็ง และผลเสียต่อสุขภาพอื่น ๆ เมื่อบริโภคมากเกินปริมาณที่กำหนดไว้และต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน
ทำไมถึงถูกแบนในบางประเทศ?
แม้ความจริงสีชาไทยจะไม่ได้ถูกแบนในสหรัฐฯ เพียงแต่ถูกจัดอยู่ในหมวดสีที่ต้องควบคุม โดยต้องมีใบรับรองและตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ก่อนนำเข้าประเทศ แต่ด้วยขั้นตอนที่ยุ่งยากทำให้บริษัทชาไทยหลายแห่งเลือกส่งออกชาไทยที่ไม่ใส่สี Sunset Yellow FCF (Yellow 6) แทน
ส่วนใหญ่การแบนหรือควบคุมการใช้สีผสมอาหารในหลายประเทศทั่วโลกมักมีข้อกังวลสำคัญคือผลกระทบด้านสุขภาพ เพราะสีผสมอาหารเป็นสารเคมีที่เพิ่มความสวยงามให้กับอาหารด้วยสีสังเคราะห์ ซึ่งการศึกษาวิจัยบางส่วนพบว่า สีผสมอาหารอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรง เช่น เด็กสมาธิสั้น มะเร็งและภูมิแพ้
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกสีผสมอาหารจะเป็นอันตรายทั้งหมด แต่จะมีบางสีที่ถูกควบคุมหรือห้ามใช้ไว้เนื่องจากมีบางงานวิจัยพบว่ามีความเสี่ยงเหล่านั้นจริง แต่ด้วยข้อมูลที่บอกต่อๆ กันจนยากจะแยกว่าเรื่องไหนคือข้อเท็จจริงหรือเรื่องไหนคือความเชื่อ ทำให้หลายคนยังคงมีคำถามอยู่เสมอว่า ทำไมสีชาไทยถึงถูกแบน?
ขอบคุณข้อมูลจาก : healthline, newsbreak , petroleumservicecompany, theguardian, aaps.ca