- 29 เม.ย. 2568
เปิดยอดเงินเยียวยา ด.ญ. 8 ขวบ ถูกหมาพิตบูลขย้ำ ค่ารักษาพยาบาลหลักแสน เจ้าของหมาจ่ายแค่นี้ ด้านกระทรวงสาธารณสุขเร่งช่วยเหลือ
จากกรณีเหตุสุนัขพิตบูลหลุดไปกัดเด็กหญิงวัย 8 ขวบ ก่อนลากเด็กจากเตียงลงมาขย้ำจนเป็นแผลที่ลำคอและศีรษะจนได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ภายในบ้านพักที่อยู่ติดกันในพื้นที่ซอยสุขาประชาสรรค์ 2 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยเหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 28 ก.พ. 68 ที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุเจ้าของสุนัขได้ให้เงินในการเยียวยารวมกันเพียงแค่ 4,000 บาทเท่านั้น จากค่ารักษาทั้งหมดประมาณหลักแสนบาท
วันนี้ (29 เม.ย.) เวลา 11:00 น. เพจ “กล้าที่จะก้าว” ได้พาน้องผู้เสียหายวัย 8 ขวบ พร้อมพ่อและแม่เดินทางเข้ามาพบนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข เพื่อขอให้ช่วยเหลือทั้งในเรื่องค่ารักษาพยาบาลและเรื่องทางคดี ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี
นายกองตรี ดร.ธนกฤต กล่าวว่า จากกรณีที่น้องวัย 8 ขวบถูกสุนัขของเพื่อนบ้านขย้ำจนได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก มีแผลที่ต้องเย็บบริเวณศีรษะหลายจุด รวมถึงทางเพื่อนบ้านยังไม่เข้ามาดูแลในส่วนของเรื่องการเยียวยาอย่างถูกต้อง กรณีนี้ถือว่ามีอัตราโทษที่สูง โดยวันนี้ตนได้มีการประสานไปยังอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของน้องในเบื้องต้นในเรื่องของค่ารักษาและการเยียวยาต่างๆ รวมถึงจะต้องมีการตรวจสอบบาดแผลเพิ่มเติมจากทางทีมแพทย์ที่เราได้ประสานมา เพื่อทำการประเมินบาดแผลเบื้องต้นและหาแนวทางในการรักษาต่อไป ซึ่งจากที่เห็นตอนนี้พบว่า ตัวของเด็กน่าจะได้รับผลกระทบในเรื่องของเส้นประสาท รวมถึงเรื่องของสภาพจิตใจที่จะต้องมีเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาช่วยเหลือ
ในส่วนของเรื่องคดีความ ตอนนี้ได้มีการประสานไปยัง ผกก.สภ.ปากเกร็ด ซึ่งเป็น สภ.ในพื้นที่รับเรื่องแล้ว โดยอาจมีการตั้งข้อหาเจ้าของสุนัขเบื้องต้นในคดี “กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายสาหัส” ซึ่งก็ต้องรอผลรายงานการตรวจจากทางแพทย์อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ก็ได้ประสานไปยังโรงพยาบาลที่น้องพักรักษาตัวอยู่เพื่อเร่งรัดในส่วนของเรื่องนี้ ซึ่งตนก็มองว่าในส่วนของเรื่องคดีไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะมีผู้กระทำความผิดชัดเจน และจากการที่ตนได้ติดตามคดีในเรื่องที่คล้ายกันนี้ พวกเรื่องของคนที่เลี้ยงสุนัขพันธุ์ดุแล้วไปกัดคนอื่น ตนมองว่าคดีนี้อาจจะไปถึงโทษจำคุกได้เลยทีเดียว
ด้านแม่ของน้องที่ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุตนยังไม่ได้กลับจากทำงาน แต่ได้รับข่าวจากคุณยายว่าน้องโดนสุนัขกัด พอมาถึงก็เห็นกู้ภัยกำลังทำแผลให้น้องอยู่ ในตอนเกิดเหตุคุณยายเล่าว่า ยายกับน้องนั่งคุยกันอยู่บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งเป็นจังหวะที่สุนัขตัวดังกล่าวได้หลุดออกมาแล้วเดินเข้ามาในบ้าน ซึ่งปกติแล้วประตูบ้านจะปิดช่วงเวลาที่ตนกลับบ้านคือประมาณ 3 ทุ่ม แต่วันนั้นตนทำโอทีจึงอาจกลับบ้านช้า
โดยหลังสุนัขหลุดเข้ามาก็ได้ขย้ำน้องจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่ทางกู้ภัยจะได้เร่งนำตัวน้องไปส่งโรงพยาบาล หลังจากเกิดเรื่องทางฝั่งเจ้าของสุนัขและญาติได้มาผูกแขนรับขวัญน้อง และทางญาติเจ้าของก็ได้บอกว่า “ถ้าไปศาลจะไม่ได้เงินเยียวยา 100,000 บาท แต่จะได้แค่ 10,000 บาท” รวมถึงมีการอ้างว่าญาติของเขานั้นมีตำแหน่งเป็นอัยการอยู่ด้วย ทุกวันนี้เวลาที่ตนไปไหนก็ต้องเอาน้องไปด้วย รวมถึงเวลาที่ต้องทำงานก็ต้องเอาไปด้วย เพราะน้องมีอาการหวาดกลัวจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยการเข้ามาขอความช่วยเหลือในวันนี้ก็หวังว่าจะสามารถเข้าช่วยเหลือได้ทั้งเรื่องการเยียวยาและการรักษาตัวของน้อง เพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติโดยเร็วที่สุด