- 01 พ.ค. 2568
11 ปีที่น้องการ์ตูนสู้ชีวิตบนเตียงผู้ป่วย วันนี้แม่ตัดสินใจ "ปล่อยน้องไปอย่างสงบ" ท่ามกลางน้ำตาและคำถามจากสังคมที่ยังไร้คำตอบจากคนก่อเหตุ
เรื่องราวของ “น้องการ์ตูน” หนึ่งในเหตุการณ์ที่สะเทือนใจสังคมไทย เป็นอย่างมาก ย้อนไปเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2557 คนขับรถกระบะแต่งซิ่ง เมาแล้วขับแข่งกันมา ก่อนเสียหลักพุ่งชนร้านสเต็ก ปากซอยเอกชัย 119 ย่านบางบอน กทม. เหตุการณ์นี้ทำให้ น้องการ์ตูน หนูน้อยอายุ 5 ขวบ บาดเจ็บสาหัส เป็นผู้ป่วยติดเตียง สมองเสียหายถึง 75 % ตาบอดทั้งสองข้าง ไม่สามารถพูด หรือเคลื่อนไหวได้ด้วยตนเอง น้องการ์ตูน มีแม่ดูแลอย่างใกล้ชิด ขณะที่ พ่อของน้องการ์ตูน เสียชีวิตทันที
และเมื่อปีที่แล้ว (2567) ครบรอบ 10 ปี คดีความ แม่น้องการ์ตูนได้ประกาศไว้ว่า “ขอไม่สู้คดีแล้ว สำหรับโทษคดีความที่ผ่านมาของคู่กรณี คือ ติดคุกเพียง 1 ปี และยังไม่ได้จ่ายชดเชยให้สักบาทเดียว”
และเมื่อวานนี้ (30 เม.ย.) “แอดมินเพจร้านสเต็กคุณแม่การ์ตูน” ได้ออกมาโพสต์ว่า แม่ของน้องการ์ตูน กำลังลำบากหนัก ต้องหาเงินมาจ่ายค่ารักษา ภายในวันนี้ (30 เม.ย.) 300,000 บาท แอดมินไม่รู้จะหันไปทางไหน ขอพึ่งพาน้ำใจจากพี่ๆ ท่านใด ที่พอจะมีกำลังช่วย ให้ยืมเงินเพื่อจ่ายค่ารักษาน้องก่อน แล้วคุณแม่จะทยอยผ่อนคืนเงินให้ทีหลัง ทำให้เกิดประเด็นดรามาบนโลกโซเชียลต่างๆ ตามมา
จนล่าสุด ทางเพจเดิม ออกมาโพสต์ว่า คุณแม่ตัดสินใจ ยุติรักษาลูกสาว มีรายละเอียดว่า “ขออนุญาตแจ้งเรื่องสำคัญ ที่พยายามหลีกเลี่ยงจะพูด แต่สุดท้ายก็จำเป็นต้องพูด เพื่อให้พี่ๆ ทุกท่านเข้าใจ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทุกกำลังใจ และการสนับสนุนจากพี่ๆ คือพลังสำคัญสำหรับ “น้องการ์ตูน” และคุณแม่ของน้องอย่างที่สุด วันนี้ขอแจ้งให้ทราบว่า กำลังใจเหล่านั้นคือ “ครั้งสุดท้าย” ที่จะส่งถึงน้อง
หลังจากการตัดสินใจครั้งใหญ่ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ครอบครัว และคุณแม่ของน้องได้ตัดสินใจ “ปล่อยน้องไปอย่างสงบ” เงินทุกบาททุกสตางค์จากพี่ๆ ได้ถูกนำไปใช้เพื่อค่ารักษาส่วนที่ยังคงค้างอยู่ เพื่อให้น้องได้ออกจากโรงพยาบาลเป็นครั้งสุดท้าย (แอดไม่อาจอธิบายความรู้สึกนี้ออกมาได้ทั้งหมด เพราะมันเกินจะบรรยายจริงๆ )
ล่าสุดที่ร้าน สเต็ก แม่น้องการ์ตูน ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนราษฎร์บูรณะ ตรงข้ามธนาคาร กสิกรไทย นางสาว ศรัญญา ชำนิ อายุ 45 ปี แม่น้องการ์ตูน ได้เปิดเผยกับทีมผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตา ว่า ก่อนหน้านี้ 3 สัปดาห์ ได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลว่า น้องนั้นมีอาการ ไม่ไหวแล้ว มีไข้ และน้องมีอาการโคม่าและทำการรักษา ตัวน้องเองนั้นไม่สามารถหายใจเองได้ โดยพยามทุกอย่างแล้วน้องไม่ดีขึ้น
จนเมื่อวานทางคุณหมอได้พูดคุยกับทางคุณแม่ในเรื่องการดูแลน้อง ถ้าจะดูแลน้องต่อไปต้องมีเครื่องช่วยหายใจเพราะน้องไม่สามารถหายใจเองได้ และต้องมีคนคอยดูแลน้องตลอด โดยทางครอบครัวได้มีการพูดคุยกันถ้ามันเกิดอะไรขึ้นกับน้องทางครอบครัวตอนนี้ก็รับไหว เพราะตอนนี้น้องเค้าเหนื่อยมาก น้องเอง็สู้มา11ปีแล้ว เลยมาคุยกันที่ร้าน เราเองต้องหาเงินจ่ายทางโรงพยาบาลทางน้องแอดมินเพจก็รู้ในเรื่องนี้ จึงมีการลงในเพจจนมีการทักมาช่วยเหลือ ก็เลยกลายเป็นเรื่องขึ้นมา
น้องนั้นรับรู้ทุกอย่าง เพียงแต่พูดไม่ได้ ก็ไม่เข้าใจสังคมโซเซียลทำไม่ต้องมาด่าๆเราทำไมไม่ไปด่าคนที่ทำให้น้องเป็นแบบนี้ ตัวแม่เองกับครอบครัวและทีมแอดมินได้ตัดสินใจในส่วนนี้ไปแล้วครั้งนี้ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่หนักมาก ใจก็อยากสู้ต่อแต่มีใครถามน้องบ้างไหม น้องเค้ารับไหวไหม คนเป็นแม่รับทุกอย่างทุกกระแส จนบางทีรับไม่ไหว แม่คิดแล้วแม่ทำทุกอย่างดีที่สุดแล้วในทุกๆด้าน ใครสงสัยอะไรให้มาถามได้เลยที่ร้าน ไม่ใช่เอาแต่ด่า
ในส่วนทางคดีก็เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ทางคู่กรณีก็ไม่รู้สึกรู้สาอะไร ทำไมคนที่จ้องจะด่าไม่ไปด่าคู่กรณี สิ่งที่อยากจะบอกขอบคุณกำลังใจและทุกสิ่งที่ยังมีคนดูแลและเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ขอบคุณสังคมที่สนใจในเรื่องราวนี้ ไม่อยากพูดถึงคู่กรณีเรื่องราวมันเกิดขึ้นมา11ปีแล้ว ทำไมคนที่ทำเค้าไม่รู้สึกอะไรอยากให้สั่งคมไปตามหาคู่กรณีดีกว่าเอาเวลามาคอมเมนต์ด่าแม่