- 03 พ.ค. 2568
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับสาวร้านก๋วยเตี๋ยว เปิดบัญชีม้า 500 ให้แก๊งคอลฯหลอกลงทุนร้านทอง จนมีเงินหมุนเวียนกว่า 3 ล้าน
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.วรพจน์ ลลิตจิรกุล สว.กก.3 บก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.3 บก.ปอศ. ดำเนินคดีกับ น.ส.พรรณิการฯ อายุ 31 ปี แม่ค้าก๋วยเตี๋ยว เปิดบัญชีม้า 500 ให้แก๊งคอลฯหลอกลงทุนร้านทอง จนมีเงินหมุนเวียนกว่า 3 ล้าน
ในฐานความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน, เปิด หรือ ยินยอมให้บุคคลอื่น ใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือ บัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตน หรือ เพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือ ยินยอมให้บุคคลอื่นใช้ หรือ ยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน โดยประการที่รู้ หรือ ควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี”
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการขยายผลจากคดีที่มีผู้เสียหายถูกหลอกให้ลงทุน โดยแอบอ้างชื่อห้างทองดัง มาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยคนร้ายจะมีพฤติการณ์สร้างกลอุบายเพื่อหลอกลวงเหยื่อผ่านเพจเฟซบุ๊กปลอมจำนวนมาก
โดยมีการอ้างเป็น เพจเฟซบุ๊กของ "ร้านทองชื่อดัง" เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ทั้งยังใช้โลโก้หรือเอกสารปลอมของร้านทองดังกล่าวทำการโฆษณาผ่านเฟซบุ๊กเป็นจำนวนมาก เพื่อชักชวนเหยื่อให้ลงทุนในการเทรดหุ้น เมื่อเหยื่อลงทุนเงินจำนวนที่สูงขึ้น กลับไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ จากกรณีดังกล่าวทำให้มีประชาชนหลงเชื่อและร่วมลงทุนเทรดหุ้น (ปลอม) จำนวนมาก
โดยจากการสืบสวนขยายผลในส่วนของเส้นทางการเงิน พบบัญชีธนาคารที่มีการทำธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียหายในคดี ซึ่งมียอดเงินหมุนเวียนในบัญชีเกือบ 3 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนพบตัวของ น.ส.พรรณิการฯ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารดังกล่าว จึงได้เชิญตัวมาเพื่อทำการสอบสวนต่อพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. จากนั้นจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบี้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในข้อหาเปิดบัญชีม้า ซึ่ง น.ส.พรรณิการ ให้การว่าตนประกอบอาชีพเป็นแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว ซึ่งต่อมาได้รับการชักชวนจากนายทัศนัย ให้เปิดบัญชีธนาคารผ่านทางออนไลน์ให้ โดยได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 500 บาท และมี น.ส.สิริกรฯ เป็นคนเปิดลิงก์ขั้นตอนการเปิดบัญชีธนาคารผ่านทางแอปพลิเคชันในมือถือ (จากตรวจสอบพบว่า น.ส.สิริกรฯ เป็นผู้ต้องหามีหมายจับในคดีหลอกลงทุนอื่นๆด้วย) โดยหลังจากเปิดบัญชีธนาคารเรียบร้อย ได้มอบมือถือพร้อมเบอร์ที่ใช้เปิดบัญชีธนาคารให้กับ น.ส.สิริกรฯ ต่อไป
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่า การรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารหรือให้ผู้อื่นใช้บัญชีธนาคารของตนเองนั้น ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย โดยมีความผิดตาม พรก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ระบุว่า “เจ้าของบัญชีม้า หรือเบอร์ม้า ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
จึงขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนทราบถึงความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับบัญชีม้า และวิธีป้องกันตนเอง โดยอย่าเปิดบัญชีธนาคารให้กับคนอื่น, อย่าให้ใครยืมใช้บัญชีธนาคาร, หมั่นตรวจสอบบัญชีเป็นประจำ หากพบความผิดปกติ ให้รีบแจ้งธนาคารทันทีเพื่อขอคำแนะนำ และระงับบัญชี, ระวังข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อมูลบัตรประชาชนทั้งด้านหน้า-หลัง, รหัส OPT ของธนาคาร เพราะมิจฉาชีพอาจนำข้อมูลเหล่านั้น ไปเปิดบัญชีม้าได้ และกรณีที่มีหมายเรียกจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจมายังท่าน ขอให้ดำเนินการตามหมายเรียก อย่าละเลยไม่ดำเนินการตามหมายเรียก มิฉะนั้นอาจเป็นเหตุให้ถูกออกหมายจับได้