- 04 พ.ค. 2568
ฤดูร้อนของไทยไม่ใช่แค่เรื่องของอากาศร้อนธรรมดา โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว ที่ร่างกายอาจ "ล้ม" วูบจากอุณหภูมิสูงได้โดยไม่ทันตั้งตัว
อันตรายหน้าร้อน แยก ไข้ กับ ฮีทสโตรก ไม่ออก อาจถึงชีวิตได้ ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช ผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง มช. เน้นย้ำถึงความสำคัญของการ "แยก 'ไข้' ออกจาก 'ฮีตสโตรก'" เนื่องจากวิธีการดูแลรักษาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และความเข้าใจผิดอาจนำมาซึ่งความสูญเสียที่ไม่คาดคิด
ไข้ (Fever) VS ฮีตสโตรก (Heat Stroke): สัญญาณอันตรายที่ต้องสังเกต
จุดสังเกต ไข้ (Fever)
- สาเหตุหลัก : ร่างกายเพิ่มอุณหภูมิเพื่อต่อสู้เชื้อโรค
- เหงื่อ : มักมีเหงื่อออก, อาจมีอาการหนาวสั่นร่วมด้วย
- การควบคุมอุณหภูมิ : ร่างกายยังควบคุมอุณหภูมิได้ในระดับหนึ่ง
- อาการเด่นอื่น ๆ : -
- ความรุนแรง : โดยทั่วไปไม่อันตรายถึงชีวิต
จุดสังเกต ฮีตสโตรก (Heat Stroke)
- สาเหตุหลัก : ร่างกายระบายความร้อนไม่ทันจากสภาพอากาศร้อนจัด
- เหงื่อ : เหงื่อมักหยุดไหล, ตัวแห้ง
- การควบคุมอุณหภูมิ : ควบคุมไม่ได้! อุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อย ๆ
- อาการเด่นอื่น ๆ : สับสน, มึนงง, อาจหมดสติ
- ความรุนแรง : อันตรายถึงชีวิต! หากไม่ได้รับการรักษาทันที
ระดับอุณหภูมิที่ต้อง "ตระหนัก"
- 30–35°C: เริ่มเหนื่อยง่าย, เหงื่อออกมากขึ้น
- 35–40°C: เสี่ยงเป็นลม, ตะคริว, ความดันโลหิตต่ำ
- 40–45°C: อันตราย! เสี่ยง "ฮีตสโตรก" อาจส่งผลเสียต่อสมอง, หัวใจ, ไต
- >45°C: วิกฤต! เสี่ยงช็อกและเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็ว
- >50°C: ร่างกายทนไม่ได้, เซลล์เสียหายทันที
ข้อควรรู้: สัตว์เลือดอุ่นอย่างคนและสุนัขสามารถควบคุมอุณหภูมิร่างกายได้เอง แต่ต้องได้รับน้ำและอาหารเพียงพอ ส่วนสัตว์เลือดเย็นอุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงตามสภาพแวดล้อม
คำเตือนสำคัญ: หากพบว่าตัวร้อน แต่ ไม่มีเหงื่อ, ผิวแห้ง, สับสน อย่าคิดว่าเป็นแค่ไข้ ให้สงสัย "ฮีตสโตรก" ทันที และรีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด เพราะภาวะนี้สามารถคร่าชีวิตได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง