ปภ. เตือน 40 จังหวัด ระวังพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง 9 - 13 พ.ค. นี้

ปภ. เตือนด่วนรายชื่อ 40 จังหวัด ระวังพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง 9 - 13 พ.ค. นี้

เตือน 40 จังหวัด ระวังพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง โดยเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2568 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ และ กทม. เฝ้าระวังสถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขัง ในช่วงวันที่ 9 - 13 พ.ค. 2568

 

ปภ. เตือน 40 จังหวัด ระวังพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง 9 - 13 พ.ค. นี้

โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสม เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกล สาธารณภัยให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์และวิธีการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง  


นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 2 (111/2568) ลงวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.00 น. แจ้งว่า ในช่วงวันที่ 9 - 12 พฤษภาคม 2568 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และทะเลจีนใต้ 


ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานคร จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นบางพื้นที่ โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าบางพื้นที่ สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น 

นอกจากนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ แจ้งพื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมือง โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ภัย ระหว่างวันที่ 9 - 13 พฤษภาคม 2568 ดังนี้


พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานคร   


พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม แยกเป็น

 

  • ภาคเหนือ 12 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน (อ.ปาย อ.ปางมะผ้า) เชียงใหม่ อ.แม่แตง อ.เชียงดาว อ.เวียงแหง อ.พร้าว อ.แม่อาย อ.ฝาง อ.ไชยปราการ อ.จอมทอง อ.สะเมิง อ.แม่วาง อ.แม่ริม) เชียงราย (อ.เมืองเชียงราย อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่สรวย อ.แม่สาย อ.เชียงแสน อ.เทิง อ.พาน) ลำปาง (อ.สบปราบ อ.วังเหนือ อ.งาว อ.เกาะคา) พะเยา (อ.เมืองพะเยา อ.แม่ใจ อ.ภูกามยาว อ.ดอกคำใต้ อ.เชียงม่วน) แพร่ (อ.เมืองแพร่ อ.สอง อ.ร้องกวาง อ.หนองม่วงไข่) น่าน (อ.นาน้อย อ.นาหมื่น) อุตรดิตถ์ (อ.ท่าปลา อ.ฟากท่า) สุโขทัย (อ.เมืองสุโขทัย อ.กงไกรลาศ อ.คีรีมาศ) กำแพงเพชร (อ.ขาณุวรลักษบุรี อ.บึงสามัคคี) พิษณุโลก (อ.วังทอง อ.ชาติตระการ อ.นครไทย) และ นครสวรรค์ (อ.แม่วงก์)

 

  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ เลย (อ.เมืองเลย อ.เชียงคาน อ.ภูกระดึง อ.ผาขาว  อ.ภูเรือ) หนองคาย (อ.เมืองหนองคาย อ.รัตนวาปี) บึงกาฬ (อ.ปากคาด) ชัยภูมิ (อ.เมืองชัยภูมิ อ.คอนสาร อ.บ้านเขว้า อ.จัตุรัส) มหาสารคาม (อ.วาปีปทุม) นครราชสีมา (อ.คง อ.บ้านเหลื่อม อ.จักราช อ.พิมาย) สุรินทร์ (อ.ปราสาท อ.กาบเชิง อ.สังขะ) และ อุบลราชธานี (อ.เขื่องใน อ.สำโรง)

 

  • ภาคกลาง 5 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว (อ.คลองหาด อ.อรัญประเทศ) ฉะเชิงเทรา (อ.เมืองฉะเชิงเทรา  อ.บ้านโพธิ์) ชลบุรี (อ.เมืองชลบุรี อ.ศรีราชา) จันทบุรี (อ.เขาคิชฌกูฏ อ.มะขาม) และ ตราด (อ.บ่อไร่ อ.เขาสมิง)

 

  • ภาคใต้ 11 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร (อ.สวี อ.หลังสวน) สุราษฎร์ธานี (อ.เกาะสมุย เกาะพะงัน ดอนสัก อ.กาญจนดิษฐ์) นครศรีธรรมราช (อ.ขนอม สิชล อ.นบพิตำ) ยะลา (อ.ยะหา อ.รามัน) นราธิวาส (อ.เจาะไอร้อง สุไหงปาดี สุไหงโก-ลก อ.แว้ง) ระนอง (อ.กะเปอร์ อ.สุขสำราญ) พังงา (อ.เมืองพังงา คุระบุรี ตะกั่วป่า เกาะยาว อ.ท้ายเหมือง) ภูเก็ต (ทุกอำเภอ) กระบี่ (อ.คลองท่อม อ.เหนือคลอง) ตรัง (อ.วังวิเศษ) และ สตูล (อ.ละงู ควนกาหลง อ.ทุ่งหว้า)


พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมขัง

  • ภาคกลาง 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี (อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอบางใหญ่ อำเภอบางกรวย และอำเภอปากเกร็ด) ปทุมธานี (อำเภอลำลูกกา และอำเภอคลองหลวง) และจังหวัดสมุทรปราการ (อำเภอเมืองสมุทรปราการ อำเภอบางพลี อำเภอบางบ่อ และอำเภอพระสมุทรเจดีย์)
  • กรุงเทพมหานคร

 

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ และกรุงเทพมหานคร รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ทุกเขต โดยติดตามสภาพอากาศ และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า กรณีพื้นที่เสี่ยงฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง

 

ขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศและข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด ตลอดจนตรวจสอบบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันอันตรายจากการถูกล้มทับ รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรให้จัดทำที่ค้ำยันต้นไม้หรือที่กำบัง เพื่อป้องกันพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย 

 

ส่วนกรณีพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขัง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่แต่ละจุดอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักหรือบริเวณฝนสะสม อาจส่งผลให้เกิดอุทกภัยได้ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง 


นอกจากนี้ ขอให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และขอให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด


ปภ. เตือน 40 จังหวัด ระวังพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง 9 - 13 พ.ค. นี้