สาวนายหน้า ยอมเปิดปากเหตุผลกล้ารับเงิน ทิดแย้ม พูดแล้วเอาทำอะไร

จากการสอบสวนพบความเชื่อมโยงระหว่างนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง กับ น.ส.อรัญญาวรรณ ซึ่งรู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนที่วัดไร่ขิง โดยฝ่ายหญิงเคยขอยืมเงิน 40 ล้านบาทในปี 2564 เพื่อไปลงทุน และมีการติดต่อสื่อสารกันอย่างใกล้ชิดผ่านวิดีโอคอลเรื่อยมา รวมถึงพบคลิปวิดีโอไม่เหมาะสมในโทรศัพท์อดีตเจ้าอาวาส นอกจากนี้ ยังพบเส้นทางการเงินที่พระลูกวัดชื่อพระมหาเอกพจน์เป็นผู้ฝากเงินเข้าบัญชีของ น.ส.อรัญญาวรรณ ผ่านธนาคารไทยพาณิชย์หลายสาขา รวมมูลค่าทั้งสิ้น 31.4 ล้านบาท ยิ่งตอกย้ำความสัมพันธ์และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของอดีตเจ้าอาวาสรายนี้

 

ล่าสุด เมื่อเวลา 10:45 น. วันที่ 16 พ.ค.68 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจตำรวจสอบสวนกลาง นายอนิสร รุ่งเรือง ทนายความของ น.ส.อรัญญาวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ได้เดินทางมาติดต่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าเวรรักษาความปลอดภัยขอเยี่ยมผู้ต้องหา โดยใช้เวลาสั้นๆ ก่อนจะออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า 

 

 

หลังจากได้มีการพูดคุยกับ น.ส.อัญญาวรรณ และได้ร่วมฟังการสอบปากคำตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทราบข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่า ตัวของ น.ส.อรัญญาวรรณ ไม่ทราบว่าเงินที่ทางทิดแย้ม โอนมาให้เป็นเงินของวัด เพราะคิดว่าเงินจำนวนนี้เป็นเงินส่วนตัวของทิดแย้ม เนื่องจากตัวทิดแย้มเองบวชมาแล้วหลายพรรษา รวมถึงในอดีตก็เคยให้ด้วยความเสน่หา

 

แต่พอหลังจากให้โดยเสน่หา ก็เริ่มมีการทำหนังสือสัญญารับสภาพหนี้เพื่อให้มีการทยอยจ่ายหนี้ นอกจากนี้ทางน.ส.อรัญญาวรรณ ไม่ได้เป็นเจ้าของเว็บพนัน และตัวของทิดแย้มเองก็ไม่ได้โอนเงินเข้ามาเพื่อเล่นการพนันกับน.ส.อรัญญาวรรณ ซึ่งเงินที่ยืมมาจากทิดแย้ม ตัวของน.ส.อรัญญาวรรณ ก็ยืนยันว่าไม่ได้นำไปเล่นการพนันจนหมด เพราะส่วนใหญ่เงินที่ยืมจะนำไปลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์ 
 

จะมีเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบบางครั้งที่นำไปลงกับการพนัน สำหรับตัวเลขเงินยืมทั้งหมดในขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันตัวเลขได้ว่ามีจำนวนเท่าใด เนื่องจากว่าในบัญชีของ น.ส.อรัญญาวรรณ มีเงินหมุนเวียนเป็นจำนวนมาก และในบางครั้งก็มีการทยอยใช้หนี้ไปแล้วด้วยบางส่วน หลังจากที่ได้กำไรจากการลงทุน 

 

ผู้สื่อข่าวยังถามย้ำด้วยว่าตัวของ น.ส.อรัญญาวรรณ ว่าไม่รู้จริงๆ ใช่หรือไม่ว่าเงินที่ทิดแย้มได้โอนเข้ามาให้ เป็นเงินของวัด ทางทนายความ ยืนยันคำพูดของน.ส.อรัญญาวรรณ ว่า ไม่ทราบเรื่องจริงๆ ว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินของทางวัด เพราะคิดว่าเป็นเงินส่วนตัวที่ทิดแย้มได้เก็บสะสมเอาไว้ อีกทั้งที่กล้าขอยืมและกล้ารับเงินเนื่องจากคิดว่าพระก็คือบุคคลธรรมดาคนหนึ่งที่มีเงินเก็บ ที่สำคัญตัวของน.ส.อรัญญาวรรณ ก็ไม่ได้เจตนาที่จะยืมมาเล่นการพนัน แต่เป็นการนำมาลงทุนมากกว่า

 

ส่วนเรื่องจำนวนเงินที่ทิดแย้มได้โอนเข้าไปเล่นการพนันออนไลน์ ตัวของน.ส.อรัญญาวรรณ ไม่ทราบเลยว่าทิดแย้มได้มีการโอนเงินไปเล่น มาทราบข่าวก็ตอนที่ได้มีการจับกุมไปแล้ว 

อย่างไรก็ตาม สำหรับประเด็นเรื่องคลิปที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่าเป็นคลิปที่ไม่เหมาะสมระหว่างทิดแย้มและ น.ส.อรัญญาวรรณ ทางทนายความได้บอกว่าเบื้องต้นส่วนตัวยังไม่เห็นคลิปดังกล่าว ซึ่งยังไม่รู้ว่าเป็นการถ่ายเล่น หรือว่าเป็นการเชิญชวนอะไรหรือไม่ คาดว่าคลิปนี้น่าจะยังอยู่ที่พนักงานสอบสวน ส่วนความสัมพันธ์ของทั้งทิดแย้ม และน.ส.อรัญญาวรรณ เป็นเชิงชู้สาวหรือไม่ตนเองยังไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้