"ดร.ธรณ์" ฟันธง เรนบอมบ์ถี่ รถติดเป็นเรื่องปกติ คุณภาพชีวิตดิ่ง

เป็นอีกเนรื่องราวที่น่าสนใจอย่างมาก เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงสถานการณ์โลกร้อนที่กำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในปัจจุบัน พร้อมชี้ให้เห็นถึงอนาคตอันใกล้ที่น่ากังวล หากอุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นถึง 2 องศาเซลเซียสในอีก 30-40 ปีข้างหน้าระบุว่า

แสงแดดแผดเผา ก้อนน้ำแข็งจากกลาเซียร์กำลังละลาย ความหวังที่โลกร้อนไม่เกิน 1.5 องศาจากไป ความพยายามสุดท้ายคือคุมไม่ให้เกิน 2 องศาในอีก 30-40 ปีข้างหน้า
เพราะลูกเราหลานเราจะเป็นผู้ใหญ่ในวันนั้น
เพราะที่ 2 องศา หายนะจะเป็นจริง…
ดังนี้…
โลกจะได้รู้จัก super heatwave คลื่นความร้อนเกิน 50 องศา
heatwave ระดับ 100 ปีครั้ง จะกลายเป็นเจอกันทุก 4 ปี
ภัยแล้งจะเพิ่มขึ้นทวีคูณ บ่อยขึ้น นานขึ้น

• ฝนจะตกกระหน่ำ rain bomb มาเรื่อยๆ ไม่มีหยุด รถติด 3-4 ชม.ที่บางนาเมื่อวาน จะกลายเป็นเหตุการณ์เกิดประจำคุณภาพชีวิตจะตกต่ำ คนจะร้องกรี๊ดๆ ในรถบ่อยขึ้นเรื่อยๆ 

น้ำบ่าน้ำท่วมจากแม่น้ำจะเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ และเพิ่มมากกว่าปัจจุบัน 2 เท่า
คำว่า “ไม่เคยพบเคยเห็น” จะถูกพูดบ่อยครั้ง คำว่า “น้ำมาเร็วมาก” จะกลายเป็นคำพูดสุดโหล
แม้จำนวนพายุอาจใกล้เคียงเดิม แต่ความแรงจะเพิ่มขึ้น 
ซูเปอร์ไต้ฝุ่นจะเกิดขึ้นจนเป็นเรื่องปรกติ ผู้คนต้องอพยพหลบหนีจ้าละหวั่น
มรสุมจะเปลี่ยนไป ฝนไม่ตกตามฤดูกาล การเกษตรจะคาดเดาไม่ได้
ทะเลจะโหดร้าย ปะการัง 99% จะตายหมด

น้ำทะเลจะสูงขึ้น 1 เมตร คนอยู่ริมฝั่งจะพบว่าทุกอย่างกำลังอยู่ใต้น้ำ
คนหลายร้อยล้านจะอยู่ที่เดิมไม่ได้ ต้องอพยพหนีตาย สร้างปัญหาใหม่ๆ ให้ทั่วทุกมุมโลก
เศรษฐกิจ ? บอกไม่ได้ แต่เลวร้ายกว่าตอนนี้แน่นอน 
ฯลฯ ที่เศร้าเกินจะเขียนต่อ
ไม่ได้พูดถึงอนาคตเป็นร้อยปี ผมพูดถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดในอีกแค่ 30-40 ปีข้างหน้า
ถนนพระรามสองที่ควรจะเสร็จแล้ว อาจไม่มีประโยชน์ เพราะรอบด้านกลายเป็นทะเลไปแล้ว
ไม่มีใครคนเดียวหยุดโลกร้อนได้ แต่ใครหลายคน หากช่วยกัน เราชะลอโลกร้อนลงได้ 
ยืดเวลาให้เราปรับตัวอีกสักนิด ให้ธรรมชาติหาหนทางอีกสักหน่อย
น้ำแข็งกำลังละลาย 2 องศากำลังจะมา
และลูกหลานเรากำลังโต…

 

ล่าสุดโพสต์อีกครั้ง เศรษฐกิจย่ำแย่ โลกร้อนซ้ำเติม แค่6วันเจอฝนหนักน้ำท่วมติดๆกัน เงินหายากแต่ออกง่ายโดยไม่รู้ล่วงหน้า นี่แค่แตะ 1.5 องศาเท่านััน 😖 (อ่านเมนต์)

นี่คือเหตุผลที่ world economic forum ประเมินให้โลกร้อนเป็นความเสี่ยงสูงสุดที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจสังคม มากกว่าการหลอกลวงทางข้อมูลและผลกระทบจาก AI เพราะ 2 ประเด็นนั้นอยู่ในการควบคุมของมนุษย์ เราหาทางแก้ปัญหาได้ ขณะที่เรายังไม่เห็นความหวังและหนทางในการคุมก๊าซเรือนกระจก และโลกจะร้อนขึ้นเรื่อยๆ การรับมือและปรับตัวจึงจำเป็นอย่างยิ่ง ผมกำลังเขียนหนังสือเรื่องนี้อยู่ จะนำมาบอกเล่ากับเพื่อนธรณ์ด้วยครับ

ขอบคุณ Thon Thamrongnawasawat