เปิดแก๊งอุ้ม "ดีเจเตเต้" เอี่ยวคนสั่งการขาใหญ่ เคยส่งคนไปเตือน

กรณีการหายตัวไปของ "ดีเจเตเต้" นายวราพงษ์ ขุนศรีจตุรงค์ เมื่อกลางดึก คืนวันที่ 14พ.ค.68 ในพื้นที่ อ.เมือง กาญจนบุรี ล่าสุดพบ"ดีเจเตเต้" กลายเป็นศพ ในวันที่ 18 พ.ค.68 ซึ่งได้มีเบาะแสว่าถูกกลุ่มบุคคลปริศนาขับรถตามประกบ ขณะขับรถออกจากผับที่ทำงาน ก่อนอุ้มตัวขึ้นรถหายตัวไป ซึ่งวันเกิดเหตุดีเจเตเต้ ได้แจ้งกับเพื่อนว่า  มีรถขับตาม ในสายได้ ยินเสียงพูดว่า ผมไม่เกี่ยว แต่ถูกตัดสายแล้วก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย   ทางด้านครอบครัว ได้แจ้งความคนหายที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี  และเริ่มตามหาทั้งทางโซเชียลและสื่อช่องทางต่างๆ 

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้พบเบาะแสสัญญาณมือถือสุดท้ายดีเจเตเต้ ขาดหายบริเวณ เขาหัวโล้น เจ้าหน้าที่เริ่มปูพรมค้นหาตามป่าและจุดต้องสงสัย และได้เข้าตรวจสอบรอบบริเวณ พบมีกระท่อม 2 หลัง ในป่าลึกมีของใช้ส่วนตัว เช่น ถังน้ำ และเปล ไม่ มีไฟฟ้า อยู่ในป่ารก มีทางรถเข้าได้

บริเวณดังกล่าวพบล้อแม็กสีขาวของรถที่ตรงกับในภาพวงจรปิดตอนอุ้มดีเจ เตเต้ ถูกถอดทิ้งไว้ในป่าลึกตำรวจจึงเก็บหลักฐานไว้เปรียบเทียบ  หลังจากนั้นตำรวจจึงได้เรียก ธนเดช และ วิกูล  2ผู้ต้องสงสัย มาสอบสวน แต่ก็ให้การปฏิเสธ ถูกตำรวจจับข้อหา เสพยา 

ล่าสุดวันที่ 18พ.ค.68  พบร่าง ดีเจเตเต้ ในป่าห่างจากจุดอุ้ม 20 กิโลเมตร  ต.ลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรีร่างอยู่ในสภาพที่เริ่มเน่าเปื่อย มือได้ถูกมัดไพล่หลังมัดด้วยเชือก และมีร่องรอยของกระสุน 

สำหรับรายละเอียดของแก๊งอุ้ม ดีเจเตเต้ นั้น  มีผู้ก่อเหตุร่วมกัน 3 คนคือ  คือ ธนเดช และ วิกูล ทั้ง 2 คนเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ซึ่งถูกตำรวจจับข้อหาเสพยา   อีกคนที่กำลังหลบหนี คือ นพพิจิตร ซึ่งเป็นคนขับรถเก๋งสีดำที่ประกบ ดีเจเตเต้  พบว่าได้จอดทิ้งในพื้นที่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี พร้อมกันนี้จากการเช็กกล้องวงจรปิดในผับพบมีคนชี้เป้า ขณะดีเจเตเต้ขณะขับรถออกจากผับเพื่อเดินทางไปหาสาวชื่อ น้ำ

ต่อมาตำรวจ ได้สืบสาวไปถึง  มุ้ย คาดว่าเป็นคนสั่งการ มีเอี่ยวกับคดีนี้ ซึ่งเป็นพ่อค้ายารายใหญ่ในพื้นที่ มีหมายจับ และเคยส่งคนไปเตือน  ดีเจเตเต้ให้เลิกยุ่งกับ น้ำ แฟนตัวเอง คาดเหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้มาจากความหึงหวง ปมดีเจเตเต้ไปแอบสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแฟนสาว