- 20 พ.ค. 2568
เปิดยอดเงินในบัญชี "วัดไร่ขิง" ล่าสุด ที่มีรายได้จากเงินบริจาค - จัดงานบุญ - ตู้บริจาค - การให้เช่าที่วัด และการจำหน่ายวัตถุมงคล
ที่วัดไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เจ้าหน้าที่ชุดใหญ่ นำโดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.), พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.),
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), สำนักงานพระพุทธศาสนา, ป.ป.ท., ป.ป.ช. และตัวแทนธนาคาร 4 แห่ง ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบบัญชีวัดไร่ขิงและบัญชีส่วนตัวของ นายแย้ม จันทร์กรุงเก่า อายุ 70 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังพบพฤติกรรมยักยอกเงินวัดไปเกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์
ความคืบหน้าในคดีนี้ทาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดและอดีตเจ้าอาวาสอย่างละเอียด โดยเฉพาะบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายของวัด ซึ่งส่งรายงานตรงไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนา
จากการตรวจสอบพบว่ามีบัญชีรวมทั้งสิ้น 49 บัญชี ซึ่งก่อนหน้านี้ทางตำรวจ บก.ปปป. เคยตรวจสอบไปแล้วกว่า 20 บัญชี และพบเพิ่มมาใหม่อีก 20 กว่าบัญชี โดยในจำนวนนั้นมี 6 บัญชีต้องสงสัย เนื่องจากไม่มีความเคลื่อนไหวชัดเจน ทางเจ้าหน้าที่ ปปง. และ สตง. จะตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนสรุปเป็นหลักฐานในคดี
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า บัญชีของวัดไร่ขิง มีรายได้จากเงินบริจาค , การจัดงานบุญ , ขายอาหารปลา , ตู้บริจาค , การให้เช่าที่วัด และการจำหน่ายวัตถุมงคล โดยยอดเงินที่ตรวจพบเบื้องต้นอยู่ในหลักล้านบาท ขณะที่ บัญชีส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาส พบว่ามี 4 บัญชี ซึ่งก็มียอดเงินเหลือในหลักล้านบาทเช่นกัน บางบัญชีมีเงินเข้ามาโดยตรงจากวัด ซึ่งจะต้องตรวจสอบต่อไปว่ายอดเงินเหล่านี้มีที่มาอย่างไร
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ได้เรียกผู้เกี่ยวข้องกับการเงินของวัดกว่า 10 คน ทั้งพระสงฆ์ ไวยาวัจกร กรรมการวัด และชาวบ้าน มาสอบถามเพื่อให้ชี้แจงเส้นทางการเงินย้อนหลัง 5 ปี ซึ่งทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนเรื่องการออกหมายจับบุคคลเพิ่มเติมนั้น ยังไม่สามารถตอบได้ ต้องรอผลสรุปจากการสอบสวนและหลักฐานที่เชื่อมโยง
ในส่วนของกระแสข่าวเรื่อง “มาเฟียวัดไร่ขิง” รอง ผบช.ก. กล่าวย้ำว่า “ทุกคนรู้ดีว่าใครมีอำนาจในช่วงที่อดีตเจ้าคุณแย้มยังดำรงตำแหน่ง” พร้อมยืนยันว่าการสืบสวนครั้งนี้จะอาศัยหลักฐาน ไม่ใช่ความรู้สึก โดยจะตรวจสอบในทุกมิติเพื่อให้วัดสามารถเดินหน้าต่อได้ พร้อมฝากถึงประชาชนว่า “หลวงพ่อวัดไร่ขิงที่ลอยน้ำมา กับอดีตเจ้าอาวาส เป็นคนละคน อย่าเหมารวม เพราะวัดต้องอยู่ต่อ”
ส่วนกรณี หญิงคนสนิทของนายแย้ม เจ้าหน้าที่ได้เรียกมาสอบปากคำเบื้องต้นแล้ว โดยอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมร่วมกับคำให้การของ น.ส.อรัญญาวรรณ ผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ ซึ่งยังให้การไม่ครบถ้วน แม้จะรับบางข้อหา
รอง ผบช.ก. ยืนยันปิดท้ายว่า การดำเนินคดีครั้งนี้จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และจะไม่ละเว้นผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าฐานะใด
อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงวันที่ 8 - 16 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา วัดไร่ขิงเพิ่งจัดงานใหญ่ประจำปีไปหมาดๆ ซึ่งงานวัดไร่ขิงประจำปี 2568 ขึ้นชื่อเรื่องค่าที่แพงจนเกิดดราม่าหลายรอบ อีกทั้งคนที่จะได้เช่าที่วัดเพื่อนำของมาขายในงานยังต้องแข่งกันประมูลอีก ถ้าน้อยน้อย ทุนไม่มีก็ถึงขั้นชวดจะได้ลงขายของในงานนี้เลยก็ว่าได้