- 23 พ.ค. 2568
"หมอหมู" เตือนภัยสุขภาพโลก หนองในสายพันธุ์ดื้อยาระบาด เสี่ยงรักษายาก-ดื้อยาหลายชนิด แนะเร่งตรวจ-ป้องกัน
หมอหมูวีระศักดิ์ รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี ได้ออกมาโพสต์ข้อความ เตือน ระบุว่า
โรคหนองในสายพันธุ์ดื้อยา กำลังเป็นที่น่ากังวลในระดับโลก
สถานการณ์ของโรคหนองในสายพันธุ์ดื้อยา (Super Gonorrhoea) ในปี 2025 กำลังเป็นที่น่ากังวลในระดับโลก เนื่องจากเชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhoeae ได้พัฒนาความต้านทานต่อยาปฏิชีวนะหลายชนิด ทำให้การรักษาโรคนี้ยากขึ้นอย่างมาก
สถานการณ์ปัจจุบัน
สหราชอาณาจักร: ในปี 2023 มีรายงานผู้ติดเชื้อหนองในถึง 85,000 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดในรอบ 107 ปี (นับตั้งแต่ปี 1918) โดยพบว่าเชื้อบางสายพันธุ์ดื้อต่อยา ceftriaxone ซึ่งเป็นยาหลักในการรักษา
การแพร่ระบาดในต่างประเทศ**: มีรายงานการติดเชื้อหนองในสายพันธุ์ดื้อยาในหลายประเทศ เช่น ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น สเปน และออสเตรเลีย โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงประเทศไทย จีน กัมพูชา และเวียดนาม
อัตราการติดเชื้อหนองในในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจาก 28.8 รายต่อประชากร 100,000 คนในปี 2017 เป็น 33.6 รายต่อประชากร 100,000 คนในปี 2020
ความท้าทายในการรักษา
การดื้อยาปฏิชีวนะ: เชื้อหนองในสายพันธุ์ใหม่มีความต้านทานต่อยาหลายชนิด ทำให้การรักษาโรคนี้ยากขึ้นอย่างมาก
การพัฒนายาใหม่: มีการวิจัยยา gepotidacin ซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะชนิดใหม่ที่สามารถรับประทานได้ และแสดงผลลัพธ์ที่ดีในการรักษาโรคหนองใน รวมถึงสายพันธุ์ที่ดื้อต่อยา อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันประสิทธิภาพและความปลอดภัยในวงกว้าง
การป้องกันและวัคซีน
โครงการฉีดวัคซีนในอังกฤษ: ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2025 อังกฤษจะเริ่มโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหนองใน โดยใช้วัคซีน 4CMenB ซึ่งเดิมพัฒนาเพื่อป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบชนิด B แต่พบว่าสามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อหนองในได้ประมาณ 50% กลุ่มเป้าหมายหลักคือชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย และกลุ่มเสี่ยงอื่น ๆ
คำแนะนำในการป้องกัน
ใช้ถุงยางอนามัย: การใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อหนองใน
ตรวจสุขภาพทางเพศเป็นประจำ: โดยเฉพาะหากมีคู่นอนหลายคน หรือมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
ระมัดระวังในการเดินทาง: หากเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาดของหนองในสายพันธุ์ดื้อยา ควรใช้ถุงยางอนามัยและตรวจสุขภาพทางเพศหลังกลับมา