- 27 พ.ค. 2568
เพื่อนเจ็บใจเปิดแชทสุดท้ายก่อนเกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์ตก "สารวัตรจ๊อบ" ทักหาเพื่อนพร้อมบอกชัดเจนว่าเครื่องไม่พร้อมบิน ก่อนเกิดเหตุสลดในไม่กี่ชั่วโมงถัดมา
จากกรณีเหตุสลดเฮลิคอปเตอร์ของกองบินตำรวจตก บริเวณแยกประจวบ บ้านหนองกก อำเภอเมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ พื้นที่กองบิน 5 อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีผู้เสียชีวิต 3 รายดีดตัวโดดร่มออกไปได้ 1 ราย โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเวลา 13.00 น. เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ล่าสุดเพื่อนเปิดแชทสุดท้ายสารวัตรจ็อบ คืนก่อนเกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก
มีการยืนยันจาก พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่า เฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์จริง
เบื้องต้นพบผู้โดยสารและนักบินทั้งหมด 3 นาย ได้แก่
พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ (สารวัตรจ๊อบ)
ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย (ผู้กองเอก)
ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย
ข้อมูลเบื้องต้นพบว่า เป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ต่อมาบนเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนของสารวัตรจ๊อบ และ ผู้กองเอก ได้โพสต์ข้อความไว้อาลัยว่า
การตายของเอกและจ๊อบในครั้งนี้ ขอร้องอย่างจริงใจให้ผู้ใหญ่ของบ้านเมืองและประชาชนมอบเครื่องบินลำใหม่ๆให้กับกองบินตำรวจและขอให้ทบทวนปรับปรุงระบบ "นักบินเก่าเครื่องบินใหม่ นักบินใหม่เครื่องบินเก่า"
เพื่อให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ นักบินตำรวจของผมที่ยังคงปฏิบัติช่วยเหลือประชาชนอยู่ ได้มีความปลอดภัยจากใช้เครื่องบินดีๆ และได้ใช้ม้าศึกเครื่องบินประจำตัวของนักบินอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องมากลายเป็นร่างที่ไร้ชีวิตแบบเพื่อนผมเฉกเช่นเหตุการณ์ในครั้งนี้อีกได้ไหมครับ
ต่อมาได้โพสต์ภาพแชทสุดท้าย สารวัตรจ๊อบ ทักมาหาและบอกชัดเจนว่า "เครื่องไม่พร้อมบิน" ซึ่งเป็นคืนก่อนที่จะเกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ตำรวจตกจนทั้งคู่เสียชีวิตเพียงแค่คืนเดียว
ผมเล่าไปก็คงไม่มีใครเชื่อเพราะผมไม่ใช่นักบิน แต่ความเห็นจากนักบินซึ่งเป็นเพื่อนของผมที่ตายไป มันสื่อสารให้ผมเข้าใจอย่างนั้น
คืนก่อนที่เอกกับจ็อบตาย ทั้งสองคนเล่าให้ผมฟังว่าเครื่องบินที่มันขับนั้นอันตรายและเสี่ยงกับชีวิตของคนที่ขับขี่ ซึ่งผมไม่ได้รู้เรื่องเฉพาะทางของเครื่องบินเลยแต่เข้าใจได้ว่าสิ่งที่ทั้งสองคนสื่อและเสนอความเห็นมันคงเสี่ยงตายทุกครั้งที่ขึ้นบิน ไม่ใช่เพราะความสามารถของนักบินที่อ่อนด้อยแต่ความเสี่ยงของตัวเครื่องบินประจำตัวเขานั่นเอง
ยังไม่ครบ 24 ชั่วโมงจากที่มันเล่าให้ผมฟัง ทั้งสองคนก็จากไปจากสาเหตุที่ทั้งสองกังวลมาโดยตลอด
ใจของนักบินต้องกล้าหาญแค่ไหน แม้รู้ว่าจะเสี่ยงตายได้ทุกครั้งที่ต้องขึ้นบิน แต่ก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถทุกภารกิจ
เจ็บใจแทนเพื่อนทั้งสองจริงๆ
“ผมไม่ใช่นักบิน ผมเป็นเพื่อนนักบิน และก็ไม่อยากให้ใครต้องมาตายเพราะเหตุที่ป้องกันได้แบบนี้อีก”