- 28 พ.ค. 2568
"หมอโอ๊ค" เตือนโควิดกลับมาระบาดหนัก เช็กสัญญาณอันตราย เปิดคนกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสอาการรุนแรง หากติดโควิด
ติดตามสถานการณ์โควิด-19 ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2568 นพ.ศุภฤกษ์ วิจารณาญาณ หรือ หมอโอ๊ค เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก หมอโอ๊ค DoctorSixpack ได้เผยถึงอาการโควิด-19 ล่าสุด โดยระบุว่า "โควิดกลับมาระบาดหนัก ส่วนมากอาการไม่หนัก แต่กลุ่มเสี่ยงเสียชีวิตได้ เช็กด่วนสัญญาณอันตราย ถ้ามีอาจตาย ไปรพ. ด่วน"
สัญญาณอันตราย ที่ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที แม้ช่วงแรกจะอาการเบา แต่เพื่อนๆ อย่ารอให้ทรุด เพราะ "โควิดสายพันธุ์ XEC" มีลักษณะคืออาการจะหนักในวันที่ 4-7 หลังติดเชื้อ หมอโอ๊คขอแบ่งเป็น 2 กลุ่มชัด ๆ
กลุ่มอาการทั่วไปที่ควรเริ่มจับตา
- ไข้สูง > 38.5 องศานานเกิน 2 วัน
- ไอไม่หยุด ไอแรง ไอแล้วเจ็บหน้าอก
- หายใจเร็ว เหนื่อยง่าย แม้ไม่ได้ทำกิจกรรม
- รู้สึกเบลอๆ สมองช้า คิดอะไรไม่ออก
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อรุนแรง เหมือนร่างกาย "โดนดูดพลัง"
- หากมีอาการเหล่านี้ให้เริ่มเตรียมตัวตรวจซ้ำหรือขอปรึกษาแพทย์ทันที
กลุ่มอาการวิกฤต ต้องรีบไป รพ. ทันที
- หายใจไม่ทัน เหมือนขาดอากาศแม้แค่นั่งเฉยๆ
- แน่นหน้าอก ใจสั่น
- ซึมมาก ง่วงผิดปกติ พูดไม่รู้เรื่อง
- ปากเขียว ปลายมือปลายเท้าเย็นจัดหรือเขียว
- ปัสสาวะน้อย หรือไม่ถ่ายปัสสาวะเลยนานเกิน 8–10 ชม.
- มีอาการชัก หรือหมดสติ
- เด็กเล็กมีอาการร้องไห้เสียงแหบ หายใจครืดคราด หรือดูดนมได้น้อยลงอย่างชัดเจน
อาการเหล่านี้ไม่ควรรอ ให้รีบไปโรงพยาบาลทันที หรือโทร 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน
หมอโอ๊คสรุปสั้นๆ : กลุ่มเสี่ยงต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด และถ้าเริ่มมีอาการเตือนต้องรีบสังเกตและขอความช่วยเหลือเร็วที่สุด อย่ารอให้ทรุด เพราะบางคนทรุดเร็วในคืนเดียวครับ
กลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสอาการรุนแรงหากติดโควิด
แม้ว่าสายพันธุ์ XEC ที่ระบาดอยู่ในไทยตอนนี้จะทำให้คนส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง แต่กับ “กลุ่มเสี่ยงบางกลุ่ม” เมื่อรับเชื้อแล้ว ร่างกายอาจรับมือไม่ทันจนเกิดอาการรุนแรง ต้องนอน รพ. หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ครับ
1. เด็กเล็ก โดยเฉพาะอายุต่ำกว่า 1 ปี
- ระบบภูมิคุ้มกันยังไม่สมบูรณ์
- ปอดและระบบทางเดินหายใจยังเล็กมาก ติดเชื้อแล้วลงปอดได้เร็ว
- เด็กบางคนแสดงอาการช้า พอป่วยแล้วทรุดไวมาก
- สังเกตยาก เพราะยังพูดไม่ได้
สัญญาณที่พบบ่อยในเด็กเล็ก
- ไข้สูงเกิน 38.5 องศา
- หายใจเร็วหรือมีเสียงครืดคราด
- กินนมน้อยลง ซึม ง่วงผิดปกติ
- ปากเขียว เล็บม่วง ปลายมือปลายเท้าเย็น
2. ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป
- มีการเสื่อมของระบบภูมิคุ้มกันตามวัย
- มักมีโรคร่วม เช่น ความดัน เบาหวาน โรคหัวใจ
- อาการอาจไม่ชัด แต่ทรุดไว เช่น ไม่ค่อยพูด ซึม นอนมากผิดปกติ
- การตอบสนองต่อไวรัสช้ากว่าคนหนุ่มสาว
3. ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง
- เบาหวาน : น้ำตาลสูงทำให้เชื้อไวรัสแบ่งตัวได้ดีขึ้น และภูมิต้านทานทำงานช้าลง
- ความดันโลหิตสูง : มีภาวะหลอดเลือดแข็ง เสี่ยงภาวะแทรกซ้อน
- โรคหัวใจ : เชื้อไวรัสกระตุ้นให้หัวใจทำงานหนักมากขึ้น
- โรคไตเรื้อรัง : ขับของเสียช้า ภูมิอ่อน
- โรคปอด : เช่น ถุงลมโป่งพอง หรือหอบหืด จะยิ่งเสี่ยงหายใจลำบากมากขึ้น
4. ผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำ
- ผู้ที่รับยากดภูมิ เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง, SLE, โรคข้ออักเสบเรื้อรัง
- ผู้ติดเชื้อ HIV ที่คุมเชื้อไม่ดี
- คนที่นอนดึก เครียดเรื้อรัง พักผ่อนน้อย จัดอยู่ในกลุ่มนี้ด้วยครับ (เพราะภูมิตกแบบซ่อนเร้น)
5. หญิงตั้งครรภ์
- ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน
- ระบบไหลเวียนเลือดและปอดทำงานหนักอยู่แล้ว
- มีโอกาสเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ หรือคลอดก่อนกำหนดหากติดโควิด
อาการเหล่านี้ไม่ควรรอ ให้รีบไปโรงพยาบาลทันที หรือโทร 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน
ขอบคุณ FB : หมอโอ๊ค DoctorSixpack