"สาวใหญ่ผูกคอดับกลางดึก" ชาวบ้านผวาหนัก เมื่อเช้ายังเจออยู่

วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 14.13 น. ร้อยตำรวจเอก นราศักดิ์ วงค์โปทา รอง สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตสาเหตุผูกคอเป็นหญิง 1 ราย อยู่ภายในห้องเช่าซอยประชาอุทิศ 28 จึงรับรุดจัดกำลังพร้อมประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่พร้อมอาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุอยู่ภายในบ้านเลขที่ 522 ห้องที่ 25 ชั้นที่ 2 ซอย ประชาอุทิศ 28 แยกย่อยซอยที่ 1 ถนน ประชาอุทิศ แขวง บางมด เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร เป็นลักษณะอาคารปูน 2 ชั้น แบ่งเป็นห้องให้เช่ามีรั้วรอบขอบชิด และจากการตรวจสอบพบร่างผู้เสียชีวิตอยู่ภายในห้องดังกล่าวบริเวณหน้าห้องน้ำลักษณะนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นห้องที่คอมีเชือกไนล่อนสีขาวผูกอยู่แล้วปลายเชือกอีกด้านหนึ่งผูกกับคานประตูห้องน้ำ ในลักษณะหันหน้าเข้าห้องน้ำ การแต่งกายสวมใส่เสื้อกล้ามสีขาวกางเกงยีนส์ขาสั้นสีน้ำเงิน ไม่สวมรองเท้า ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาชื่อนาง หมี่โป๊ะ อายุ 56 ปี จากการตรวจสอบภายในห้องไม่พบร่องรอยของการถูกรื้อค้น และไม่พบร่องรอยของการต่อสู้ บนร่างกายของผู้เสียชีวิตไม่พบบาดแผล มีรอยเชือกรัดที่คอ ลิ้นจุกปาก มือทั้งสองข้างเขียวคล้ำกำแน่น เท้าทั้งสองข้างเขียวคล้ำ เนื้อตัวเเข็งแล้ว คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง 

จากการสอบถาม นางสาว ช่วย เอี่ยมศิริ อายุ 62 ปี เป็นผู้ดูแลห้องเช่า กล่าวว่า ตนถามลูกบ้านเขาบอกว่าเห็นตอนเช้าเก็บของเก่าอยู่ตอน 10 โมงครึ่งไปเอากับข้าวมาให้ทีนี้เคาะประตูเรียกก็เอะใจว่าทำไมเคาะเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่นพอดีให้หนุ่มที่เช่าห้องอยู่ในตึกช่วยไปเปิดประตูให้หน่อย พอหนุ่มคนนี้ปีนเข้าไปจากด้านหลังห้องแล้วเปิดประตูหน้าห้องออกมาก็มาบอกตนว่าป้า ป้าโบ้แขวนคอตายแล้วพอตนได้ยินอย่านั้นตนก็ตกใจ ตนก็เลยโทรแจ้งกู้ภัย ชาวบ้านแถวนี้เขาก็บอกมาว่าเมื่อเช้าเห็นเก็บของเก่าอยู่แต่ตนก็ไม่รู้ว่าเขาไปตอนไหน ตอนที่เขาเห็นกันก็จะอยู่ในช่วง 6 โมงเช้า ถึง 7 โมงเช้า เพราะเขาตื่นเช้ากัน ผู้เสียชีวิตมีอาชีพเก็บของเก่าแล้วก็รับจ้างเป็นแม่บ้าน ก็ไม่เห็นเขาจะพูดอะไรนะเห็นเขาบอกว่ามีแต่เครียดๆแต่ตนก็ไม่รู้ว่าเขาเครียดเรื่องอะไร ตนก็ไม่รู้เรื่องส่วนตัวของเขา ตนก็ไม่รู้แต่เขาพูดกับป้าข้างบ้านเอาไว้ว่า ป้าหนูทำบ่วงเอาไว้แล้วนะ ตนก็นึกว่าเขาพูดเล่นตนยังเคยบอกเขาเลยว่าทำแบบนี้มันไม่ถูกนะเด๋วตายไปจะไม่ได้ผุดได้เกิดนะก็พากันพูดเล่นแบบนี้ตนก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำจริง เขาเคยพูดไว้ว่าเขาทำบ่วงเอาไว้แล้วเมื่อ 4 วันมาแล้ว ปกติผู้เสียชีวิตเขาจะอยู่คนเดียว เขาเช่าอยู่ที่นี่หลายปีแล้วเมื่อก่อนเขาอยู่กับแฟนเขาสองคน แล้วแฟนเขาเสียชีวิตไปแล้ว 4 ปี ตั้งแต่แฟนเขาเสียเขาก็เลยเครียดเขาต้องหาเงินอยู่คนเดียว ก็แบบนี้แหละบ้านเช่าข้าวก็ต้องซื้อ ก็รู้ๆกันอยู่

ส่วนทางด้าน นาย เช้ง อายุ 67 ปี เป็นคนที่เห็นผู้เสียชีวิตนั่งเก็บของเก่าอยู่เมื่อตอนช่วงเวลา 6 โมงเช้าของวันนี้ กล่าวว่า ตอนที่ตนเจอเขาตอนนั้นเป็นช่วงเวลาประมาณ 6 โมงกว่าๆไม่เกิน 7 โมง ตอนนั้นที่ตนเจอเขากำลังเก็บของใส่ถุงดำอยู่ ตนก็แซวไปว่ามากินเหล้ากับตนหรือเปล่า เขาก็ตอบกลับมาว่าไม่เอาจะกินเหล้าขาว ตนก็ไม่รู้ไม่สนใจตนก็เดินเข้าห้อง ตอนที่ตนเห็นเขาก็เหมือนคนปกติทุกอย่างเขานั่งเก็บของใส่ถุงแต่นั่งก้มหน้าก้มตาไม่มองหน้าใครเลย ตนก็พยายามชวนเขากินเหล้าเขาก็ส่ายหน้าอย่างเดียว แล้วตอนนั้นตนก็เมาอยู่ด้วยตอนนั้นตนก็ไม่เอะใจอะไรตนก็เดินเข้าห้องของตนไปกินเหล้าต่อ ตนไปเคาะห้องเขาตอน 8 โมงเช้า เขาก็ไม่เปิดประตูตนก็เฉย พอ 10 โมงกว่าก็เคาะอีกทีนึงเขาก็ไม่เปิดประตูตนก็ยังบอกว่าสงสัยเขาตายแล้วมั้งเรียกกู้ภัยมาเก็บศพเลย แต่ตอนนั้นตนแค่พูดเล่นๆนะ แต่พอมารู้ว่าเขาตายจริงๆตนก็รู้สึกเฉยๆนะเพราะตนเห็นมาเยอะ แต่ถ้าคืนนี้เดินมาเจอกันอีกตนก็เฉยๆนะไมกลัวเพราะตนเห็นมาเยอะผีเจอมาเยอะแล้ว ตนเจอผีมา 3 ครั้งแล้วตอนผัวเขาตายก็ไปหาตนที่ห้อง ถ้าเจอกันอีกตนจะไม่ขอหวยเขาเด็ดขาดผู้ตายเป็นคนเล่นหวยนะแต่เขาให้หวยใครไม่เป็น

ส่วนทางด้าน นาย วินัย เกียรติดำรงค์วัฒน์ อายุ 75 ปี ช้าวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงแถวนี้กล่าวว่า ตนตื่นตอนช่วงตี5 มากวาดถนนทุกเช้า แต่เมื่อเช้าตนเจอเขานั่งอยู่ที่เก้าอี้ม้าหินหน้าบ้านเช่าแต่ตอนที่ตนเจอตนก็ไม่ได้คุยอะไรกับเขานะ ตนก็ไม่ได้สังเกตุว่าเขาอยู่ในสภาพไหนเห็นแต่ว่าเขานั่งอยู่ตรงนี้ ก็เจอกันประจำทุกเช้าอยู่แล้วพอเห็นก็จำได้แค่นั้นเองไม่ได้คุยอะไร ตนก็กวาดหน้าบ้านของตนไปแต่ก็กวาดอยู่นานเลยนะ แต่ตอนนั้นตนไม่รู้ว่าเขาตายแล้ว พอมารู้ตนก็กลัวนะแล้วตั้งแต่สันนี้ไปตนจะไม่ตื่นตอนเช้ามากวาดหน้าบ้านแล้วตนกลัว ผีใครก็กลัวนะ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และเมื่อตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้วจะให้ญาตินำเอกสารมารับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ส่วนทางผู้ดูแลบ้านเช่าได้นิมนต์พระมาเชิญวิญญาณออกจากบ้านหลังดังกล่าวก่อนเพื่อความสบายใจของลูกบ้านและเพื่อส่งวิญญาณผู้เสียชีวิตให้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี