- 30 พ.ค. 2568
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) เดือด เพจปั่นข่าวเฟคนิวส์นิสิตติดเชื้อ HIV เตือนคู่ขานับสิบที่เคยมีสัมพันธ์ ลั่นเอาผิดถึงที่สุด
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีเพจเฟซบุ๊ก "น้องใหม่ มมส 69" แอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัยและเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือน โดยมีการกล่าวอ้างว่านิสิตติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงการแพร่ระบาดของโรคร้ายแรง ซึ่งอาจสร้างความเข้าใจผิดแก่ประชาชน ยืนยันตรวจสอบข้อเท็จจริงรอบด้าน ดูแลนิสิตอย่างใกล้ชิด และดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุด ระบุว่า
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) ขอชี้แจงกรณีเพจเฟซบุ๊ก “น้องใหม่ มมส 69” ซึ่งแอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัยและเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน โดยกล่าวอ้างว่านิสิตติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และมีการกล่าวถึงการแพร่ระบาดของโรคร้ายแรงในลักษณะที่อาจทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด
มหาวิทยาลัยไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านทันทีที่พบการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว พร้อมยืนยันว่า เพจ “น้องใหม่ มมส 69” เป็นเพจที่จัดการโดยบุคคลภายนอก ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับมหาวิทยาลัย
- มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการแจ้งความไว้แล้วในข้อหาแอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัยโดยไม่ได้รับอนุญาต และการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเข้าข่ายความผิดตาม พระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 โดยจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดกับผู้กระทำผิด เพื่อปกป้องชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะเช่นนี้อีก
รองศาสตราจารย์ ดร.นิตยา วรรณกิตร์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิตและภาพลักษณ์องค์กร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ระบุว่า “มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพและสิทธิของนิสิต เรามีระบบดูแลและให้คำปรึกษาในประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของนิสิต ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยจะไม่ยอมให้มีการแอบอ้างชื่อไปใช้ในการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนที่สร้างความเสียหายต่อนิสิต บุคลากร และสถาบันอย่างเด็ดขาด”
มหาวิทยาลัยมหาสารคามยึดมั่นในการสร้างสภาพแวดล้อมทางการศึกษาให้ปลอดภัย เป็นธรรม และเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของนิสิตทุกคน พร้อมขอความร่วมมือให้ประชาชนรับข่าวสารจากช่องทางอย่างเป็นทางการของมหาวิทยาลัยเท่านั้น และใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบในการบริโภคและแชร์ข้อมูลบนสื่อสังคมออนไลน์
ชาวเน็ตจำนวนมากแสดงความเห็นสนับสนุนการดำเนินคดีของมหาวิทยาลัย และเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยดำเนินการประสานกับ Facebook เพื่อปิดเพจดังกล่าวอย่างถาวร โดยระบุว่าเพจนี้เคยมีประวัติปล่อยข่าวปลอมหลายครั้ง จนสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัย
ขอบคุณ Mahasarakham University Thailand