- 06 มิ.ย. 2568
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สอบสวน หลอกเหยื่อสูญเงินกว่า 3 ล้านบาท ผู้ต้องหายอมรับสารภาพสิ้น
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สอบสวน หลอกเหยื่อสูญเงินกว่า 3 ล้านบาท
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม นายรัชต์ศิษฎ์ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 701/2568 ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2568
โดยต้องหาว่ากระทำผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง และผู้ใดเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนเองหรือเพื่อกิจการของตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยอมใช้เลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้โดยรู้หรือควรรู้ว่า จะถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด"
สถานที่จับกุม: บริเวณหน้าห้องพักคอนโดแห่งหนึ่ง ซอยเพชรเกษม 63 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ผู้เสียหายได้รับโทรศัพท์จากบุคคลที่แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่สอบสวนคดีพิเศษ โดยกล่าวหาว่าผู้เสียหายเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดและการฟอกเงิน พร้อมข่มขู่ว่าหากไม่ให้ความร่วมมือจะถูกดำเนินคดี
ต่อมา ผู้แอบอ้างหลอกให้ผู้เสียหายแอดไลน์ พร้อมส่งเอกสารปลอมที่มีตราครุฑเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และบังคับให้ผู้เสียหายย้ายไปพักที่โรงแรม เพื่อไม่ให้บุคคลอื่นรับรู้การ "สอบสวน"
หลังจากนั้นมีการวิดีโอคอล กล่าวหาว่าผู้เสียหายเคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้ต้องหาคดียาเสพติด และให้ถอดเสื้อผ้าเพื่อตรวจสอบร่องรอย โดยอ้างว่าเป็นขั้นตอนหนึ่งของการสืบสวน พร้อมหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน
ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินทั้งหมด 18 ครั้ง รวม 14 บัญชี เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 3,292,127.92 บาท โดยในจำนวนนี้โอนเข้าบัญชีของ นายรัชต์ศิษฎ์ฯ (ผู้ต้องหา) จำนวน 1 ครั้ง เป็นเงิน 249,897 บาท
ภายหลังผู้เสียหายได้นำเรื่องไปปรึกษามารดา และเริ่มสงสัยว่าถูกหลอก จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน
การจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเบาะแสจากสายลับว่า นายรัชต์ศิษฎ์ฯ ปรากฏตัวอยู่ในบริเวณจุดจับกุม เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัว ตรวจสอบชื่อ-นามสกุล และเลขประจำตัวประชาชน ซึ่งตรงกับหมายจับ
เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายจับ อ่านให้ฟังและให้อ่านด้วยตนเอง ผู้ต้องหารับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวจริง และไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อน
จากนั้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ พร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมาย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในเบื้องต้น และถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป