แฉ น้องดอก บอกผู้ชายว่าท้อง คบซ้อน 5 คนว่าพีก เจอข้อมูลล่าสุด "กรรชัย" ยังอึ้ง

อีกหนึ่งประเด็นที่ชาวเน็ตให้ความสนใจ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์แฉสาวหลอกผู้ชายว่าท้องด้วยกัน หวังหลอกเอาเงิน ทั้งที่ตัวเองก็มีสามีที่อยู่กินด้วยกันอยู่แล้ว ซึ่งในรายการโหนกระแส ได้เปิดเผยเรื่องราวดังกล่าว ที่มีผู้เสียหายอ้างว่าถูกหญิงสาวที่ใช้ชื่อสมมติว่า "น้องดอก" หลอกว่าได้ตั้งครรภ์กับตน ทั้งที่ยังอยู่กินกับชายอีกคน พร้อมพฤติกรรมที่ส่อถึงการหลอกลวงเพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเงิน

 

โดยผู้เสียหายชื่อ แย็ก เป็นสาวข้ามเพศ LGBTQ มีอาชีพเป็น เจ้าหน้าที่พยาบาล ที่แต่งงานกับชายคนหนึ่งชื่อ สอง หรือ กฤษ โดย สอง เคยเป็นแฟนกับน้องดอกในช่วงปี 2558 - 2559 ก่อนจะเลิกรากัน แล้วมาคบหากับแย็กในปี 2561 และแต่งงานกันในปี 2562

ทั้งสองใช้ชีวิตคู่กันตามปกติ จนกระทั่งในปี 2567 มีหญิงคนหนึ่งทักเฟซบุ๊กมาหาสามีของแย็ก โดยอ้างว่าต้องการติดต่อเรื่องรถ ก่อนจะเผยว่าเธอมีลูกกับสามี และลูกมีอายุราว 6-7 ขวบ ทำให้สามีรู้สึกผิดและเริ่มส่งเสียเลี้ยงดู

ต่อมา แย็กจับได้ว่าสามีแอบไปเปิดบัญชีธนาคารใหม่ในชื่อน้องดอก เมื่อสอบถามจึงได้รับสารภาพว่าอาจเป็นพ่อของเด็กจริง แย็กจึงยอมแยกทาง แบ่งทรัพย์สินกันครึ่งหนึ่ง เพื่อให้สามีกลับไปดูแลลูกที่อาจเป็นลูกของตนไม่ได้

หลังจากเลิกรากัน สามีติดต่อกลับมาขอคำปรึกษา โดยเล่าว่าในช่วงเวลา 3 เดือน น้องดอกขอเงินไปเกือบ 50,000 บาท โดยอ้างเรื่องเลี้ยงดูลูก แต่เมื่อได้เงินกลับไม่ติดต่อ ไม่อ่านข้อความ และไม่รับสายอีกเลย แย็กจึงติดต่อกลับไปขอให้น้องดอกตรวจ DNA เด็ก เพื่อพิสูจน์ความจริง แต่น้องดอกกลับตอบกลับว่า “เสืxกอะไร” และพยายามบ่ายเบี่ยงมาตลอด

แย็กสืบหาความจริงเอง จนพบว่าลูกของน้องดอกมีอายุเพียง 4 ขวบ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นลูกของสามี เพราะทั้งสองไม่ได้ติดต่อกันมา 7 - 8 ปีแล้วแย็กเดินทางไปที่บ้านของน้องดอกในอำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ และได้พูดคุยกับผู้นำชุมชน รวมถึงชาวบ้านละแวกนั้น ซึ่งยืนยันว่าน้องดอกเคยมีลูกและอยู่กินกับชายคนหนึ่งชื่อ “หนึ่ง” ซึ่งเป็นพนักงานราชการในพื้นที่เดียวกัน

 

ในรายการยังมี “ศูนย์” ชายอีกคนหนึ่งที่อ้างว่าเป็นพ่อแท้ๆ ของเด็ก เล่าว่าเคยคบกับน้องดอกในช่วงเวลาเดียวกับกฤษ โดยน้องดอกตั้งครรภ์ช่วงล็อกดาวน์โควิด และคลอดลูกก่อนกำหนด น้ำหนักแรกเกิดเพียง 1 กิโลกรัม ตนจึงนำเงินทุกบาทมารักษาชีวิตลูกจนรอดมาได้

ไม่นานหลังจากนั้น น้องดอกขอเลิกกับศูนย์และไปคบกับหนึ่ง ศูนย์ยอมรับว่ารักทั้งลูกและเมีย แต่เมื่อน้องดอกตัดสินใจเลือกไป ก็ต้องยอมรับสภาพ เขาโพสต์ข้อความถึงลูกในช่วงเวลานั้น ซึ่งเมื่อหนึ่งในพิธีกรอ่านข้อความดังกล่าวออกอากาศ ทำให้หนึ่งร้องไห้กลางรายการ โดยมีข้อความหนึ่งที่สะเทือนใจว่า “หนูคือไอดอลของพ่อในการสู้ชีวิต เรื่องยากที่สุดหนูยังผ่านมาได้ พ่อก็จะผ่านไปให้ได้เหมือนกัน”

ศูนย์ยังเผยอีกว่า ตนมีโอกาสเจอลูกมากที่สุดเพียงเดือนละครั้ง และถ้าโชคดีอาจได้อยู่กับลูก 1 คืน เวลานั้นจะถ่ายคลิปเก็บไว้ทุกครั้ง เพื่อดูคลายความคิดถึง

 

หลังจากที่เรื่องราวโป๊ะแตกขึ้นมา มีการไปโพสต์แฉพฤติกรรมของน้องดอก และไล่สืบสาวราวเรื่อง จนเจอผู้ชายอีกมากมายหลายคน โดยในไทม์ไลน์ช่วงปี ปี 58-61 น้องดอก คบกับผู้ชายซ้อนกัน ถึง 5 คน ทั้งนายกฤษ นายศูนย์ ที่นั่งในรายการวันนี้ นายอาร์ต, นายเล้ง และ นายสิทธิ์ ซึ่งทุกคนได้เห็นโพสต์ ก็เลยมาแจ้งว่า เคยหมดเงินกับผู้หญิงคนนี้ไปเยอะอยู่ ในช่วงที่คบหากัน น้องดอกก็ได้มาขอเงินทองไปเรื่อยๆ

 

ต่อมาช่วงปี 62 ที่น้องดอกเลิกกับนายศูนย์ ไปคบหากับนายหนึ่งที่เป็นข้าราชการ เขาก็ยังคบซ้อนกับตำรวจอีกคน ขณะที่นายกฤษ ก็ย้อนกลับไปคุยไปหาไปเที่ยวกับน้องดอกอีกรอบ ล่าสุดปี 2568 ทราบว่าน้องดอกไปแต่งงานกับชายคนใหม่แล้ว ชื่อนายบอล 

 

นายหนึ่งบอกว่า ตอนนี้อยากจะขอลูกมาเลี้ยง มาดูแล เพราะไม่อยากให้อดีตภรรยาเอาลูกไปหลอกลวงคนอื่นอีก ตนรักลูกมากๆ ไม่อยากให้เขาใช้ลูกหากินแบบนี้ เขาไม่ได้กีดกันตน เรื่องเจอลูกตนก็ได้เจอ แต่การที่แม่เด็กเอาลูกไปหลอกคนแบบนี้ ก็อยากขอร้องว่าเอาลูกมาให้ตนเลี้ยงเสียยังดีกว่า

 

ทนายแก้ว บอกว่า วิธีหนึ่งที่ทำได้คือ การไปใช้สิทธิ์ทางศาล ไปฟ้องร้องของสิทธิ์ปกครองบุตร เพราะเขาไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ทำให้สิทธิ์ดูแลลูกเป็นของแม่แต่เพียงผู้เดียว แต่การไปใช้สิทธิ์ทางศาลอาจจะช้าหรือยากเกินไป ถ้ามีวิธีที่เจรจากันได้ โดยให้ผู้นำชุมชนเป็นคนกลางในการช่วยเจรจา แล้วไปเซ็นรับรอง ตกลงกันแบบนี้อาจจะดีกว่า

 

ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านบอกว่า ก็เพิ่งรับรู้เรื่องราวทั้งหมดนี้จากรายการ แต่ว่าก็ไม่รู้จะบอก จะพูดยังไง ได้ไปสอบถามแม่เด็ก และยายของเด็ก เขาไม่พร้อมจะมาเคลียร์ จะให้เราทำยังไง จะให้ผู้ใหญ่แก้ปัญหายังไงดี ส่วนตัวก็ไม่อยากให้มันเป็นเรื่องเป็นราว ผู้ใหญ่มองว่าเป็นลูกเป็นหลานทั้งสองฝ่าย มองว่าปัญหานี้พวกคุณเป็นคนก่อกันเอง พอมีเรื่องเดือดร้อน จะให้ทัวร์มาลงผู้ใหญ่ก็คงไม่ใช่เรื่อง

 

ถามว่าผู้ใหญ่ช่วยเป็นคนกลางให้เคลียร์สองฝ่ายได้ไหม ก็ได้อยู่แล้ว แต่เคยไปถามแม่เด็ก ยายเด็ก แล้ว เขาบอกเขาไม่พร้อมจะคุยจะเคลียร์  เรื่องแบบนี้ ผู้ใหญ่ก็เหนื่อยใจ ทำไมไม่มาคุยกันดีๆ ทำไมเลือกที่จะไปออกโหนกระแส ซึ่งทางรายการก็บอกว่า เขามารายการก็เพราะว่าเขาคุยกันไม่ได้นี่แหละ ผู้ใหญ่เองก็พูดเองว่าแม่เด็กไม่ยอมคุย ถ้าคุยกันได้เขาก็คงไม่มา

 

สุดท้ายหลังจากนี้ ทนายแก้วจะส่งทีมงานไปช่วยเหลือเรื่องสิทธิ์ปกครองของ ศูนย์ เพื่อให้ได้สิทธิ์ในการปกครองเลี้ยงดูลูกต่อไป