รู้จัก "รองแม่ทัพณัฎฐ์" คืนสมรภูมิ เคลียร์ช่องบก จบแบบลูกผู้ชาย

 ภายหลังเหตุตึงเครียดระหว่างทหารไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ล่าสุดสถานการณ์ชายแดนเริ่มคลี่คลายลง ซึ่งหนึ่งในบุคคลที่มีบทบาทอยู่เบื้องหลังการคลี่คลายความตึงเครียดครั้งนี้ คือ "พล.ต.ณัฎฐ์ ศรีอินทร์" รองแม่ทัพภาคที่ 2  หลังได้เคลื่อนไหวจากเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุข้อความไว้ว่า "คุยกันอย่างลูกผู้ชาย…ไม่เสียเลือดเนื้อ ไม่เสียความสัมพันธ์ ไม่เสียเศรษฐกิจ"  เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา

 

 จากนักรบแนวหน้า...สู่มือเจรจา
รู้จัก พล.ต.ณัฎฐ์ เติบโตจากพื้นเพแดนอีสานใต้ ผ่านประสบการณ์ภาคสนามโชกโชน โดยเฉพาะในช่วงปี 2552-2554 กับเหตุการณ์ความขัดแย้งบริเวณเขาพระวิหาร เขาเคยดำรงตำแหน่งผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 16 (พัน.ร.163) ค่ายบดินทรเดชา จ.ยโสธร และมีบทบาทสำคัญในการผลักดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่เขาสัตตะโสม เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2552

 

จากวันนั้นถึงวันนี้ ประสบการณ์ตรงจากแนวปะทะและความเข้าใจในพื้นที่ชายแดน กลายเป็นต้นทุนสำคัญในการก้าวสู่บทบาทผู้เจรจาฝ่ายไทยในเหตุการณ์ล่าสุดที่ช่องบก

 

พล.ต.ณัฎฐ์มีจุดแข็งที่หาได้ยากในวงการทหารไทย เขาสื่อสารภาษากัมพูชาได้ดี ทำงานใกล้ชิดกับชาวบ้าน และเป็นผู้บัญชาการภาคสนามที่ลูกน้องให้ความเคารพ ด้วยบุคลิกอ่อนน้อมแต่เด็ดขาด

"ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ
ทหาร คือ ผู้เสียสละเพื่อความอยู่รอดของชาติ
ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน"
อีกข้อความที่สะท้อนอุดมการณ์ทหารของเขา ซึ่งโพสต์ไว้เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2568 ระหว่างเหตุวิกฤติที่ชายแดน

แคนดิเดตตัวเต็งแม่ทัพภาค 2
อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 คนปัจจุบัน จะเกษียณอายุราชการ ทำให้ชื่อของ พล.ต.ณัฎฐ์ กลายเป็นหนึ่งในแคนดิเดตสำคัญที่ได้รับการจับตามอง

แม้เคยมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายสุทิน คลังแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่ภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นรัฐมนตรีกลาโหม ก็ยังคงมีความเป็นไปได้สูงว่าเขาอาจถูกสนับสนุนขึ้นรับตำแหน่งแม่ทัพภาค 2 คนต่อไป ท่ามกลางสถานการณ์ชายแดนที่ยังเปราะบางและต้องการผู้นำที่เข้าใจพื้นที่

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ทางด้านนักข่าวความมั่นคงชื่อดัง "วาสนา นาน่วม" ก็ได้โพสต์ข้อความแสดงความชื่นชม "พล.ต.ณัฎฐ์ ศรีอินทร์" ผ่านโซเชียล ระบุว่า

ชื่นชม “รองแม่ทัพณัฎฐ์-ผบ.ภพ”นำทีม เจรจา “พลโท สรัย ดึก” เหตุ รู้จักกันมานาน เคย สู้กันมาตอน เขาพระวิหาร 2554 จน สามารถตกลงกันได้
เซ็งแซ่ ทหารใน กกล.สุรนารี พูดตรงกันว่า  ต้องถึงมือ “รองณัฎฐ์” ลดการเผชิญหน้า พร้อมกลบคูเลต ไปสู่สภาพเดิม สร้างบรรยากาศ ที่เกื้อกูลต่อการประชุม JBC ใน 14 มิ.ย.นี้


 
การเจรจาระหว่างฝ่ายทหารไทยและกัมพูชา เกิดขึ้นจากการที่ พลโท สรัย ดึ๊ก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้ประสานเชิญฝ่ายไทย   โดยมี พลตรี ณัฎฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นนายทหารอาวุโสของคณะ ร่วมเจรจาในฐานะที่มีความสนิทสนมคุ้นเคย กับ พลโท สรัย ดึ๊ก มายาวนาน  

โดยคณะ ฝ่ายทหารไทย มี พลตรี สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี  ซึ่งก็เป็นนายทหารที่เคยรบในศึกของพระวิหาร 2554  กับ พลตรี มา   เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่บริเวณช่องบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า  จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบการปรับการวางกำลัง ให้กลับไปสู่แนววางกำลังเดิมเมื่อปี พ.ศ. 2567 เพื่อลดการเผชิญหน้า พร้อมทั้งกลบคูติดต่อ(คูเลต)​ กลับไปสู่สภาพเดิม สร้างบรรยากาศที่เกื้อกูลต่อการประชุม JBC ใน 14 มิ.ย. 68 ซึ่งเป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนอย่างยั่งยืนต่อไป

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้ กลไกคณะกรรมการชายแดน ส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางหารือการแก้ไขปัญหาระดับพื้นที่อย่างต่อเนื่องในอนาคต