- 10 มิ.ย. 2568
กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน ฝนเพิ่มขึ้น-ตกหนักถึงหนักมาก ทั่วไทย 9-23 มิ.ย. 68 จับตา หย่อมความกดอากาศต่ำทะเลจีนใต้ มีแนวโน้มพัฒนาเป็นพายุ กระตุ้นมรสุมไทยให้มีกำลังแรงขึ้น
กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศอัปเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวันและลมที่ระดับ 925hPa (ประมาณ 750 เมตร) ล่วงหน้า 15 วัน ระหว่างวันที่ 9-23 มิถุนายน 2568 โดยอ้างอิงข้อมูลจากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) สถานการณ์ฝนในสัปดาห์นี้ประเทศไทยจะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณประเทศไทยตอนบนใกล้ร่องมรสุมและด้านรับมรสุม จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม
คาดการณ์สภาพอากาศช่วง 9-12 มิถุนายน 2568
ในช่วงวันที่ 9-12 มิถุนายน 2568 คาดว่าจะมีฝนเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามันด้านรับมรสุม โดยจะมีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามันและภาคตะวันออก โดยเฉพาะจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง ระยอง จันทบุรี และตราด เนื่องจากมรสุมจะมีกำลังแรงขึ้น และคาดว่าร่องมรสุมจะพาดผ่านบริเวณประเทศไทยตอนบน
กรมอุตุนิยมวิทยาขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และฝนที่ตกสะสม นอกจากนี้ คลื่นลมในทะเลจะมีกำลังแรงขึ้น โดยเฉพาะในทะเลอันดามัน ชาวเรือและชาวประมงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ และเรือเล็กในทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่ง
คาดการณ์สภาพอากาศช่วง 13-23 มิถุนายน 2568
สำหรับช่วงวันที่ 13-23 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนภาคใต้ โดยเฉพาะภาคใต้ตอนล่าง จะมีปริมาณฝนลดลง เนื่องจากลิ่มความกดอากาศสูง (ridge) จากซีกโลกใต้จะแผ่ขึ้นมาปกคลุมภาคใต้ตอนล่าง
สถานการณ์หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 10-13 มิถุนายน 2568 จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงก่อตัวและมีกำลังแรงขึ้นในบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน และมีแนวโน้มที่จะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุหมุนเขตร้อนได้ โดยจะเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือเข้าสู่ประเทศจีนตอนใต้ ซึ่งอาจส่งผลให้มรสุมที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุนิยมวิทยาจะติดตามสถานการณ์นี้เป็นระยะ ๆ อย่างใกล้ชิด แม้ว่าจะยังไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทยในขณะนี้
ทั้งนี้ ข้อมูลการพยากรณ์อากาศนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลนำเข้าและประมวลผลใหม่ จึงควรใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยา
