รู้แล้ว คลินิก "หมอแอร์" เปิดบริการอะไร กระทั่งโดนจับในที่สุด

กำลังพูดถึงอย่างหนักตอนนี้ กับกรณีที่จับ "หมอแอร์" แพทย์หญิงยศพันตำรวจเอก ถูกจับกุมในคอนโดย่านราชดำริ หลังตกเป็น 1 ใน 5 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล ฐานสมคบและร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภทที่ 2 โดยไม่ได้รับอนุญาต และรายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกรณีดังกล่าว ซึ่งมี นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข มาร่วมพูดคุยด้วย

 

ช่วงตอนหนึ่ง นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เล่าว่า ที่มาของยาเหล่านี้ ในกลุ่มยาคลายกังวล ยานอนหลับ มันเป็นยาที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท มันหาซื้อเองไม่ได้ มีกฎหมายควบคุม ต้องมีแพทย์เป็นผู้สั่งจ่าย และผู้เดียวที่ขายได้ คือ อย.เท่านั้น การขาย การสต็อก เหลือเท่าไหร่ต้องเก็บกลับ ต้องมีการลงบัญชีทั้งหมด ทั้งไปและกลับ

 

ความผิดปกติที่พบก็คือ ตั้งแต่ปี 65 มีคลินิกจิตเวช ประมาณ 5 คลินิก ที่มาสั่งซื้อยากลุ่มนี้จาก อย. ต่อมาก็มาเพิ่มเป็น 7 คลินิก ต่อมาปี 67 เพิ่มเป็น 11 คลินิก และเพิ่มเป็น 12 คลินิกในปีล่าสุดปี 2568 ซึ่งการสั่งซื้อมันมีปริมาณสูง ทำให้เกิดความผิดสังเกต และไปตรวจสอบย้อนกลับไปตามคลินิกต่างๆเหล่านี้ จนพบเส้นทางการจ่ายเงินของทุกคลินิก มันมาจาก "หมอแอร์" แต่เพียงคนเดียว

 

สิ่งสำคัญที่สุดคือ การที่หมอแอร์เป็นคนเดียวที่มาจ่ายเงินแทน 12 คลินิก และยังพบอีกว่า ในแต่ละคลินิกที่ว่านี้ ที่มาสั่งซื้อยาผ่านระบบของ อย. มีการให้ข้อมูล ชื่อ-นามสกุลของผู้ป่วย กับอย. ว่าเป็นผู้รับยา แต่พอไปตรวจสอบกลับพบว่า รายชื่อกว่า 300 รายชื่อ เป็นคนที่เสียชีวิตแล้ว รวมถึงชื่อปลอมและชื่อที่ไม่ถูกต้อง 

 

 

อีกหนึ่งข้อมูลชวนอึ้ง ที่ ดร.ธนกฤตบอกก็คือ ไปตรวจสอบ "แทททูคลินิก" ซึ่งเป็นคลินิกของหมอแอร์ จดทะเบียนเปิดเป็นสถานบริการทางการแพทย์ แต่พอไปดูสถานที่จริง กลับเปิดเป็นคลินิกรับสักลาย และลบรอยสัก ยิ่งทำให้งงเข้าไปใหญ่ เพราะการเปิดสักลาย มันก็ผิด พ.ร.บ.สถานพยาบาลแล้ว แล้วยิ่งมาพบข้อมูลการสั่งซื้อยาที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทอีก ก็ยิ่งผิดเข้าไปใหญ่ ไม่ว่าจะสั่งเยอะหรือน้อย แต่ถ้าไม่มีคนไข้จริง การสั่งยาไปเก็บ หรือไปเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ยังไงก็ผิด