- 14 มิ.ย. 2568
สาวโพสต์ "คันมือยุบยิบทั้งคืนไม่หยุด" ก่อนเฉลยสุดสะพรึง หมอชี้โดนพยาธิจากดินลึกไชใต้ผิว จนเป็นตุ่มผื่น เผยชัดสาเหตุจากอะไร
ทำเอาชาวเน็ตสยองทั้งโซเชียล เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Kannika Suakeaw โพสต์ภาพมือของตนเองที่มีบางสิ่งคล้ายเส้นสีแดงคดเคี้ยวอยู่ใต้ผิวหนัง พร้อมแคปชั่นปริศนาให้ชาวโซเชียลช่วยทาย “ให้ทุกคนทายหน่อยค่ะว่ามันคืออะไร ทุกคนจะคิดไม่ถึง แล้วค่อยเฉลย จะได้ป้องกัน” ก่อนที่จะออกมาเฉลยว่าที่เห็นนั้นคือ "พยาธิไชผิวหนัง" โดยเล่าว่า
“เฉลยนะคะหมอบอกว่าโดนพยาธิค่ะ ก่อนจะเกิดพี่แกไปถอนหญ้าทั้งวันนอนกลางคืนมารู้สึกคันมากและตื่นเช้ามีตุ่มน้ำใสคันมากและมันเคลื่อนที่ไปใต้ผิวหนัง หมอบอกเกิดจากอาหารหรือผักดิบหรือจากผิวหนังที่มีแผลซึ่งพยาธิมันอยู่ในชั้นดินที่ลึกมันไม่ได้เกิดขึ้นง่าย เพราะฉะนั้นการล้างมือให้สะอาด อาหารที่สุกสะอาดจึงสำคัญมากส่วนใหญ่จะเกิดกับเด็กมากกว่าผู้ใหญ่” ก่อนจะกลายเป็นกระแสไวรัลที่ชาวเน็ตสนใจอย่างมาก
ขณะเดียวกัน เพจ เอฟเอ็มซีคลินิกเวชกรรม ก็ได้โพสต์ข้อมูลให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคดังกล่าว ระบุว่า CLM เกิดจากตัวอ่อนของพยาธิ (โดยเฉพาะ พยาธิปากขอ ของสัตว์ เช่น สุนัขและแมว) ที่ฟักตัวจากมูลสัตว์ในดินหรือทราย และสามารถไชเข้าสู่ผิวหนังมนุษย์ โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสพื้นดินด้วยเท้าเปล่า หรือนั่ง-นอนบนพื้นดินโดยไม่มีแผ่นรอง
Cutaneous Larva Migrans (CLM) หรือที่บางครั้งเรียกว่า “โรคตัวอ่อนพยาธิไชผิวหนัง” เป็นการติดเชื้อพยาธิชนิดหนึ่งที่ตัวอ่อนของพยาธิ (โดยมากเป็นพยาธิปากขอของสัตว์ เช่น สุนัขหรือแมว) แทรกเข้าสู่ผิวหนังมนุษย์และเคลื่อนที่ไปตามชั้นผิว ทำให้เกิดอาการคันและผื่นลักษณะเฉพาะ
สาเหตุ CLM
- พยาธิปากขอสัตว์ เช่น Ancylostoma braziliense และ Ancylostoma caninum
- พยาธิเหล่านี้พบในอุจจาระของสุนัขและแมว เมื่อถ่ายลงบนพื้นดิน ตัวอ่อนสามารถฟักและอยู่ในดินหรือทราย
- ตัวอ่อนสามารถไชเข้าสู่ผิวหนังมนุษย์ โดยเฉพาะเมื่อเดินเท้าเปล่า หรือนั่ง/นอนบนพื้นดินที่มีการปนเปื้อน
อาการ
- ผื่นแดงรูปเส้นคดงอใต้ผิวหนัง (serpiginous or linear lesions)
- คันอย่างรุนแรง
ผื่นมักจะ เคลื่อนที่ช้าๆ วันละไม่กี่มิลลิเมตรถึง 2 ซม.
- มักพบบริเวณ เท้า, ขา, ก้น, หลัง หรือส่วนที่สัมผัสดิน/ทราย
CLM ไม่สามารถพัฒนาเป็นพยาธิเต็มวัยในร่างกายมนุษย์ ตัวอ่อนจะหยุดโตและตายในที่สุด
พบที่ไหนบ่อย?
พบบ่อยในพื้นที่เขตร้อนและกึ่งร้อน เช่น
- เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- อเมริกากลางและใต้
- ชายหาดในแอฟริกา
มักเกิดกับนักท่องเที่ยวที่เดินเท้าเปล่าบนชายหาดหรือผู้ที่ทำงานตามพื้นดินที่มีมูลสัตว์ปนเปื้อน
การวินิจฉัย
- อาศัยลักษณะผื่นที่เคลื่อนที่และรูปร่างคล้ายรอยทางของตัวอ่อน
- ไม่จำเป็นต้องตรวจเลือดหรือผิวหนังในกรณีทั่วไป
การรักษา
อาการสามารถหายได้เองภายใน 2–8 สัปดาห์ แต่เนื่องจากอาการคันและไม่สบายมักรุนแรง
การรักษาด้วยยาเป็นที่แนะนำ
- Ivermectin: 200 µg/kg รับประทานครั้งเดียว หรือวันละ 1 ครั้ง 1–2 วัน
- Albendazole: 400 mg วันละ 1–2 ครั้ง เป็นเวลา 3 วัน
- ยาทาเฉพาะที่ เช่น thiabendazole cream อาจใช้ร่วมด้วยยาต้านฮิสตามีนสำหรับลดอาการคัน เช่น cetirizine หรือ loratadine
การป้องกัน
- หลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่าบนดินหรือทราย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีสัตว์จรจัด
- ใช้เสื่อ/ผ้าปูรองก่อนนั่งหรือนอนบนพื้น
- กำจัดมูลสัตว์อย่างถูกสุขลักษณะ และควบคุมการถ่ายของสัตว์เลี้ยง
ขอบคุณข้อมูลจาก Kannika Suakeaw และ เอฟเอ็มซีคลินิกเวชกรรม