- 18 มิ.ย. 2568
ดราม่าไม่จบง่ายๆ! เพจดังสรุปให้ หลังครอบครัว "ตั้ม ลพบุรี" โต้กลับเดือด เงิน 4 ล้านไม่ใช่ของพ่อ เล่าสัมพันธ์ซับซ้อนผ่านนิทาน TikTok
จากกรณีเรื่องราวดราม่าของ "ตั้ม ลพบุรี" อดีตสามี "จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง" ยังคงลุกลามไม่หยุด ล่าสุดเพจดัง "อรรถรส" ได้ออกมาโพสต์สรุปประเด็นร้อนฝั่งครอบครัวตั้ม โดยเฉพาะจาก "น้องสาว" และ "ลูกสาว" ที่ขอออกมาชี้แจงในหลายประเด็นที่โลกออนไลน์กำลังวิจารณ์กันอย่างหนัก ถึงเรื่องเงิน 4 ล้าน รวมถึงสครับ จริงๆ แล้ว เงินนั้นเป็นของอดีตภรรยา หรือของตั้มกันแน่
สรุปประเด็นจากฝั่งครอบครัวตั้ม
- ตอนนั้น ที่ตั้มไปคบกับทราย ตั้มไปพูดกับครอบครัวว่า "ให้แม่กับลูกทำไปเลย เดี๋ยวจะไปสร้างแบรนด์ใหม่กับแฟนใหม่เอง"
- ชึ่งตัวทรายเองก็เป็นคนพูดเองว่า "เอาแต่พ่อมา เด่วเลี้ยงเอง"
- ทางครอบครัวยืนยันว่า "พวกเขาไม่ได้หน้าเงิน แต่ตัวตั้มต่างหากที่ทิ้งครอบครัวไปอยู่กับผู้หญิง ไม่เคยมาดูแลแม่กับลูก และปล่อยให้อาเป็นคนรับผิดชอบหมด แต่พอมีเรื่องเดือดร้อน ก็กลับมาให้ที่บ้านช่วยตลอด"
- ส่วนประเด็นที่สังคมสงสัยว่า ทำไมตั้ม ไม่ได้เป็นคนถือเงินเอง เพราะ “กลัวตั้มจะหมดตัวกับผู้หญิง” และเคยเจอเหตุการณ์เดิมมาแล้ว
- และก่อนที่ตั้มยังไม่มีทราย ตั้มก็เป็นคนให้แม่เป็นคนเก็บเงินให้มาตลอด และเวลาตั้มขอเงิน “ขอมาก็ให้ตลอด ให้ทีครั้งละ 5000 บาท”
- ส่วนประเด็นเรื่องช่อง Tiktok ของตั้ม ลูกสาวบอกว่า จริงๆ ช่องนั้นตนเป็นคนสร้าง และเมื่อคืน พ่อยกช่องให้ลูกโดยสมัครใจ ไม่ใช่เราไปยึดช่องเขามา
- นอกจากนี้ ลูกสาวบอกว่า ตอนพ่อมีแฟนใหม่ ...มีคนส่งข้อความมา “เตือนพ่อของเธอ” ว่าแฟนใหม่อาจมีประวัติเคยหลอกผู้ชายคนอื่นมาก่อน
- ในแชทยังระบุชัดว่า “ทรัพย์สินอยู่ในชื่อเธอหมด - บ้าน รถ ทุกอย่าง”
ล่าสุด มีคนส่งข้อความหาเพจ “อรรถรส” ว่าให้ไปส่องช่อง TikTok ของ “พลอย” ซึ่งเป็นญาติฝั่งตั้ม โดยเธอเริ่มปล่อย “นิทานสอนใจ” ผ่านตัวละคร ตาอิน–ตาอยู่ ที่ชาวเน็ตเดาได้ไม่ยากว่าใครคือใคร
เนื้อหา (สรุปจากนิทาน Ep.1 – Ep.2)
- Ep.1 – ตาอินมีชีวิตดีอยู่กับครอบครัว กระทั่งวันหนึ่งได้คุยกับตาอยู่เพียง 7 วัน ก่อนตัดสินใจไปเจอจริง และพัฒนาความสัมพันธ์เร็วมาก
- Ep.2 – เผยอดีตตาอยู่ เคยเป็นมือที่สามของคนอื่น, เคยอ้างว่าฐานะดี แต่ชักชวนครอบครัวตาอินกู้เงิน โอนทรัพย์สิน และใช้เงินโดยไม่ต้องใช้ชื่อของตัวเอง
ตอนนี้ดราม่ากำลังปะทะกันหลายทาง ทั้ง “เงิน–แฟนใหม่–ธุรกิจ–ครอบครัว–TikTok” และดูเหมือนจะยังไม่จบง่าย ๆ เพราะ “แต่ละฝ่ายมีเหตุผลในแบบของตัวเอง”
ขอบคุณข้อมูลจาก อรรถรส