เบื้องลึก ครอบครัวเด็กวัย 14 ดื่มแต่น้ำก๊อกนับเดือนจนเสียชีวิต

จากกรณีเกิดเหตุสลดที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี หลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้รับแจ้งจากชายวัย 44 ปีว่า ลูกชายวัย 14 ปีเสียชีวิตภายในบ้าน โดยครอบครัวมีอาการอ่อนแรงจากการอดอาหารนานนับเดือน ภรรยาของผู้แจ้งก็ล้มป่วยจนไม่สามารถลุกเดินหรือสื่อสารได้

 

 

ล่าสุดมีรายงานว่าสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนนทบุรี (พมจ.นนทบุรี) ได้ร่วมกับศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง เทศบาลนครปากเกร็ด และประธานชุมชน ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว แต่ไม่สามารถเข้าตรวจสอบภายในบ้านได้ เนื่องจากเจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของเด็กที่เสียชีวิต ได้ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนศพของเด็กยังคงอยู่ที่สถาบันนิติเวช รอการตรวจสอบอย่างละเอียด

 

จากการสอบถามเพื่อนบ้านและประธานชุมชน ทราบว่า บ้านหลังนี้มีผู้อยู่อาศัย 3 คน คือพ่อ แม่ และลูกชาย ไม่มีผู้ใดประกอบอาชีพใด ๆ และไม่สุงสิงกับเพื่อนบ้าน เด็กชายที่เสียชีวิตไม่ได้เข้าเรียนหนังสือ และครอบครัวมีลักษณะเก็บตัวอย่างเห็นได้ชัด โดยพื้นที่รอบบ้านเป็นที่อยู่ของญาติฝ่ายปู่และลุงของเด็ก ซึ่งมีอพาร์ตเมนต์ให้เช่า

 

 

ข้อมูลเพิ่มเติมจากประธานชุมชนระบุว่า ครอบครัวนี้เคยได้รับมรดกจากปู่ ซึ่งแบ่งให้เท่ากันทุกฝ่าย แต่เงินส่วนของครอบครัวเด็กถูกใช้หมดก่อน จึงเกิดปัญหาทางการเงิน และต้องคอยหยิบยืมเงินจากพี่ชายของฝ่ายชาย กระทั่งภายหลังขาดการติดต่อกันไปหลายเดือน

 

เจ้าหน้าที่ พม. ระบุว่าจะลงพื้นที่อีกครั้งหลังพ่อแม่ของเด็กฟื้นตัวจากการรักษา เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ส่วนประธานชุมชนเผยว่า ผู้อาศัยบ้านหลังนี้มีพฤติกรรมเก็บตัว ไม่ค่อยพูดคุยกับคนในชุมชน แม้เคยเปิดร้านขายของชำในห้องเช่า แต่ภายหลังได้เลิกกิจการเนื่องจากมีผู้เช่าน้อย

อย่างไรก็ตาม สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตของเด็ก ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 45 วัน เนื่องจากเป็นการเสียชีวิตที่ไม่เข้าข่ายฆาตกรรม โดยหลังจากพ่อแม่ของผู้เสียชีวิตหายดีแล้ว จะสามารถไปรับศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป