ผ่าตัดพลาด "สาวช้ำ" ท่อไตรั่ว ฉี่ไหลไม่หยุด รพ.ให้ยอมความ-ห้ามแฉ

หญิงสาวรายหนึ่งร้องทุกข์ผ่านเพจ "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" หลังเข้ารับการผ่าตัดโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ แต่กลับถูกแพทย์ผ่าตัดพลาดจนท่อไตรั่ว ส่งผลให้มีปัสสาวะไหลออกจากช่องคลอดตลอดเวลา ต้องใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปทุกวัน โดยต้นอ้อระบุว่า  ผ่าตัดเพื่อรักษาอาการแต่กลับได้อาการเพิ่ม สาวร้องมูลนิธิเป็นหนึ่ง แพทย์ผ่าตัดผิดพลาดจนท่อไตรั่ว มีฉี่ไหลตลอดเวลา ซ้ำยังไร้เยียวยา โรงพยาบาลใช้ให้เซ็นต์ยินยอมไม่ฟ้องร้องและออกสื่อ


 

สวัสดีค่ะ ดิฉันขอลำดับเหตุการณ์ว่า เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 ณ คลินิกแห่งหนึ่งที่ จ.ฉะเชิงเทรา ข้าพเจ้าได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์หญิงท่านหนึ่งว่า เป็นเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ และได้รักษาด้วยการทานยา

ต่อมาวันที่ 12 ธันวาคม 2567 ณ คลินิกดังกล่าว ข้าพเจ้าได้ไปตรวจติดตามอาการ แต่อาการไม่ดีขึ้น แพทย์จึงแนะนำให้เลือกระหว่างการทานยากับการผ่าตัด ซึ่งวันนั้นข้าพเจ้ายังไม่ได้ให้คำตอบเรื่องการผ่าตัดและเลือกรับยามาทานต่อ หลังจากนั้นวันที่ 18 มกราคม 2568 ข้าพเจ้ามีประจำเดือนผิดปกติและมีชิ้นเนื้อหลุดออกมาจากช่องคลอด จึงไปพบแพทย์ ณ คลินิกดังกล่าว แพทย์แนะนำให้ทำการผ่าตัด โดยให้ข้าพเจ้าเลือกระหว่างผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้องกับแบบส่องกล้อง ซึ่งข้าพเจ้าขอคำแนะนำแล้ว แพทย์แจ้งว่า แบบส่องกล้องจะหายไวกว่า ข้าพเจ้าจึงเลือกการผ่าตัดแบบส่องกล้อง ในวันเดียวกันข้าพเจ้าได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ตามคำสั่งของแพทย์ เพื่อทำเรื่องขอพิจารณาความคุ้มครองก่อนการผ่าตัดระหว่างโรงพยาบาลและบริษัทประกันชีวิต หลังจากนั้นบริษัทประกันตอบรับ
 
ต่อมาเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 ณ โรงพยาบาล ข้าพเจ้าได้รับการผ่าตัดกับ แพทย์หญิง A นามสมมติ ซึ่งมีฐานะเป็นบุคลากรของโรงพยาบาล การผ่าตัดครั้งนี้ข้าพเจ้าใช้สิทธิ์ประกันสุขภาพส่วนตัว นอนรักษาจนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 และได้ออกจากโรงพยาบาลในช่วงบ่าย หลังจากนั้นในคืนวันเดียวกัน ข้าพเจ้ามีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง พะอืดพะอมและหายใจไม่สะดวก จึงรีบเดินทางไปโรงพยาบาลดังกล่าว เวลาประมาณ 23.00 นาฬิกา โดยแพทย์ให้นอนโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการ 


 

หลังจากนั้นข้าพเจ้าได้กลับบ้านเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 โดยใช้สิทธิ์ประกันสุขภาพส่วนตัวเช่นเคย จนกระทั่งคืนวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 ข้าพเจ้าเริ่มมีไข้ และวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 ช่วงเช้าพบว่ามีน้ำใสๆ ไหลจากช่องคลอดตลอดเวลา จำเป็นต้องสวมใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปวันละ 4-5 ผืน ข้าพเจ้าจึงเดินทางไปพบแพทย์ที่คลินิกเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 แพทย์ได้ทำการจ่ายยามาให้และแจ้งว่า อาการดังกล่าวเป็นผลข้างเคียงจากการผ่าตัด หลังจากทานยาอาการของข้าพเจ้าไม่ดีขึ้น ข้าพเจ้าจึงเดินทางไปพบแพทย์ที่คลินิกอีกครั้ง เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 แพทย์สรุปสาเหตุไม่ได้ จึงทำการปรึกษา นายแพทย์ทางเดินปัสสาวะโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ที่ จ.ฉะเชิงเทรา และได้ทำการนัดให้ข้าพเจ้าไปพบนายแพทย์ดังกล่าว ในวันที่ 2 มีนาคม 2568 ซึ่งข้าพเจ้าได้ไปตามนัด 

แพทย์ทางเดินปัสสาวะแนะนำให้ข้าพเจ้าทำการฉีดสีและ CT Scan เนื่องจากสงสัยว่ากระเพาะปัสสาวะและท่อไตของข้าพเจ้ามีรอยรั่ว ทำให้ปัสสาวะไหลออกตลอดเวลา ซึ่งแพทย์ทางเดินปัสสาวะไม่ได้ระบุถึงสาเหตุ และมีการทำเรื่องไปยังบริษัทประกันฯ เพื่อให้บริษัทฯพิจารณาความคุ้มครองก่อนการทำหัตถการ และได้นัดทำหัตถการดังกล่าวในวันที่ 9 มีนาคม 2568 แต่เนื่องด้วยปัสสาวะของข้าพเจ้าไหลเป็นปริมาณที่มากขึ้น ข้าพเจ้ากังวลเรื่องการติดเชื้อ อีกทั้งข้าพเจ้าเริ่มขาดความเชื่อมั่นกับโรงพยาบาลดังกล่าว เนื่องจากข้าพเจ้ามีอาการผิดปกติมานานหลายวันแล้วแต่ยังหาสาเหตุไม่ได้ แพทย์ผู้ที่ทำการผ่าตัดก็ให้คำตอบไม่ชัดเจน ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจเดินทางไปปรึกษาแพทย์ทางเดินปัสสาวะ ณ โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง เป็นโรงพยาบาลแห่งที่สอง เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 แพทย์โรงพยาบาลแห่งที่สองได้ทำการฉีดสีและ CT Scan ให้ทันที พบว่า ไตด้านขวาของข้าพเจ้าเริ่มมีอาการบวม ท่อไตด้านขวาเสียหาย มีรอยรั่ว อันเนื่องมาจากการผ่าตัดที่ผิดพลาด 

ข้าพเจ้าจึงแจ้งความเสียหายดังกล่าวกับทางโรงพยาบาลแห่งแรก เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 และได้ทำการนัดเจรจาครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 ซึ่งแพทย์ที่ทำการผ่าตัดยอมรับว่า เป็นอุบัติเหตุในการผ่าตัดและมีการกล่าวคำขอโทษต่อหน้าข้าพเจ้า และทางโรงพยาบาลตกลงเป็นวาจาว่า จะทำการผ่าตัดซ่อมท่อไตและดูแลข้าพเจ้าไปถึงอนาคต โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ซึ่งในการผ่าตัดซ่อมท่อไตครั้งนี้ โรงพยาบาลเสนอว่าจะเรียนเชิญ แพทย์ทางเดินปัสสาวะโรงพยาบาลรามาธิบดีมาเป็นผู้ผ่าตัดให้ ร่วมกับ แพทย์ของโรงพยาบาล

ในส่วนการเยียวยานั้นจะนำไปหารือกับคณะผู้บริหาร ข้าพเจ้าจึงตกลงเป็นวาจาและยินยอมให้ทางโรงพยาบาลรักษาข้าพเจ้าต่อ ซึ่งข้าพเจ้าได้รับการรักษาและซ่อมท่อไตดังกล่าวแล้ว เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2568 ปัจจุบันพักฟื้นที่บ้าน ได้ถอดสายสวนปัสสาวะออกและไม่ต้องเดินทางไปล้างแผลแล้ว แต่ยังมีสายสวนท่อไตที่ยังไม่ได้นำออกจากท่อไตด้านขวา ข้าพเจ้ามีนัดถอดสายสวนท่อไตในวันที่ 1 มิถุนายน 2568 รวมถึงการตรวจค่าไตในอนาคต ซึ่งแพทย์ยังไม่ได้ระบุวัน เนื่องจากทีมแพทย์ผู้ทำการรักษาผ่าตัดซ่อมท่อไตแจ้งว่า ข้าพเจ้ามีโอกาสที่ท่อไตจะกลับมาตีบได้ 5 % แต่ไม่สามารถระบุช่วงอายุที่แน่นอนได้ ถือเป็นความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

•  จากความเสี่ยงดังกล่าว ข้าพเจ้าจึงทวงถามถึงสัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษรกับทางโรงพยาบาลแห่งแรก ทางโรงพยาบาลจึงรับนัดเจรจาเป็นครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา แต่การเจรจาไม่เป็นผล เนื่องจากสัญญาดังกล่าวไม่ปรากฎข้อความเกี่ยวกับการดูแลข้าพเจ้าตามที่ตกลง ไม่มีเรื่องการการเยียวยา อีกทั้งยังมีข้อความให้ข้าพเจ้ายินยอมที่จะไม่ดำเนินคดี แจ้งความ หรือร้องต่อสื่อ มีข้อความที่ระบุว่า แพทย์ไม่ได้รักษาผิดพลาด โรงพยาบาลปฏิบัติตามมาตรฐาน 

ซึ่งข้าพเจ้าคิดเห็นว่า ไม่ยุติธรรม เนื่องจากสัญญาไม่เป็นไปตามที่ตกลง และยังไม่ได้พิสูจน์ถึงขั้นตอนการรักษาของแพทย์และโรงพยาบาลแต่อย่างใด ข้าพเจ้าจึงไม่ได้ลงลายมือชื่อในสัญญาดังกล่าว ทางโรงพยาบาลจึงแจ้งว่า หากเป็นกรณีนี้ทางโรงพยาบาลจะต้องนำเรื่องและข้อเรียกร้องที่ได้จากข้าพเจ้า ส่งไปยังสำนักงานใหญ่ที่เป็นเจ้าของเครือ ซึ่งปัจจุบันข้าพเจ้าเจรจากับตัวแทนสำนักงานใหญ่ไปแล้วหนึ่งครั้ง เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 แต่ยังตกลงกันไม่ได้ เนื่องจากตัวแทนสำนักงานใหญ่ปฏิเสธการเยียวยาและแจ้งว่า จะหารือในที่ประชุมให้อีกครั้ง เมื่อถามถึงกำหนดวันที่จะได้ข้อสรุป ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งกลับมาว่า ต้องรอมติจากที่ประชุมไม่สามารถระบุวันให้ได้

ข้าพเจ้าจึงต้องการความช่วยเหลือ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ข้าพเจ้าได้รับความเดือดร้อนขาดรายได้ และมีฐานะยากจนไม่มีทุนทรัพย์มากพอที่จะไปต่อสู้คดีความ



ขอบคุณ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง