เปิดชีวิตอาภัพ เด็กเอ็นเหยื่อสาวท้องหึงผัว เป็นเสาหลักครอบครัว

รู้แล้วยิ่งน่าสงสาร เปิดชีวิตสุดอาภัพ เด็กเอ็นเหยื่อสาวท้องหึงผัว ตื้บดับคารีสอร์ท ที่แท้เป็นเสาหลักครอบครัว

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มีนบุรี เข้าตรวจสอบเหตุทะเลาะวิวาทรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิตภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่งย่านมีนบุรี หลังได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่าเกิดเหตุทำร้ายร่างกายภายในที่พัก

เปิดชีวิตอาภัพ เด็กเอ็นเหยื่อสาวท้องหึงผัว เป็นเสาหลักครอบครัว

 

จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่าเหตุการณ์เริ่มขึ้นเมื่อ น.ส.วรวรรณ ภรรยาหลวง บุกเข้าไปยังรีสอร์ตดังกล่าวเพื่อตามหาสามีของตนซึ่งพาผู้หญิงอีกคนมาพัก เมื่อไปถึงพบ น.ส.พจนารถ อายุ 28 ปี หญิงสาวที่อยู่กับสามีของเธอ จึงเกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง ก่อนที่น.ส.วรวรรณจะลงมือใช้ความรุนแรงด้วยการลากน.ส.พจนารถออกมา ตบ เตะ และกระทืบซ้ำหลายครั้งจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

เปิดชีวิตอาภัพ เด็กเอ็นเหยื่อสาวท้องหึงผัว เป็นเสาหลักครอบครัว

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย” แก่น.ส.วรวรรณ โดยจะเร่งสรุปสำนวนส่งฟ้องและให้เป็นดุลยพินิจของศาลในการพิจารณาต่อไป

ด้านครอบครัวของผู้เสียชีวิตเปิดใจว่า น.ส.พจนารถเป็นหญิงสาวผู้ขยันขันแข็ง เติบโตมาในครอบครัวย่านอ่อนนุช ทำงานหาเลี้ยงพ่อแม่และลูกน้อยวัยขวบเศษ เธอเพิ่งเริ่มงานใหม่ในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในตำแหน่งพนักงานต้อนรับ และมีภาระต้องดูแลครอบครัวทั้งหมด

 

เปิดชีวิตอาภัพ เด็กเอ็นเหยื่อสาวท้องหึงผัว เป็นเสาหลักครอบครัว

ความสัมพันธ์กับนายสงวน สามีของน.ส.วรวรรณ เริ่มต้นได้เพียงไม่กี่วัน โดยฝ่ายชายให้ข้อมูลกับพจนารถว่าได้เลิกรากับภรรยาแล้ว และเลือกจะเริ่มต้นใหม่กับเธอ ขณะที่เพื่อนของพจนารถเผยว่า พยายามเตือนเธอหลายครั้งแต่ไม่ได้รับฟัง

เปิดชีวิตอาภัพ เด็กเอ็นเหยื่อสาวท้องหึงผัว เป็นเสาหลักครอบครัว

 

แม่ของผู้เสียชีวิตเผยทั้งน้ำตาว่า ลูกสาวของเธอไม่ใช่เมียน้อย และไม่เคยคิดแย่งสามีใคร พร้อมตั้งคำถามถึงพฤติกรรมของฝ่ายชายที่ไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือแม้ตอนเกิดเหตุ หรือในช่วงที่ลูกสาวของเธอกำลังจะสิ้นใจ

ด้านนายสงวนให้การกับตำรวจว่า ขณะเกิดเหตุมีอาการมึนเมาและหวาดกลัวว่าจะถูกทำร้าย จึงไม่กล้าออกมาช่วย

 

เปิดชีวิตอาภัพ เด็กเอ็นเหยื่อสาวท้องหึงผัว เป็นเสาหลักครอบครัว

 

คดีนี้สร้างความสะเทือนใจให้กับสังคมอย่างกว้างขวาง โดยภาพจากกล้องวงจรปิดที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบว่าผู้ก่อเหตุลงมือรุนแรงซ้ำหลายครั้ง ขณะที่ผู้เสียชีวิตไม่ได้ตอบโต้หรือมีทีท่าจะใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด แม้ทางญาติของผู้ต้องหาจะยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจให้ถึงแก่ชีวิต แต่การกระทำดังกล่าวก็ไม่อาจลบล้างความสูญเสียที่เกิดขึ้นได้

ตำรวจยืนยันจะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเบื้องต้นได้นำตัวผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการสอบสวนและฝากขังต่อศาลต่อไป