11 จังหวัด รับมือระดับน้ำสูงขึ้น เขื่อนเจ้าพระยา ปรับเพิ่มการระบายน้ำ

เตือน 11 จังหวัดเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำ โดยวันที่ 29 พ.ค. 2568 นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน ออกหนังสือแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 2/2568 ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 11 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา ได้แก่ จังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร ให้เตรียมรับสถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

 

 

นื่องจากกรมชลประทานคาดการณ์ว่า ใน 1- 3 วันข้างหน้า ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 จ.นครสวรรค์ ประมาณ 1,300 – 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และปริมาณน้ำจากลำน้ำสาขา จะมีประมาณ 200-250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งทำให้ปริมาณน้ำที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท จะมีปริมาณระหว่าง 1,500-1,650 ลูกบาศก์เมตรวินาที 

จึงมีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น ในอัตราระหว่าง 1,000-1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ บริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) สูงขึ้นจากปัจจุบันอีก 50 เซนติเมตร ไปจนถึง 1.30 เมตร โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย เตรียมพร้อมรับสถานการณ์และเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
 

สำหรับ สถานการณ์น้ำเจ้าพระยา เมื่อเวลา 9.00 น. ปริมาณน้ำไหลผ่าน สถานีวัดน้ำ C2. จ.นครสวรรค์ มีปริมาณ 1,344 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ที่ อ.เมืองชัยนาท มีปริมาณ 1,423 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปริมาณน้ำระบายท้ายเขื่อน 980 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำท้ายเขื่อน ที่ อ.สรรพยา สูงขึ้นจากเมื่อวาน 94 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 11.12 เมตร (รทก)