ราชกิจจาฯประกาศ "กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย"

ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศ "กทม. เคาะอัตราค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียใหม่ มีผลบังคับใช้ในวันถัดไปหลังประกาศลงราชกิจจานุเบกษา เจ้าของสถานประกอบการเตรียมปรับตัว หลังราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกำหนดเกณฑ์จัดเก็บรายเดือนอย่างเป็นทางการ"

 

 

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย โดยมีรายละเอียดตามประกาศดังต่อไปนี้

โดยที่เห็นสมควรกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย อาศัยอำนาจตามข้อ ๖ ข้อ ๖/๑ และข้อ ๑๑ แห่งข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย พ.ศ. ๒๕๔๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ ๒ ในประกาศนี้
"สถานประกอบการ" หมายความว่า สถานที่ใช้ในการประกอบธุรกิจการค้าและบริการ แต่ไม่รวมถึงโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล โรงเรียนหรือสถานศึกษา โรงแรม และโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน

ข้อ ๓ ให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดน้ำเสีย ชำระค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียเป็นรายเดือน

ข้อ ๔ ให้จัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียจากแหล่งกำเนิดน้ำเสียตามที่กำหนดไว้ในบัญชีอัตราค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียท้ายประกาศนี้ ดังต่อไปนี้

๔.๑ แหล่งกำเนิดน้ำเสียประเภทที่ ๑ หรือประเภทที่ ๒ ซึ่งเจ้าของหรือผู้ครอบครองมีความประสงค์จะขอรับบริการบำบัดน้ำเสียรวมของกรุงเทพมหานคร

๔.๒ แหล่งกำเนิดน้ำเสียประเภทที่ ๑ (ข) หรือประเภทที่ ๒ ซึ่งเจ้าของหรือผู้ครอบครองได้รับบริการบำบัดน้ำเสียรวมของกรุงเทพมหานครก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ

๔.๓ แหล่งกำเนิดน้ำเสียประเภทที่ ๓
 

การแบ่งประเภทแหล่งกำเนิดน้ำเสียของสถานประกอบการตามประเภทที่ ๒ (จ) และประเภทที่ ๓ (ค) ในเดือนแรก ให้ใช้ค่าปริมาณการใช้น้ำเฉลี่ยย้อนหลังหนึ่งปีก่อนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสีย ในกรณีที่ประกอบกิจการไม่ถึงหนึ่งปี ให้ใช้ค่าเฉลี่ยตามระยะเวลาที่ประกอบกิจการ และตั้งแต่เดือนที่สองเป็นต้นไป จะแบ่งประเภทแหล่งกำเนิดน้ำเสียของสถานประกอบการตามข้อมูลปริมาณการใช้น้ำรายเดือน

ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๘

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

ประกาศ ณ วันที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๘